ปลาร่ำไห้ทำดีถูกฟ้อง ทนายแฉสลิปตร.รับเงินญาติบำบัดยา แต่เจ้าตัวอ้าง "ตายแล้ว" (คลิป)

วัทนี่ 24 ก.ย. 64 ช่วงบ่ายวันนี้ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมกับน้ำฟ้า ภรรยาหมอปลา, นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ โกบอย และลุงโทนี่ รวมทั้งทีมงานผู้ติดตาม ได้เดินทางมาที่วัดสร้อยทอง จ.นนทบุรี เพื่อเข้ามากราบพระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง

หมอปลา บอกว่า 1-2 วันนี้ ตนไม่ค่อยสบายใจ จึงอยากมากราบพระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง ตั้งแต่เมื่อวานนี้มีคนส่งภาพตำรวจประชุม และแถลงข่าวพร้อมทั้งผู้เสียหายที่ไปบำบัดยา โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาตนเองทั้งที่เป็นคนเข้าไปช่วยผู้บำบัด ซึ่งพวกเขาบอกว่า "หมอปลา ทนาย นักข่าว อย่าทิ้งผมนะ" แต่มาวันนี้ตนเองโดนแจ้งข้อกล่าวหา มันบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร

ย้อนกลับไปวันที่ลงพื้นที่ไปช่วยที่ศูนย์บำบัดที่วัดท่าพุราษฎร์บำรุง ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่ 14.00 น. ถึง 23.00 น. ไม่มีใครได้กินข้าว ต้องรวมเงินกันเอง 6,000บาทเอาไปซื้อของกินให้ โดยผู้บำบัดขอร้องให้ช่วย บอกว่า "อย่าทิ้งพวกผม" แต่กลับมีบางส่วนอยู่ในวงแถลงของตำรวจที่แจ้งข้อหาตนเอง

ขณะเดียวกัน หมอปลา ร้องไห้พูดเสียงสั่นเครือว่า หลังจากนี้ตนเองจะปรึกษาทนายไพศาล และโกบอยว่าสิ่งที่ทำไปตนเองได้อะไรกัน ตนเองไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ แค่คิดว่าอยากช่วยคน ให้พวกเขาหลุดพ้นจากความทุกข์ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ตนเองจะช่วยคนต่อไปไหม เพราะทำแบบนี้ไปกลับโดนตรวจสอบ โดนแจ้งข้อกล่าวหา ยอมรับว่าเสียความรู้สึก เสียความตั้งใจ หลังจากนี้ต้องปรึกษาหลาย ๆ คนว่าจะเดินหน้าต่อไหม

วันนี้อยากเดินทางมากราบพระทั้ง 2 รูปให้คำแนะนำ ภายนอกตนเองดูเข้มแข็ง แต่ไม่มีใครรู้ว่าภายในของตนเองเป็นเช่นไร เผื่อว่าหลวงพี่ทั้ง 2 รูปจะมีคำชี้แนะให้ตนเอง ขณะเดียวกันพระมหาสมปองบอกว่า "ก่อนจะรับคำชี้แนะ รับกระดาษทิชชู่ไปเช็ดน้ำตาก่อน" พร้อมยื่นกระดาษทิชชู่ให้

หมอปลา ยืนยันว่า ไปไหนทุกที่เคารพกฎหมาย ไม่เคยทำตัวเหนือกฎหมาย หลังจากนี้ไปช่วยคนไม่รู้จะเจอแบบนี้อีกไหม ต่อไปช่วยคนจากผีก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาช่วยคนกว่า 300 คน กลับมาเกิดปัญหาแบบนี้ ตอนเกิดเรื่องมีไม่กี่คนที่มาปกป้องตนเอง

หลังจากนั้น หมอปลาร้องไห้ ฟุบหน้าซบไปที่ตักของพระมหาไพรวัลย์ พระมหาสมปองได้เอามือมาลูบหัวหมอปลาเพื่อปลอบประโลม และให้กำลังใจ พระมหาไพรวัลย์ บอกว่า "คนอย่างหมอปลา ถ้าไม่จริงไม่พูด ถ้าไม่จริงไม่ทำ เชื่อว่าหมอปลาพูดความจริง คนอื่นไม่กล้ารับรอง แต่ตนเองกล้ารับรอง ตนเองเคยร่วมงานไปช่วยคนกับหมอปลา ตนเองยังรู้สึกเหนื่อย ยังคิดว่าหมอปลาไม่เหนื่อยบ้างหรือไง ขอชื่นชมหมอปลา หลาย ๆ เคสหนัก ๆ หมอปลาไปช่วยชีวิตคนหลายคน ไปช่วยคนที่ตกนรกให้ขึ้นมา"

พระมหาสมปอง บอกว่า "ทำก็โดนด่า ไม่ทำก็โดนด่า เลือกทำดีกว่า ยังมีอะไรให้ทำ บางทีโดนด่ายังทนได้ แต่มันจุกและผิดหวัง ชอบคำพูดพระมหาไพรวัลย์ ที่พูดว่า เราไม่ด้อยค่าจากคนที่ว่าเรา เราไม่ให้คุณค่ากับคนเหล่านั้น ทุกคนให้กำลังใจ คนที่มุ่งมั่นทุ่มเท ช่วยเหลือคน อยากให้กำลังใจหมอปลา ต้องเข้มแข็งและสู้ต่อ"

สืบเนื่องจากที่กรณีนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พากลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบฯ ให้ดำเนินคดีศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ในข้อหาค้ามนุษย์ ตรวจสอบพื้นที่ศูนย์บำบัดอยู่กันแออัดไม่ได้มาตรฐาน มีขบวนการจัดหานำพา เรียกรับเงิน และกักขังทำร้ายร่างกายผู้เข้ารับการบำบัด พร้อมเปิดข้อมูลมีตำรวจจาก จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่

ที่กองบังคับการปราบปราม นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมครอบครัวผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.จักรภัทร กลิ่นอ่อน รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. เพื่อนำหลักฐานเอกสารเป็นสลิปการโอนเงินค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง มามอบให้ประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม

นายไพศาล กล่าวว่า ได้พาพยานบุคคลซึ่งเป็นแม่ของผู้ที่เคยเข้ารับการบำบัดในศูนย์ดังกล่าวมาให้ปากคำ พร้อมกับนำเอกสารสลิปการโอนเงินของครอบครัวผู้เสียหาย ที่โอนให้กับทางศูนย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนาย มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีการโอนเงินให้กับบุคคลเหล่านี้จริง ไม่ได้เป็นการกล่าวหาหรือกลั่นแกล้ง จากคำบอกเล่าของพยานเหล่านี้ก็สอดคล้องกับเอกสารหลักฐานที่นำมามอบให้ ในเอกสารสลิปการโอนเงินมีการระบุชื่อบัญชีปลายทางชัดเจน และบุคคลดังกล่าวจากการตรวจสอบก็พบว่าเป็นตำรวจจริง ส่วนจะทำกันเป็นขบวนการหรือไม่นั้น ต้องให้ทางกองปราบฯพิสูจน์ข้อเท็จจริง

ทีมข่าวได้โทรติดต่อไปทางเบอร์ของดาบตำรวจนายหนึ่ง ชื่อของดาบตำรวจนายนี้ปรากฏอยู่ในใบสลิปรับเงิน ขณะผู้ปกครองหลายท่านได้โอนไป เพื่อให้พาลูกหลานไปบำบัดในสถานที่ดังกล่าว โดยมีประวัติการโทรจากผู้ปกครองรายหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ และให้ข้อมูลมาว่าตำรวจนายนี้ประจำอยู่ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง

ทีมข่าวได้โทรไปตามเบอร์ดังกล่าว อ้างว่าเป็นเบอร์ของดาบตำรวจ เมื่อทีมข่าวโทรไปถามว่า "ใช่เบอร์ดาบไหมคะ" ทางปลายสายได้ถามกลับว่า "มีอะไร" แต่พอทีมข่าวพูดถึงชื่อหมอปลา ปลายสายได้บอกว่า "ดาบตายแล้ว" ก่อนจะวางสายไป

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รับข้อความทางไลน์จากญาติรายหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อมความที่ญาติคุยกับตำรวจ มีการพูดคุยกันและให้โอนเงินให้ด้วยนั้น

นายชัย ผู้เข้ารับการบำบัด ที่ได้เดินทางจาก จ.กาญจนบุรี มาถึงภูมิลำเนาแล้ว เปิดผดผื่นที่ขึ้นตามบริเวณหน้าท้อง และขาทั้ง 2 ข้างให้ทีมข่าวดู เปิดใจว่า ตอนนี้ตัวเองรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาอยู่บ้าน มีความแตกต่างกันอย่างมาก อยู่บ้านตัวเองได้รับอิสระ อยู่ในสถานที่บำบัดตัวเองไม่ได้รับอิสระ เหมือนถูงขัง ขอยืนยันว่าสถานที่บำบัดวัดท่าพุไม่สามารถทำให้ตัวเองดีขึ้นได้แน่นอน อยู่ในนั้นมีแต่ใช้ความรุนแรง มีทั้งใช้ไม้หวายตี ใช้คมแฝกตีผู้ที่ทำผิด

ก่อนเข้าไปบำบัด ตัวเองได้เมาเหล้าแล้วคลั่งอาละวาดอยู่แถวบ้าน แม่ตัวเองจึงติดต่อเจ้าหน้าที่อาสาวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่จึงมาคุมตัวตัวเองที่บ้าน เพื่อไปบำบัดอาการที่วัดท่าพุ จ.กาญจนบุรี ตัวเองก็รับรู้ว่าแม่มีการจ่ายเงินค่าบำบัดอาการให้กับเจ้าหน้าที่อาสา ประมาณ 12,000 บาท โดยหมู่บ้านตัวเองมีผู้เข้ารับการบำบัดทั้งหมด 4 คน คือตัวเอง นายแบงก์อายุ 30 ปี พระชื่อกรดอายุ 20 ปี และนายมุ้ย ผู้เสียชีวิต

สำหรับนายมุ้ย ผู้เสียชีวิต เวลาที่เขาอยู่ในสถานที่บำบัด เขาก็จะชอบขอข้าวตัวเองทาน เพราะเขาบอกว่าเขาทานไม่อิ่ม และตัวเองก็สังเกตว่าร่างกายเขาผอมมาก กระทั่ง 3 วันก่อนเขาเสียชีวิต นายมุ้ยเขาได้มีอาการไข้สูง เจ้าหน้าที่เขาจึงแยกออกไปอยู่ในกุฏิ แล้วตัวเองก็มาทราบว่าเขาเสียชีวิตต่อมา ที่เจ้าหน้าที่แยกนายมุ้ยออกไปนั้น ตัวเองคาดว่าเจ้าหน้าที่เขาคงรู้ว่านายมุ้ยน่าจะมีอาการแย่ถึงขั้นจะเสียชีวิตแล้ว โดยในสถานบำบัดดังกล่าวจะแบ่งเป็น 8 บ้าน แต่ละบ้านจะคุยกับไม่ได้ ถ้าใครพูดคุยกันก็จะถูกลงโทษ ตอนนี้ตัวเองกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดแล้ว ตัวเองยังคงได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ผู้คุมปลุกตัวเองแว่วมาในหู ทำให้เมื่อตี 3 ของเช้าวันนี้ ตัวเองถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมา หลังจากนี้ตัวเองจะหางานทำ และจะไม่กลับไปทำตัวเหมือนเดิมแล้ว

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหมอปลา ต.โรงเข้ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี หมอปลาได้รับบำบัดยาเสพติดของวัดท่าพุราษฎร์บำรุง มาพักฟื้นร่างกาย และจิตใจที่บ้าน ช่วงค่ำวันนี้เห็นได้ว่าในเรือนนอนที่พัก ทางผู้บำบัดนั่งจับกลุ่มคุยกัน บางคนนอนพักผ่อน บางคนนั่งกินข้าวกล่อง บางคนเอายาทาแผลรักษาโรคผิดหนัง ยาฆ่าเชื้อรา และใช้แอลกอฮอล์คอยพ่นฆ่าเชื้อ ทาไปที่รอยแผลตามแขน และขา พร้อมทั้งนั่งกินน้ำอัดลมพูดคุยกัน มีท่าทีผ่อนคลาย สีหน้าดีขึ้น ไม่วิตกกังวล

นายเปี๊ยก กับนายเจ๊ก ผู้บำบัดยาเสพติด เปิดใจว่า ตนมาอยู่ตั้งแต่เมื่อวาน ที่บ้านหมอปลามีอาหารให้กินครบ 3 มื้อ ข้าวเช้า แกงส้มมะละกอไข่เจียว ข้าวเที่ยง กะเพราหมูกรอบ ข้าวเย็นแกงพะแนงหมู กับกะเพราหมูสับ รวมทั้งวันนี้ชาวบ้านที่ติดตามข่าวได้มาให้กำลังใจ เอาของกินเอาขนมมาให้

ส่วนที่หลับนอน ไม่แออัดเหมือนที่ศูนย์ใน จ.กาญจนบุรี สบายกว่าเยอะ มีที่นอนผ้าห่มหมอนให้อย่างดี นอนไม่เบียดกัน ต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อคืนหลับสบายมาก แตกต่างจากอยู่ที่ศูนย์บำบัดมากมาย อยู่ที่นั่นแออัดร้อนนอนไม่หลับ กว่าจะข่มตาหลับแต่ละคืนนั้นยากเย็น มาอยู่กับหมอปลานอนคืนแรกหลับสนิท นอนเต็มอิ่ม ไม่ได้นอนหลับแบบนี้มานานมากแล้ว เป็นการนอนได้โดยไม่ต้องกังวล

สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น ทุกคนอยู่ในช่วงปรับสภาพ ส่วนยาที่ใช้จะเป็นยาทาฆ่าเชื้อ แอลกอฮอล์คอยฉีดพ้น ช่วงเช้าหมอปลากับพี่น้ำฟ้า ให้หมอมาช่วยทำแผล ทายาดูแลให้อย่างดี ขณะนี้เริ่มวางแผนชีวิตแล้ว เพราะได้รับการเยียวยาจิตใจ ได้คิดว่าจะทำอย่างไรกับอานคต ทางบ้านรับรู้แล้วว่ามาอยู่กับหมอปลา ทางพ่อแม่ได้โทรมาถามความเป็นอยู่กับหมอปลา หมอปลาบอกว่าหลังจากร่างกายและจิตใจแข็งแรงแล้ว จะช่วยหางานให้ทำทางครอบครัวจึงให้อยู่กับหมอปลาไปก่อน

อยากขอบคุณหมอปลาที่ช่วยเหลือให้พวกตนเองออกมาจากตรงนั้น คนที่ได้ปล่อยตัว ไม่ค่อยกล้าไปจะไปฟ้องร้องหรือเล่าให้ใครฟัง คนอื่นก็ไม่เชื่อ เพราะเป็นคนมีประวัติเสพยา ยอมรับว่าเหมือนได้ชีวิตใหม่ หลุดออกจากขุมนรก

ด้านนักแสดงหนุ่ม แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ โพสต์ข้อความว่า "ตำรวจแจ้งความคดีหมิ่นประมาทกับประชาชน น่าสมเพชมากครับ! ลาออกเถอะครับ ทำงานเพื่อประชาชนไม่ได้หรอกครับแบบนี้ อำนาจหน้าที่การสืบสวนสอบสวนอยู่ในมือคุณ แทนที่คุณจะนำหลักฐานออกมาชี้แจงและทำความจริงให้ปรากฏแก่ประชาชน ตำรวจกลับออกมารักษาภาพพจน์ตัวเองก่อน แบบนี้ไม่มีความน่ารักเลยครับ ขอเป็นกำลังใจให้หมอปลาในเคสนี้ครับ!! ต้องรอดูกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจกันไม่น้อยทีเดียว"