งานเข้า! โจ๋โวยถูกตร.ล็อกคอ แค่ขวางกันค้นบ้านน้อง ก่อนอึ้งทั้งซอยบ้านเด็กมีกระสุน (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv plus" โพสต์คลิปเหตุการณ์ชุลมุน ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบของโรงพักแห่งหนึ่ง แต่งกายนอกเครื่องแบบกำลังล็อกตัวหนุ่มอายุ 23 ปี ทำให้มีชาวบ้านแห่เข้ามาล้อมเจ้าหน้าที่เอาไว้จำนวนมาก ก่อนจะพยายามห้ามปรามเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ใส่กุญแจมือหนุ่มคนดังกล่าว 

โดยเพจยังระบุว่า "โดนล็อกตัวโดยไม่มีความผิด เข้าใจว่าชุดสืบกำลังปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ควรเจรจาด้วยเหตุผลนะคะ เกรงว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นจะสร้างความรู้สึกไม่ดีกับประชาชน เข้าใจทั้งสองฝ่ายค่ะ ในคลิปที่โดนค้นคือน้องชายแท้ ๆ ของไอซ์เอง เรื่องมีอยู่ว่าตำรวจมาค้นบ้านเด็ก 14 ปี ที่รู้จักกับน้องชาย ทีนี้น้องชายขี่รถผ่านเห็นเลยชวนแม่เดินไปดู เพราะน้องอยู่คนเดียวและอายุแค่ 14 ปี น้องชายก็ถามน้องว่าอยู่คนเดียวหรอ ไม่มีผู้ใหญ่อยู่เลย ตำรวจเลยมาล็อกจะใส่กุญแจมือ ก็เป็นอย่างในคลิปเลย"

ล่าสุดวันที่ 4 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นภายในซอยรามคำแหง 39 แยก 5 เป็นบ้านตึกแถว 2 ชั้น ที่ติดกันหลายห้อง ก่อนทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 เวลาประมาณ 16.00 น. ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว

ทีมข่าวพบกับนายณัฐพล อายุ 23 ปี หนุ่มที่ถูกล็อกคอ กล่าวว่า หลังเลิกงานประมาณ 17.00 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบ้านน้องหมู เห็นชายใส่เสื้อสีน้ำยืนอยู่หน้าบ้าน ขณะเดียวกันก็เห็นรถกระบะของตำรวจจอดข้างบ้าน จึงชวนแม่เข้าไปดู และเอ่ยปากถามเจ้าหน้าที่ว่า “พี่เข้ามามีหมายค้นไหม และไม่มีผู้ใหญ่อยู่ พี่มาได้ไง” ก่อนที่ชายใส่เสื้อสีน้ำตาลจะตะโกนว่า “อะไร ๆ” ทันใดนั้นชายเสื้อน้ำเงินพุ่งเข้ามาล็อกตัวตน ทำให้ตนต้องอธิบายว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรมาถามเฉย ๆ" แม่ตนก็ไม่ยอมวิ่งเข้ามาห้าม แต่ชายเสื้อน้ำเงินก็กล่าวหาว่าตนขวางการปฏิบัติงาน และหมิ่นประมาท

ทั้งนี้ ตนบริสุทธิ์และข้องใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตนอยากให้ตำรวจพูดดี ๆ คุยดี ๆ อย่างเคสนี้คุยดี ๆ ก็ได้ ดังนั้นเพื่อการป้องกันไว้ก่อน ตนหยุดงานเมื่อไรจะไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย ส่วนสาเหตุที่ต้องเข้าไปช่วยน้องหมู เพราะรู้จักดีว่าเขาไม่ใช่คนร้าย อย่างไรก็ตาม เรื่องกระสุนปืน ตนเชื่อว่าไม่ใช่ของน้องหมูแน่ ๆ และเขาก็ไม่ใช่เจ้าของบ้าน ในใจตนอยากให้ตำรวจตรวจลายนิ้วมือเพื่อให้ความเป็นธรรมกับด้วย

จากนั้นน้องหมู (สงวนชื่อจริง) อายุ 14 ปี พาทีมข่าวไปชี้ตามจุดที่ตำรวจอ้างว่าพบของผิดกฎหมาย ด้านหลังทีวีชั้นล่างตำรวจอ้างว่ามีอุปกรณ์เสพยาวางอยู่ ก่อนพาทีมข่าวไปชั้น 2 เปิดลิ้นชักของโต๊ะเครื่องแป้ง ตำรวจอ้างพบกระสุนปืน .45 จำนวน 1 นัด ส่วนอาวุธมีดที่เจอบนเก้าอี้และพบแหวนอยู่ภายในห้องนอน ก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร แค่เอามาวางไว้ที่ห้องประดับให้สวยงาม

