สืบจากเลือด! จับมือฆ่าปาดคอที่แท้หนี้ยา แม่ช็อกย่องฆ่ากลางดึกโฮลั่นไร้เงินประกัน (คลิป)

จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนโดนฆ่าปาดคอ ภายในบ้านหมู่ 4 ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนอยู่บนเตียงในมุ้ง ใต้ถุนบ้านไม้ 2 ชั้น เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นายไพรวัลย์ แก้วปาน อายุ 45 ปี อาชีพช่างเชื่อมอู่ต่อรถถูกฆ่าปาดคอ จากปมเหตุติดเงิน 2,000 บาทนั้น

มีกองเลือดกองใหญ่ สภาพศพนอนเปลือยกาย สวมเพียงกางเกงใน 1 ตัว ลักษณะบาดแผล เหมือนถูกอาวุธมีคมฟันเข้าบริเวณลำคอหลายครั้ง ส่วนในที่เกิดเหตุพบร่องรอยเท้าเหยียบเลือด เดินขึ้นไปบนบันไดบ้าน คาดว่าเป็นรอยเหยียบของผู้ก่อเหตุ คาดว่าศพผู้เสียชีวิตตายมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง

วันที่ 4 ต.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหมู่ 4 ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 12.00 น. ที่บ้านของผู้เสียชีวิต มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ลงพื้นที่เก็บหาหลักฐานเพิ่มเติม

ชุดสืบสวนนำรอยภาพพิมพ์รอยเท้าของผู้ต้องสงสัยทั้ง 7 รายนำมาเปรียบเทียบกับรอยเท้าเปื้อนเลือดที่บันไดหน้าบ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งการจากเปรียบเทียบรอยเท้า ลักษณะความใกล้เคียงมี 2 รายที่มีความคล้ายกับรอยเท้าเปื้อนเลือดบนบันได คือนายเบล อายุ 22 ปี คนที่เคยโมยพระเครื่องพ่อคนตาย เเละนายเต๋อ อายุ 22 ปี เพื่อนนายเบล โดยมีลักษณะรอยโค้งเว้าของฝ่าเท้า รวมทั้งระยะห่างของนิ้วเท้าทั้ง 5 นิ้วใกล้เคียงกัน

ซึ่งการลงพื้นที่เทียบรอยเท้าวันนี้เป็นเพียงการเปรียบเทียบเบื้องต้น แต่ต้องรอผลพิสูจน์ดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ รวมทั้งผลยืนยันเรื่องรอยเท้าจากนิติวิทยาศาสตร์ก่อน ที่บริเวณกอไผ่ห่างจากตัวบ้านประมาณ 20 เมตร พบหน้ากากอนามัยสีขาว-ฟ้าหรือเขียว เปื้อนเลือด และยังพบรอยเท้าอยู่บริเวณทุ่งนา ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานได้มีการเก็บหลักฐานไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนรอผลการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเชื่อมโยงถึงตัวคนร้ายที่แท้จริง

เมื่อเวลา 17.00 น.ตำรวจได้มีการขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ออกหมายจับนายเบล อายุ 22 ปี ในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่มารวมตัวกันเกือบ 100 คน หนึ่งในนั้นก็มีญาติพี่น้องของคนตายมาร่วมติดตามการทำแผนฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกั้นเชือก และใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเป็นแนวเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มชาวบ้านรวมถึงญาติเข้ามาในพื้นที่ทำแผน

จนกระทั่งเวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุมตัวนายเบล ออกจากโรงพักเมืองสุพรรณบุรีขึ้นรถกระบะมาที่บ้านของเจ้าตัว เพื่อมีการชี้จุดทำลายหลักฐานภายในบ้าน ทันทีที่ผ่าตัวของนายเบลมาถึงบ้าน บรรยากาศการทำแผนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ชาวบ้านและญาติต่างอยู่ในอาการสงบ ไม่ได้มีการต่อว่าหรือจะเข้ามาทำร้ายร่างกายนายเบลแต่อย่างใด

ตำรวจพาไปชี้จุดที่เก็บมีดปังตอ เป็นมีดทำครัวขนาดใหญ่ภายในบ้านของเจ้าตัวเอง หลังจากที่นายเบลใช้ก่อเหตุฟัน และปาดคอนายไพรวัลย์เสียชีวิตแล้ว ล้างมือทำความสะอาดบริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่จะนำมีดไปเสียบกับคืนไว้ที่ครัวภายในบ้านเหมือนเดิม ซึ่งแม่และคนในบ้านก็ยังใช้มีดทำกับข้าวตามปกติหลังจากที่เกิดเหตุ หลังจากนั้น นายเบลก็พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปชี้ภายในห้องนอน โดยเป็นกองเสื้อผ้า ก่อนที่จะมีการซักทำความสะอาดในวันรุ่งขึ้น

นายเบลยังสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังจากที่ก่อเหตุเสร็จแล้ว เจ้าตัวได้รัดมาตามคันนา เข้ามาปีนหน้าต่างหลังห้อง โดยมีลักษณะไม่ได้ล็อก เพราะเตรียมการเอาไว้แล้วว่าหลังก่อเหตุจะกลับเข้ามาที่หน้าต่างบ้านดังกล่าว เจ้าตัวได้ปีนเข้าไปภายในหน้าต่างเปลี่ยนเสื้อผ้า และนอนอยู่บนที่นอน เพื่อไม่ให้แม่สงสัยหรือรับรู้ว่าออกไปก่อเหตุมา แต่ระหว่างการทำแผนนายเบลต่างให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และไม่ปริปากหรือให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว

ตลอดการทำแผน แม่ของนายเบลอยู่ในอาการร้องไห้ตลอดเวลา พูดแต่เพียงว่า "ลูกฉันไม่ได้ทำ" นางปัทมา เรือนปานแก้ว แม่ของนายเบล อายุ 22 ปี ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเองไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกชายไปก่อเหตุฆ่านายไพรวัลย์ เพราะตลอดที่ตัวเองพยายามถามลูกชายก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ และไม่รู้เห็น อีกทั้งตนเองมีโอกาสได้ไปจุดยากันยุงให้กับลูกในคืนดังกล่าว ไปเจอกันช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ก็เห็นลูกชายนอนสภาพเมาเหล้า ไม่ใส่เสื้อ ใส่เพียงแค่กางเกงบอกเซอร์ตัวเดียว นอนอยู่บนที่นอน ตนเองก็คิดมาตลอดว่าลูกชายไม่ได้ไปไหน

ส่วนในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ก่อเหตุ ตนเองก็ไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติ ไม่ได้กลิ่นคาวเลือด เพราะไม่รู้ว่าลูกชายมีการทำลายหรือล้างด้วยวิธีอะไร แต่ตนเองเห็นเสื้อผ้าเปื้อนจึงได้สั่งให้ลูกชายเอาเสื้อผ้าไปซัก ไม่คิดว่าเสื้อผ้าชุดดังกล่าวจะเป็นเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนเรื่องของอาวุธมีดยอมรับว่าตนเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าตัวใช้มีดภายในครัวไปก่อเหตุ

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าหลังจากที่เกิดเหตุไม่ได้สังเกตบริเวณหน้าต่างห้องนอนลูกว่ามีรอยเลือดและรอยโคลนติดอยู่ที่ผนัง เพราะไม่คิดว่าลูกชายจะไปก่อเหตุ และปีนเข้ามาที่บริเวณหน้าต่างดังกล่าว

นายสมคิด ปานแก้ว หรือคิด อายุ 42 ปี น้องชายของคนตาย มีการนำภาพผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจมีการควบคุมตัวไปสอบปากคำอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย เบื้องต้นมีการควบคุมตัวไปแล้ว 7 คน และคาดว่าจะมีการคุมตัวเพิ่ม 1 คน คือ ชายลักษณะอ้วน ตามที่ชาวบ้านให้การเพิ่มเติม หลังจากที่นายสมคิดน้องชายของคนตายได้มีการดูภาพที่ทีมข่าวเอาไปให้ดู บอกว่าวัยรุ่นทั้ง 6 คน มีความเกี่ยวข้องกับคนตาย เพราะเป็นผู้เสพด้วยกัน แต่ส่วนของชายสูงอายุคือนายเชียร ไม่เคยมาที่บ้าน และไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคนตาย

นายสมคิด เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้ตนเองไม่สามารถที่จะระบุได้แน่ชัดว่าใครเป็นผู้ต้องสงสัยบ้าง กลัวว่าการระบุแล้วจะเป็นอันตรายต่อคนในครอบครัว มีคนที่คิดเอาไว้อยู่ในใจ หลังจากนี้ก็ต้องพึ่งกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าโดยเร็วนี้ตำรวจก็คงจะมีข่าวดีให้กับคนในครอบครัว ส่วนวันนี้ได้มีการนำร่างของนายไพรวัลย์ผู้ตายส่งตรวจชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เป็นเพราะว่าตำรวจต้องการเก็บหลักฐานให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะดีเอ็นเอของคนก่อเหตุที่ติดกับตัวของคนตาย และร่องรอยบาดแผลต่าง ๆ แต่หลังจากพรุ่งนี้เช้ารับศพกลับมาแล้วก็จะมีการประกอบพิธีทางศาสนา เผาร่างตามปกติ

ขณะที่ตนเองจะรับพ่อไปอยู่ด้วยที่บ้านของภรรยา ไม่กล้าให้อยู่บ้านเพียงลำพัง กลัวทั้งเรื่องของคนร้ายที่ยังจับไม่ได้ รวมถึงเรื่องของสุขภาพของพ่อ ตนเองจึงรับไปอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิดจะดีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาทุกคนก็มานอนรวมกันอยู่ที่วัด เนื่องจากยังไม่กล้าอาศัยอยู่ที่บ้าน กลัวว่าจะเป็นอันตราย สำหรับสาเหตุการฆาตกรรมพี่ชาย ตนเองก็ยังเชื่อว่าเป็นเรื่องของยาเสพติด เพราะเจ้าตัวไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร

นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมหลังคนร้ายทำแผนฯแล้วว่า ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้เเล้ว ตนไม่คาดคิดว่านายเบลจะทำเพราะนายเบลเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านที่เคยเห็นหน้าตากันบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังคงติดใจกับพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุว่านายเบลไม่น่าที่จะสามารถก่อเหตุได้เพียงคนเดียว หตุใดทำไมต้องทำรุนแรงขนาดนี้ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ลงโทษให้ถึงที่สุด ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต