กรณีพ่อแม่ของ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชนและอื่น ๆ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมาก ออกมาให้ข่าวทำนองว่าลูกสาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง แต่เป็นฝีมือของแฟนหนุ่มตามที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวนั้น
ล่าสุดวันที่ 29 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านพักส่วนตัวของนายฟิล์ม แฟนหนุ่มของน.ส.พิยดา เมื่อทีมข่าวเดินทางมาถึงบริเวณด้านหน้าหมู่บ้าน ก็พบกับนายสมพงษ์ (นามสมมติ) พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน (รปภ.) เปิดเผยว่า ไม่อนุญาตให้เข้าไปด้านใน เนื่องจากลูกบ้านหลังดังกล่าวต้องการเวลาพักผ่อน และยังไม่สะดวกที่จะให้ทีมข่าวเข้าไปพบ
ทีมข่าวจึงพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไปหานายฟิล์ม โดยนายฟิล์ม กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกแย่มาก ๆ กินข้าวไม่ได้และไม่สบาย ตนยอมรับว่าเห็นข่าวแม่เลี้ยงของแฟนสาว กล่าวพาดพิงครอบครัวของตนด้วย ตนก็รู้สึกตกใจ เพราะที่ผ่านมาตนจะถามแฟนสาวเสมอว่า "พ่อมีแฟนใหม่หรือยัง" ซึ่งแฟนสาวก็ยืนยันว่าไม่มี ตนจึงไม่เคยรู้มาก่อนว่าแฟนสาวมีแม่เลี้ยง เพราะก็รู้พร้อม ๆ กับทุกคนว่าแฟนสาวมีแม่เลี้ยง
ส่วนประเด็นที่พาดพิงครอบครัวตนนั้น ตนมองว่าแม่เลี้ยงอาจจะรู้สึกโกรธ ตนอาจจะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบไม่ถูกใจ คนเป็นแม่ก็อยากช่วยลูก และเห็นว่าตนเป็นคนนอก ตนจึงไม่อยากจะพูดไปอะไรมากกว่านี้ แต่ยืนยันว่าตนบริสุทธ์ใจ และตำรวจก็ต้องหาหลักฐานมาได้อยู่แล้ว ตนจึงไม่รู้จะดิ้นหรือว่าสู้ไปเพื่ออะไร สาวเรื่องทรัพย์สินแม่กับพ่อกำลังทำเอกสารชี้แจงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ดังนั้น ขณะนี้ตนอยากการจัดเอกสารให้เสร็จเสียก่อน ส่วนตัวหากพูดอะไรออกไป จะกลายเป็นการแบ่งฝ่าย บางคนอาจจะเชื่อและบางคนอาจจะไม่เชื่อ และตนไม่อยากให้รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้แล้ว นอกจากนี้ ที่ผ่านมาตนมีเจตนาที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ที่ติดต่อเข้ามา แต่เนื่องจากผู้ใหญ่เบรกไว้ก่อน เพราะหากพูดออกไปแล้วก็คงไม่มีใครเชื่อ และไม่สามารถที่จะห้ามให้ใครไม่คิดหรือเชื่อ
สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนกับแฟนสาว ตอนนี้ยังไม่ยืนยันว่าเลิกลากัน เพราะตั้งแต่วันที่หมายจับออก ก็ยังไม่ได้พูดคุยกับแฟนสาวเลย แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีความเป็นห่วงมาก อยากรู้ว่าจะอยู่ที่ไหน ไปทำอะไร จึงมีความพยายามในการโทรศัพท์ไปหา และส่งข้อความทุกช่องทาง แฟนสาวก็ไม่มีการตอบกลับมาเลย ยอมรับว่าไม่ 100% เพราะไอพีขึ้นที่บ้านตน แต่ยังมีหวังว่าแฟนว่าจะไม่ได้ทำจริง ๆ จึงยังพร้อมที่จะให้โอกาส เพราะเคยให้โอกาสมาแล้ว อีกทั้งคบหากันมานานกว่า 7 ปี จะไม่รักกันเลยก็ไม่ใช่ และแม้ว่าแฟนสาวจะมีการพูดอะไรออกมาก็ตาม ตนอยู่เฉย ๆ ก็ชนะแล้ว และได้เห็นอะไรมากขึ้นก็ตาม ตนก็ยังรักแฟนสาวอยู่
ขณะเดียวกันหลังจากที่มีคดีในครั้งนั้น ตนก็เห็นว่าแฟนสาวขายเสื้อผ้าจริง ๆ และทุกครั้งที่ไปหา ไปช่วยยกของ ก็จะเห็นเสื้อผ้าเต็มบ้านไปหมด ประกอบมีนางแบบทักหาแฟน และยังปรึกกันตลอดว่าคนนี้สวยหรือไม่ จะให้รีวิวเสื้อผ้าแบบนั้นแบบนี้ ตอนนั้นก็คิดว่าแฟนสาวกลับตัวได้แล้วจริง ๆ