น้องหมู (สงวนชื่อจริง) อายุ 14 ปี เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุเวลา 17.00 น. อากาศร้อนจึงลงมานอนชั้นล่าง เปิดประตูแง้มเอาไว้ให้อากาศถ่ายเท และกำลังดูการบ้านในมือถือที่ครูส่งมา แต่สักพักมีรถจากที่ไหนไม่รู้ มาจอดหน้าบ้าน 3 คัน แต่ตนไม่ได้สนใจ ก่อนที่จะมีชายฉกรรจ์ 7-8 คน วิ่งเข้ามาในบ้านบอกตนว่า “หยุด ๆ มึงหยุด นั่งอยู่กับที่” จากนั้นชายฉกรรจ์โชว์บัตรแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 เพื่อค้นภายในห้องนอนของตน และเจอมีด 2 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจเอ่ยปากถามตนว่า "ได้ไปม็อบมาไหม" ตนปฏิเสธว่า "เห็นแต่รุ่นพี่ไปครับ ผมอยู่แต่บ้านไม่เคยออกไปไหนเลย"

จากนั้น เจ้าหน้าที่อ้างว่าเจอกระสุนปืนภายในบ้านและให้ตนชี้เพื่อถ่ายรูปยอมรับ ตนจึงบอกว่าไม่ใช่กระสุนปืนของตนจะชี้ทำไม จากนั้นก็ถูกบังคับให้ชี้ ตนจึงต้องชี้ ต่อมามีการตรวจค้นบริเวณชั้นล่างเจ้าหน้าที่อ้างว่าเจออุปกรณ์การเสพยาบริเวณด้านหลังทีวี ตนก็ปฏิเสธเช่นเดิม ขณะเดียวกันพี่ข้างบ้าน ก็เดินเข้ามาสอบถามถึงหน้าบ้านว่า “เฮ้ยมึง ปล่อยเขาเข้ามาได้ยังไง มีหมายค้นไหม พ่อรู้หรือยัง” ตนจึงตอบพี่ไปว่า “ยังครับ” จากนั้นรุนพี่ก็ได้เรียกญาติ ๆ มาที่หน้าบ้าน และเหตุการณ์จึงเป็นไปตามคลิป

ทั้งนี้ ผ่านไปไม่นาน พ่อของตนก็มาถึง และตำรวจก็ได้เชิญตัวตนไปที่โรงพัก จึงมีการตรวจฉี่แต่ไม่พบอะไร ก่อนสอบปากคำตนถึงเวลา 21.00 น. ซึ่งใจความหลัก ๆ สอบถามที่มาของสิ่งผิดกฎหมายที่พบภายในบ้าน ตนพยายามบอกว่าสิ่งของเหล่านั้นไม่ใช่คนของตนและไม่รู้มาก่อนว่ามีของพวกนี้อยู่ในบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “ของอยู่ภายในบ้านของตัวเอง ก็ต้องยอมรับ เพราะอยู่ในบ้านคนเดียว” แต่สุดท้ายตนก็ต้องยอมรับ แถมต้องนอนในโรงพัก 1 คืน ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 2 ต.ค.64 ยายมารับไปศาลเยาวชน เพื่อขอประกันตัว แต่ศาลเมตตาว่าไม่ต้องวางเงินประกัน แต่ให้ตนรายงานตัวในวันที่ 6 ต.ค.64 และวันที่ 23 พ.ย.64 

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตนมีแก๊งเพื่อน ๆ แต่ก็ไม่มีใครยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือนำของผิดกฎหมายเข้ามาภายในบ้าน แต่หากย้อนไปในช่วง 2 เดือนก่อน กลุ่มรุ่นพี่ที่พาเพื่อนมาอยู่ภายในบ้าน จึงไม่รู้ว่านำสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาไว้ภายในบ้านหรือไม่ ตนยืนยันว่าของผิดกฎหมายในบ้านไม่ใช่ของตน แต่สุดท้ายก็ยอมรับ ก่อนถูกแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองเครื่องกระสุนปืน ตนจึงรู้สึกไม่ดีเพราะต้องมีคดีติดตัว และอยากบอกว่าสิ่งของไม่ใช่ของตน ทำไมตนต้องรับ ทำไมไม่ให้ตนพิสูจน์ตัว และตนก็ยังรู้สึกสับสน