กรณีตำรวจ สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายชิงทองที่ร้านทองเยาวราช สินทวี ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส ชลบุรี หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี พลเมืองดีจึงช่วยกันควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ ทราบชื่อว่านายวิทย์ ปทุมยั่งยืน อายุ 25 ปี พร้อมด้วยมีดคัตเตอร์ และสร้อยข้อมือหนัก 3 บาท รวมทั้งหมด 4 เส้น มูลค่าประมาณ 340,000 บาท
จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่า ช่วงเกิดเหตุนายวิทย์ได้ทำทีมาซื้อทอง ช่วงนั้นนายนพดล ทุมมานนท์ อายุ 51 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ได้ยืนบริเวณหน้าร้านทองดังกล่าว หลังจากนั้นนายวิทย์ได้เอามือล้วงไปในกระเป๋าเสื้อ พร้อมทั้งขู่ให้พนักงานขายทองให้หยิบสร้อยข้อมือหนัก 3 บาท จำนวน 4 เส้นมาให้ ไม่เช่นนั้นจะยิงให้ตายให้หมด
ช่วงนั้นได้มีพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกคนหนึ่ง มาเห็นเหตุการณ์และได้เข้าช่วยเหลือ นายวิทย์เห็นท่าไม่ดี จึงกระโจนเข้าไปในร้านทอง พร้อมทั้งหยิบสร้อยข้อมือ 4 เส้นติดมือ และได้ใช้มีดคัตเตอร์ออกมาข่มขู่ และได้วิ่งออกจากห้างสรรพสินค้าโลตัสไปขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนี นายนพพล จึงกระชากกระจกส่องหลังทำให้รถจักรยานยนต์ล้มลง และเรียกให้ประชาชนที่กำลังซื้อสินค้าช่วยเหลือ และมีพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ ตำรวจตั้งข้อหาชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธ และชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และเตรียมนำตัวฝากขังศาลจังหวัดชลบุรีในวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.64)
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายวิทย์ได้ติดพนันออนไลน์จนหมดเนื้อหมดตัว และไปขอเงินพ่อแม่ 3,000 บาท แต่ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากเป็นช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ไม่มีเงินติดตัว แม้กระทั่งไปยืมลูกคนอื่น ๆ ก็ไม่มีให้นายวิทย์ จึงได้ตัดสินใจยืมรถจักรยานยนต์เพื่อนจากกรุงเทพฯ ขี่รถมาก่อเหตุชิงทองที่ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 1 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ย่านพระโขนง บ้านของผู้ก่อเหตุ จึงได้พบกับกลุ่มเพื่อนของนายวิทย์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.64) นายวิทย์ เพิ่งมาขอยืมโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรศัพท์หาน้องสาว เพื่อจะยืมเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว เพื่อน ๆ จึงให้หยิบยืม จากนั้นนายวิทย์ ก็ขี่รถจักรยานยนต์ของแม่ตน ออกไปจากซอยหมู่บ้าน
"พอเช้ามาก็ทราบข่าวว่านายวิทย์ ไปจี้ร้านทองที่ชลบุรี เพื่อนทุกคนก็รู้สึกตกใจมาก ๆ ไม่อยากเชื่อว่าวิทย์จะกล้าทำ เพราะปกติแล้วเป็นคนนิสัยดี ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่ในกลุ่มเพื่อนจะทราบดีอยู่แล้วว่าครอบครัวนายวิทย์ยากจน พ่อกับแม่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนตัวนายวิทย์ เคยรับจ้างส่งอาหาร แต่ช่วงหลังมาก็ไม่ได้ทำ" เพื่อนผู้ต้องหา กล่าว
ที่ผ่านมานายวิทย์ ไม่เคยนำปัญหาในครอบครัว หรือปัญหาฐานะทางย้าน มาเล่าให้เพื่อนฟัง ไม่เคยมายืมเงินเพื่อน ๆ แต่เพื่อน ๆ ก็ดูออกว่าเขาเครียด ๆ และเคยเปรยว่าอยากกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่เพื่อน ๆ ก็ไม่ได้คิดว่านายวิทย์ จะก่อเหตุ ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้เพื่อน ๆ เชื่อว่าคงเครียดมาก ๆ
ทีมข่าวได้สอบถามพ่อของผู้ต้องหา ที่เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย ให้ข้อมูลว่า แท้จริงแล้วลูกชายเมายาอัลปราโซแลม (Alprazolam) เป็นยารักษาอาการวิตกกังวล และน้อยใจตนที่มีปากเสียงกันก่อนออกจากบ้าน จึงได้มาก่อเหตุชิงทอง ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่คาดคิดว่าลูกชายจะกระทำผิดขนาดนี้ ตนขอยอมรับความผิดโดยดี และผิดที่ตนเลี้ยงลูกได้ไม่ดี