จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ รายงานว่า ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตภายในหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ สภ.โคกคราม กทม. เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดลงพื้นที่ตรวจสอบที่บริเวณชั้น 3 ห้องหมายเลข 307 พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย อยู่ในสภาพใช้เชือกสีดำผูกคอกับประตูเหล็กดัดที่หน้าห้องเสียชีวิต เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายธนาวุฒิ บุญใส อายุ 27 ปี
ทีมข่าวเดินทางไปยังอะพาร์ตเมนต์จุดเกิดเหตุ ย่านซอยนวลจันทร์ พบว่าเป็นตึกสูง 4 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ที่ชั้น 3 ขณะนี้อาคารได้ถอดประตูเหล็กดัดหน้าห้องออกไปแล้ว
โดย
นางเพ็ญ (นามสมมติ) แฟนของนายธนาวุฒิ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนกับนายธนาวุฒิเคยคบกันและเลิกกันไปประมาณ 4 ปีที่แล้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะตามขอกลับมาคืนดี ซึ่งตนก็ใจอ่อนให้มาอยู่ด้วยประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนายธนาวุฒิมีนิสัยชอบดื่มเหล้า และชอบทำร้ายร่างกายตน อีกทั้งยังชอบเล่นโทรศัพท์มือถือของตน
วันเกิดเหตุ ตนทะเลาะกับนายธนาวุฒิ จากนั้นเจ้าตัวก็ลงไปดื่มเหล้า ตนจึงเก็บเสื้อผ้าทั้งหมดลงไปให้แฟนหนุ่ม ในทำนองขอเลิก จากนั้นตนก็ขึ้นห้องมานอนกับหลานและแม่ ไม่นานนายธนาวุฒิจึงเดินมาเคาะประตู แต่ตนไม่ยอมเปิดให้ โดยตนได้ยินเสียงพูดขู่ว่า หากไม่เปิดจะเผาห้อง ก่อนเสียงจะเงียบไป กระทั่งช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 ต.ค. มีเจ้าหน้าที่มาเคาะห้องจึงทราบว่าแฟนหนุ่มผูกคอหน้าห้องเสียชีวิต โดยใช้เชือกสายกระเป๋าผูกกับเหล็กดัด ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด เพราะคิดว่าเป็นเวรกรรมของเจ้าตัว
นางเพ็ญ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุก็ได้นิมนต์พระมาอัญเชิญวิญญาณออกไปแล้ว ตนไม่ได้รู้สึกกลัว และยังไม่เคยเห็นวิญญาณมาก่อน ส่วนหลังจากนี้คิดว่าจะย้ายออกจากหอพักดังกล่าว เพราะไม่อยากตอบคำถาม โดยไม่ได้เกี่ยวกับความกลัวเรื่องวิญญาณแต่อย่างใด
ด้าน
นายอาร์ม (นามสมมติ) เจ้าของร้านขายของชำที่ผู้ตายมานั่งกินเหล้าในคืนเกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงค่ำวันที่ 21 ต.ค. นายธนาวุฒิ มากินเหล้าที่ร้านตน ต่อมา แฟนของนายธนาวุฒิ เก็บกระเป๋าเสื้อผ้า และถุงใส่ของมาวางไว้ พร้อมพูดในทำนองขับไล่ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งนายธนาวุฒิและเพื่อนได้เปิดกระเป๋าเช็กของ ก่อนกินเหล้าต่อ ซึ่งเท่าที่ฟัง เจ้าตัวก็ไม้ได้บ่นตัดพ้อหรือน้อยใจ กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. นายธนาวุฒิได้ขอตัวกลับ
ทั้งนี้ เมื่อตนทราบว่าเจ้าตัวผูกคอตาย ก็ตกใจ ขณะนี้ตึกที่เกิดเหตุ ตนทราบข่าวมาว่ามีคนแจ้งย้ายออกหลายห้อง ส่วนตัวก็ยังไม่พบความผิดปกติ และคิดว่าวิญญาณของผู้ตาย ไม่น่าจะมาหลอกหลอนตน เพราะตนเคยช่วยเหลืออีกฝ่ายเป็นอย่างดี