คดีพลิก! แห่โลงประท้วงลูกถูกยิงคาถนน มือปืนแฉคนตายขนพวกรุมฆ่าถึงในบ้าน (คลิป)

กรณีชาวบ้าน หมู่ที่ 10 ต.ม่วงใหญ่ อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ได้นำโลงศพและป้ายข้อความมาเดินประท้วงที่บริเวณหน้าสภ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี เพื่อขอความเป็นธรรมให้ช่วยเร่งรัดคดี และตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย หลังจากนายฐิติพงษ์ ศรพรม อายุ 21 ปี ชาวต.ม่วงใหญ่ อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ถูกกลุ่มวัยรุ่นดักทำร้าย จนทำให้เสียชีวิต

โดยมีนายวิชิต ปาปิด อายุ 20 ปี เพื่อนที่ไปด้วยกันได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนบ้านดอนกระทอด หมู่ที่ 5 ต.ม่วงใหญ่ อ.โพธิ์ไทร เมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 ที่ผ่านมา แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

ล่าสุดวันที่ 3 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดสร้างสะแบง หมู่ที่ 10 ต.ม่วงใหญ่ อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี สถานที่จัดสวดอภิธรรมศพของผู้เสียชีวิต เมื่อไปถึงพบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของคนในครอบครัว และเพื่อนบ้านที่ต่างมาร่วมงานสวดอภิธรรมศพในช่วงเย็น

จากการสอบถามทราบว่า งานศพถูกจัดตั้งศพภายในวัดเป็นคืนที่ 4 แล้ว โดยครอบครัวมีจุดประสงค์จะยังคงเก็บศพของผู้เสียชีวิตไว้จนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีความคืบหน้า และเอาผิดผู้ก่อเหตุมาลงโทษ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ทางครอบครัวจึงจะทำการฌาปนกิจศพ

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนางจวง ศรพรม อายุ 48 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายฐิติพงษ์ ศรพรม หรือ เอิร์ด อายุ 21 ปี ลูกชาย ปกติแล้วเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเพื่อนบ้าน แต่หากจะมีก็เป็นปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันตามประสาวัยรุ่นกับเพื่อนต่างหมู่บ้าน ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด แต่เท่าที่ทราบเรื่องเกิดมานานประมาณ 1 ปีแล้ว

โดยหลังเกิดเหตุตนก็รู้สึกเสียใจมาก ๆ ที่ลูกชายเสียชีวิต ตนไม่ได้ตั้งตัว เพราะรู้อีกทีเพื่อนของเขาที่อยู่ในเหตุการณ์ก็แจ้งว่าลูกชายถูกฟันจนอาการสาหัส กระทั่งเสียชีวิต เป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไปมาก ๆ นอกจากนี้ที่ตนเสียใจ คือ ลูกชายกำลังจะไปรับใช้ชาติ เป็นทหารเกณฑ์สังกัดกองทัพเรือ แต่สุดท้ายตนก็ไม่มีโอกาสได้เห็นลูกชายใส่เครื่องแบบทหารรับใช้ชาติ

ทั้งนี้ ตนต้องการให้ตำรวจเร่งรัดคดี และตามจับผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะได้รับโทษถึงที่สุด ให้สาสมกับการกระทำที่ได้ก่อไว้ ซึ่งขณะนี้คดีมีความล่าช้ามาก เพราะหลังจากครอบครัวแจ้งความไว้ที่สภ.โพธิ์ไทร ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.64 จนถึงวันนี้ (3 ต.ค.64) คดียังไม่มีความคืบหน้า

"วานนี้ (2 ต.ค.64) จึงตัดสินใจแห่โลงศพลูกประท้วงขอความเป็นธรรม พร้อมกับชาวบ้าน และหากมีโอกาสได้พูดกับผู้ก่อเหตุ ฉันก็อยากถามว่าทำกับลูกชายทำไม หากสำนึกผิดก็อยากจะให้ขอขมาศพ เพื่อที่ลูกชายจะได้ไปสู่สุคติ นอกจากนี้ ฉันยังคงจะเก็บศพของลูกไว้จนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีความคืบหน้า" ผู้เป็นแม่ กล่าว 

นายวิชิต ปาปิด หรือ พัน อายุ 20 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ปกติแล้วผู้เสียชีวิตเป็นคนดี เพื่อนฝูงรักใคร่ ซึ่งไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนรุ่นน้องต่างหมู่บ้าน ที่ผู้ตายเคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งด้วย โดยเหตุเริ่มจากวันที่ 27 ก.ย.64 ช่วงประมาณ 17.00 น. หลังตนและผู้เสียชีวิตเลิกงานก่อสร้าง ก็ได้นัดกลุ่มเพื่อนรวม 10 คนไปดื่มสุรากันบริเวณกระท่อม บ้านสร้างสะแบง ต.ม่วงใหญ่ อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี

กระทั่ง 20.00 น. พอดีเหล้าหมด ตนจึงให้เพื่อนรุ่นน้องที่กินเหล้าด้วยกันไปซื้อเหล้า แต่ด้วยความที่ตนเห็นว่ารุ่นน้องออกไปซื้อนาน ตนกับคนตายจึงตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์ไปตามด้วยความเป็นห่วง แต่ระหว่างทางพอมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้นำไม้มาขวางถนนไว้ ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม จากนั้นตนและผู้เสียชีวิต ก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5 คน รุมทำร้าย โดยคู่กรณีใช้ทั้งอาวุธ มีด ไม้ ท่อนเหล็กแป็บ รุมฟัน รุมตี จนผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลถูกตี ถูกฟันตาม ศีรษะและลำตัว เป็นแผลเหวอะ ก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในวันที่ 29 ก.ย.64 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ส่วนตนถูกตีและฟันเข้าที่บริเวณหน้าอกและต้นคอ เย็บ 9 เข็ม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกตกใจที่เพื่อนต้องมาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ส่วนสาเหตุตนมองว่าอาจจะเป็นปัญหาที่ผู้ตายเคยเขม่นกับคู่อริ หรือกลุ่มผู้ก่อเหตุเมายาเสพติด เลยตั้งใจมาดักหาเรื่อง และรุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตดังกล่าวหรือไม่ 

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายชัยวัฒน์ หรือ ริว อายุ 18 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นตามคำกล่าวอ้างของฝั่งเพื่อนผู้เสียชีวิตไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน ตนยืนยันว่ารู้จักกับผู้เสียชีวิตมานานตั้งแต่เด็ก เนื่องจากอยู่หมู่บ้านใกล้เคียงกัน จึงคุณหน้าคุณตากันมานาน แต่เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ตนและผู้ตายมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันตามประสาวัยรุ่น จึงทำให้ช่วงหลังไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกัน

กระทั่งวันเกิดเหตุ ช่วงเวลา 22.00 น. ขณะที่ตนนั่งดื่มสุราอยู่กับนายปอน พี่ชาย ที่บริเวณแคร่หน้าบ้าน จู่ ๆ ผู้เสียชีวิตและกลุ่มเพื่อน ๆ บุกเข้ามาในบ้านของตนพร้อมอาวุธมีด ไม้ แท่งเหล็ก หวังจะทำร้ายตนโดยที่ตนไม่ทราบสาเหตุ หลังจากนั้นจึงเกิดการชุลมุน โดยตนยอมรับว่าได้ใช้อาวุธมีด-แท่งเหล็ก ทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตจริง เสมือนเป็นการป้องกันตัว เพราะถูกกระทำก่อน กลายเป็นเหตุให้เขาต้องเสียชีวิตขณะรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาล

นอกจากนี้ เพื่อนผู้เสียชีวิตกล่าวอ้างว่า ตนและพี่ชายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แล้วก็ไม่ทราบว่าคู่กรณีมีจุดประสงค์อะไรถึงให้ข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ในฐานะผู้ก่อเหตุ ตนยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิต เพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้น จึงอยากจะวิงวอนขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตนไม่อยากจะให้เกิดการสูญเสียแบบนี้ 

อย่างไรก็ตาม ตนได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับถูกแจ้งข้อกล่าวหา ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่น แต่ในเบื้องต้น อายุของตนเพียง 18 ปี จึงสามารถยื่นประกันตัวกลับออกมาอยู่บ้านได้ชั่วคราว แต่จะต้องใส่กำไล EM เพื่อป้องกันการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกให้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมความประพฤติ ในวันที่ 18 ต.ค.64 ต่อไป