หลังเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ต.ค. 61 เกิดเหตุเสาไฟฟ้าล้มฟาดรถยนต์ที่สัญจรไปมา ได้รับความเสียหายรวม 10 คัน รถจักรยานยนต์ที่จอดรอการซ่อมบำรุง ภายในร้านรับซ่อมจักรยานยนต์ และที่จอดซื้อของร้านสะดวกซื้อเสียหายกว่า 10 คัน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอีก 3 หลัง เหตุเกิดภายในซอยลาดพร้าว 64 แยก 4 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง
ความคืบหน้า วันที่ 27 ต.ค. 61 นายศุภกร เย็นสนิท โชเฟอร์แท็กซี่ ผู้เสียหาย ถูกเสาไฟฟ้าล้มพาดมาทับที่คานหลังคาใกล้กับกระจกหลังรถ เล่านาทีระทึกว่า ตนและผู้โดยสารอีก 4 ชีวิต รอดชีวิตมาได้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว เพราะตนรับลูกค้าจากสะพานควายไปแถวเลียบทางด่วน รามอินทรา โดยใช้ทางลัดจากถนนสุทธิสาร เพื่อตัดมาออกซอยลาดพร้าว 64 ซึ่งตอนนั้นเริ่มมีลมพัดแรง ป้ายโฆษณาริมถนนเริ่มสั่นไหว แต่ฝนยังไม่ตก ตนยังคุยกับผู้โดยสารว่าเริ่มไม่ค่อยดี ผู้โดยสารจึงถามตนกลับว่า พี่คิดอะไรอยู่หรือเปล่า ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้กลัวว่าป้ายโฆษณาจะล้ม แต่กลัวเสาไฟฟ้าจะล้มมากกว่า ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที เสาไฟฟ้าต้นแรกที่อยู่ตรงหน้าก็ล้มและดึงเสาต้นต่อ ๆ ไปล้มลงมาด้วย ก่อนที่ไฟจะดับและหม้อแปลงระเบิด ยาวไปทั้งซอย ระยะทางรวมเกือบ 500 เมตร
ตอนที่เสาล้มลงมาทับรถ ผู้โดยสารหญิงทั้ง 4 คนต่างร้องกรี๊ดเหมือนคนสติแตก บางคนเกือบร้องไห้ มือก็พยายามโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ แต่โทรไม่ติด
คุณศุภกรยอมรับว่า ตอนนั้นตนก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ต้องทำใจดีสู้เสือ ได้แต่บอกผู้โดยสารว่าอย่าลงจากรถ เพราะกลัวกระแสไฟฟ้าจะรั่วลงพื้นถนน รวมถึงตอนนั้นฝนก็ตกหนักน้ำนองเต็มพื้นถนน อาจจะถูกไฟดูดซ้ำได้ ก่อนช่วยกันโทรแจ้งเหตุกับการไฟฟ้า และตำรวจ แต่ก็โทรไม่ติด ซึ่งตนคิดว่าน่าจะโทรชนกับคนอื่น ๆ ที่พยายามจะแจ้งเหตุเช่นกัน จนมาจบลงที่การโทรแจ้ง สวพ.91 เพื่อขอให้ช่วยประสานงาน ซึ่งใช้เวลาเกือบ 20 นาที
จากการสังเกตเห็นตอนนั้น คนอื่น ๆ ก็ไม่มีใครกล้าลงจากรถ รวมถึงไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย เพราะต่างคนต่างก็กลัว ฝนก็ตกหนัก ลมแรง หม้อแปลงระเบิดติดต่อกันหลายครั้ง ซึ่งตนก็เข้าใจและนั่งรอจนลมฝนเริ่มสงบ แล้วรีบออกจากรถ แต่ในมือก็พยายามถ่ายคลิปเก็บไว้ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจาก การรับน้ำหนักของเสาไฟฟ้า ถ้ามีแค่สายไฟอย่างเดียวก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่บนเสามีสายเคเบิ้ลรวมอยู่ด้วย ซึ่งสายพวกนี้น้ำหนักมากพอสมควร
หลังจบเรื่อง ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.วังทองหลาง เพื่อเป็นหลักฐาน และส่งต่อให้กับอู่แท็กซี่ไปเคลมประกันต่อ โดยรถของตนมีเพียงรอยบุบจากตัวเสาไฟที่ล้มลงมาพาด แต่โชคดีที่มีสายเคเบิ้ลช่วยพยุงน้ำหนักไว้ จึงไม่เสียหายหนัก ส่วนที่รอดชีวิตมาได้ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะหลวงปู่ทวด ที่ตนจะติดไว้บริเวณคอนโซลหน้ารถตลอด จึงทำให้แคล้วคลาด