จากกรณี เมื่อวันที่ 23 ก.ย.64 เวลา 22.10 น. ได้เกิดเหตุยิงกันตายบ้าน ม.2 บ้านไร่เหนือ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา หลังจาก พ.ต.อ.กองทัพ เสนาทิพย์ ผกก.สภ.สะบ้าย้อย พร้อมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน, พ.ต.ต.สุริวงค์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.437, ร.ต.ท.จริน คังคะสุวรรณ รองหัวหน้าชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4307 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
มีผู้หญิงถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน 2 คน เป็นแม่ลูก คือนางเรียม ศรีบาง อายุ 58 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณศีรษะ 2 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นในบ้าน, น.ส.จุฑามาศ ศรีบาง อายุ 38 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่บริเวณศีรษะ จำนวน 2 นัด นั่งเสียชีวิตอยู่ข้างประตูหน้าบ้าน
มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน คือนางสาวสุนิษา อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นหลานสาว ถูกยิงด้วยอาวุปืน 9 มม. บริเวณหัวไหล่ด้านขวา 1 นัด ข้อมือด้านขวา 1 นัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลสะบ้าย้อย และส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลา ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายพีระพัฒน์ อ่อนชาติ หรือ แอน อายุ 37 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน 47 ปฏิบัติหน้าที่อยู่วัดสวนแก้ว อ.ยะหา จ.ยะลา สามีของ น.ส.จุฑามาส
ล่าสุด วันที่ 25 ก.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมายังซอยมหาราช ซอยที่คนร้ายได้จี้บังคับให้ นายซาอุดี ขับขี่รถ จยย. มาส่งภายในซอย ภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นได้ว่า นายซาอุดี ขี่รถผ่านกล้องวงจรปิด เพื่อเลี้ยวเข้าซอยข้าง 7-11 สะบ้าย้อยใน ซอยมหาราช
โดยจากภาพกล้องวงจรปิดเมื่อวันที่ 23 ก.ย.64 เวลาประมาณ 23.21 นายซาอุดีเลี้ยวเข้ามาในซอย และผ่านกล้องวงจรปิดเข้ามากลางซอยมหาราช ตรงเข้ามาผ่านซอยทองเสรี ทางขวามือ และจอดรถเยื้องกับซอยทองเสรี ตรงข้ามร้านค้าแห่งหนึ่ง ก่อนที่คนร้ายลงจากรถและพูดคุยกับนายซาอุดี ให้เงิน 500 บาทเป็นค่าตอบแทน ต่อมาจ่าแอนเดินข้ามถนนอย่างใจเย็น
ทีมข่าวเดินทางมาใกล้กับจุดที่เป็นหลังร้านค้า ใกล้จุดจำหน่ายตั๋วเพียง 20 เมตร เป็นจุดจำหน่ายตั๋วคิวรถตู้สะบ้าย้อย-หาดใหญ่ ภาพจากกล้องบนรถมินิบัส คิวรถตู้สะบ้าย้อย-หาดใหญ่ วันที่ 24 ก.ย.64 เวลา 07.57 น. จ่าแอนนั่งอยู่บริเวณเบาะหลังถัดจากคนขับเป็นเบาะที่ 4 ติดริมหน้าต่าง โดยดึงหน้ากากอนามัยลงมาไว้บริเวณคาง
ภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 24 ก.ย.64 เวลา 08.00 น. รถมินิบัสจอดเทียบอยู่บริเวณในซอยทองเสรี และในเวลา 08.03 น. รถมินิบัสขับออกจากคิงรถไปทันที โดยภายในรถดังกล่าวมีจ่าแอนนั่งอยู่บริเวณหลังสุดของคัน มุมฝั่งคนขับ
นางสาวบี (นามสมมติ) พนักงานขายตั๋ว ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.64 เวลาประมาณ 07.45 น. จ่าแอนได้เดินทางเข้ามาซื้อตั๋วบริเวณจุดจำหน่ายตั๋ว เข้ามาทางบริเวณประตูข้างที่อยู่ติดกับรถ เป็นรถที่จะเดินทางจากสะบ้าย้อยไปยังหาดใหญ่ โดยได้นำเงินให้เป็นธนบัตร 1,000 บาท มาสำหรับซื้อตั๋ว ยอมรับว่าตอนนั้นตนเองก็ไม่ทราบว่าบุคคลนั้นเป็นจ่าแอน เนื่องจากที่ตนเองเห็นก็ไม่พบว่ามีการพกพาอาวุธ ไม่มีกระเป๋าสะพาย เหมือนเป็นลูกค้าปกติ
จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าเป็นจ่าแอน จึงได้รีบประสานเจ้าหน้าที่ประสานคนที่เกี่ยวข้องให้ตามหากล้องวงจรปิดทันที ยอมรับว่าตั๋วที่ซื้อไปนั้นสามารถจอดรถลงได้ตลอดทาง จึงไม่ทราบว่าจ่าแอนจะไปลงที่ใด เนื่องจากตอนที่ตนเองสอบถามว่าลงที่ไหนนั้น จ่าแอนก็ไม่ได้ตอบตนเอง ได้แต่ จ่ายเงินและรีบขึ้นรถไปทันที ซึ่งช่วงนี้เป็นสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้มีรอบรถน้อย เพียงแค่วันละ 4 รอบ รอบ 08.00, 10.00, 12.00, 16.00, ซึ่งจ่าแอนขึ้นรถในรอบแรกของวัน
ทีมข่าวเดินทางมาที่บริเวณป่าหญ้าข้างร้าน มีร่องรอยของการเดินเข้ามาบริเวณหลังร้าน มีร่องรอยของการนอนทับจนหญ้าล้มเป็นวงกว้างขนาดใหญ่ และพบขวดน้ำ 1 ขวดอยู่บริเวณข้างจุดที่คาดว่าจ่าแอนข้ามถนนมาแอบนอนในบริเวณดังกล่าว
นางสาวเอม (นามสมมติ) เจ้าของร้าน เล่าว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 08.00 น. ตนเองเดินทางมาถึงร้านค้า และเดินออกมาตรวจสอบร้านค้าบริเวณหลังร้านเป็นประจำ เนื่องจากร้านค้าของตนนั้นจะเปิดในช่วงเวลา 08.00 น. และปิดร้านในช่วงเวลา 18.00 น. โดยจะต้องมาตรวจสอบทุกครั้ง เนื่องจากไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่ภายในร้าน จนกระทั่งเดินมาพบสิ่งผิดปกติเนื่องจากเห็นว่ามีพื้นหญ้าบริเวณหลังร้านล้มนอนเป็นขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายคนมาแอบนอนในพื้นที่ อีกทั้งใกล้กันพบขวดน้ำเปล่า ใกล้กันเป็นทางเข้าที่มีต้นไม้รกสูง แต่มีร่องรอยเหมือนคนเดินเข้ามาในพื้นที่ แต่ปกติหญ้าจะรกสูง จึงคาดว่าจ่าแอนแอบมาหลับนอนพักผ่อนก่อนจะหนีไปอย่างแน่นอน ตอนช่วงเวลา 08.00 น. ตนยังไม่พบเจอกันกับจ่าแอน มิเช่นนั้นไม่รู้ว่าถ้าหากพบเจอแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน เร่งสืบค้นตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามตัว จ่าสิบเอกพีระพัฒน์ อ่อนชาติ อ่อนชาติ หรือ จ่าแอน ในการตรวจสอบเส้นทางหลบหนี มีการแจ้ง 4 ข้อหา 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พยามฆ่า 3.พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ 4.บังคับข่มขืนใจให้ผู้อื่นพาหลบหนี ยืนยันว่าจะเร่งตามตัวผู้ต้องหารายนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
บรรยากาศงานสวดอภิธรรมศพของ นางเรียม ศรีบาง และน.ส.จุฑามาศ ศรีบาง เต็มไปด้วยบรรดาญาติสนิทและชาวบ้านเดินทางมาร่วมงานในวันนี้ นายสุนทร ศรีบาง อายุ 62 ปี พ่อครูปลา ระบุว่า ตอนนี้ตนเองได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทราบเพียงแค่ว่าตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าเขาไปหลบหนีอยู่ที่ไหน ยอมรับว่าตอนนี้นอนไม่หลับกลัวจ่าแอนจะย้อนกลับมาทำร้ายครอบครัว โดยจ่าแอนเขาตามจีบลูกสาวตนเองและเป็นแฟนกันไม่ได้จดทะเบียนสมรสหรือแต่งงานกัน ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา นาน ๆ จะมาแวะเวียนมาที่บ้าน ทุกครั้งที่มานั้นก็จะมาพักที่บ้านของลูกสาวตนเองด้วย
ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมานั้น จ่าแอนเคยข่มขู่เรื่องหึงหวงลูกสาวของตนเรื่องชายอื่น อีกทั้งเคยขู่จะฆ่าด้วย ตนเองนั้นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่มีพฤติกรรมที่มีแนวโน้มจะทำร้ายร่างกาย และขู่จะฆ่า แต่ทางด้านลูกสาวยังไม่เคยได้ไปแจ้งความ ส่วนเรื่องที่จ่าแอนมีผู้หญิงอื่นในจังหวัดตรังนั้น ครอบครัวไม่ทราบเรื่อง ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จ่าแอนบอกกับครอบครัว และลูกสาวว่าเป็นคนโสด ไม่มีใคร โดยทางครอบครัวก็เปิดโอกาสให้คบหาดูใจกัน
อีกทั้งอยากให้จ่าแอนกลับมามอบตัว ถ้าหากหลุดไปแล้วมีโอกาสที่จะไปก่อเหตุกับคนอื่น ๆ ได้อีก ไม่ใช่เพียงแค่ยิงภรรยาของตนแบบปกติ ซึ่งจ่าแอนโหดเหี้ยมอำมหิต กระชากหัวภรรยาของตนเองแล้วนำปืนยิงหัวถึง 2 นัด และยิงลูกสาวกับเพื่อนหลานสาวตนอีก
ตนอยากให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือครอบครัวด้วย เนื่องจากครอบครัวขาดเสาหลักของครอบครัว ใครจะดูแลรับผิดชอบ ช่วยเหลือดูแล หลานสาวตนเองที่เป็นลูกสาวของครูปลา อยากให้ช่วยเหลือให้ครอบครัวของตนให้ดำรงชีวิตได้ไม่ยากลำบาก ไม่ใช่ว่าเรียกร้องอยากได้ แต่เพียงอยากให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม