หนุ่มสวม EM สัญญาณหายสุดท้ายเป็นศพ เมียสลดต่อไฟช็อตปลาพลาดตายเอง (คลิป)

สืบเนื่องจากกรณีที่ทางเข้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งมีคนถูกไฟฟ้าชอร์ตดับ ที่คูน้ำข้างบ้านเลขที่ 60/2 ถนนหมู่ 2 เชื่อมหมู่ 15 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงไปตรวจสอบพบร่าง นายนิมิตร วรรณพิรุณ อายุ 54 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในคูน้ำ

ที่ข้อเท้าซ้ายพบกำไลอีเอ็มติดไว้ มีโคลนเกาะแน่น เบื้องต้น สาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าน่าจะมาจากที่ผู้ตายเอาสายไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์ มาช็อตหาปลาช่วงเช้า ก่อนพลาดท่าลื่นไถลตกน้ำ ไปโดนตะแกรงเหล็กที่มีกระแสไฟอยู่จึงโดนไฟดูดเสียชีวิตนั้น

ล่าสุด วันที่ 5 ต.ค. 64 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่กลางทุ่งนา ข้างบ้านจะมีกระท่อมหลังเล็กปลูกด้วยไม้ อยู่เหนือคูคลองน้ำข้าง ๆ บ้าน ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้เสียชีวิต

ทีมข่าวสาธิตจุดที่ผู้เสียชีวิตซ็อตปลา พบว่าคูน้ำดังกล่าวอยู่ห่างกับตัวบ้านเเค่ 5 เมตร ติดกับกระท่อมผู้เสียชีวิตนอน ลักษณะคูน้ำจะตื้น ประมาณแค่หน้าแข้ง ส่วนลักษณะตะแกรงซ็อตปลา จะเป็นไม้ยาวประมาณ 1.5 เมตร ที่ปลายมีสายไฟกับตะแกรงเหล็กกลม ผูกติดอยู่ปลายไม้ บริเวณจุดเกิดเหตุที่พบศพยังมีร่องรอยเท้าของคนตายที่ลื่นไถลลงไป ขณะที่สายไฟซ็อตปลาที่พ่วงจากไฟบ้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไปเรียบร้อยแล้ว

นายมังกรทอง วรรณพิรุณ อายุ 33 ปี ลูกชายคนกลางของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวจะแยกกับทางพ่อและแม่ไปพักบ้านอีกหลังหนึ่งในพื้นที่อีกตำบลหนึ่ง ก่อนที่ตนจะทราบว่าพ่อเสียชีวิต ช่วงเวลาประมาณ 04.17 น. เจ้าหน้าที่ศาลติดต่อมาหาตนมาว่าสัญญาณกำไล EM เครื่องควบคุมตัวอิเล็กทรอนิกส์ของพ่อขาดหาย และแบตเตอรี่ต่ำ อยากให้ตนเข้าไปดู ตอนนั้นในใจก็ยังคิดว่าคงเป็นเพราะเครื่อง EM มีปัญหาเพราะก่อนหน้านี้ 2 วัน เครื่องก็มีปัญหาแตกหัก

ตนเดินทางมาถึงบ้านแล้วทราบข่าวว่าพ่อเสียชีวิต ส่วนตัวก็เศร้าและร้องไห้ ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเตือนพ่อมาแล้วหลายครั้ง เตือนตนจะไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว แต่ก็ไม่ฟัง ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีก่อน ก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นพ่อเองโยนที่ซ็อตปลาขึ้นบนฝั่งทัน เลยไม่เป็นอะไร แต่มาครั้งนี้คาดว่าคงเมาเลยทำให้โดนไฟซ็อต

สาเหตุการลงไปซ้อตปลาคือเขาจะหาปลาในคูน้ำ ปลาหมอ ปลาช่อน ไปขายแลกเหล้าเป็นหลัก ขณะที่พบศพนั้นลักษณะเป็นคนโดนไฟซ็อตบริเวณสะโพก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง สุดท้ายแล้วทางญาติเองก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุ ซึ่งทางญาติเองเตรียมเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาล เพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดกระทุ่ม อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ในพื้นที่ใกล้บ้านต่อไป

ส่วนเรื่องคดีที่ทางคุณพ่อต้องใส่กำไล EM นั้นมาจากคดีเก่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 จากกรณีที่ผู้ตายเข้าไปเผาหญ้าในนาข้าวแล้วไฟลามไปติดนาข้างเคียง จนเกิดไฟไหม้ลุกไปลามข้าวของเครื่องใช้เพื่อนบ้านในระเเวกจนได้รับความเสียหาย ถึงขั้นที่ทางผู้เสียหายเรียกเงิน 1 ล้านแต่ทางครอบครัวไม่มีเงินสู้คดี เลยยอมรับสารภาพ และใช้เงิน 10,000 บาทยื่นประกันตัวชั่วคราวระหว่างสู้คดี โดยที่ศาลจึงสั่งให้ติดกำไรข้อเท้าเพื่อคุมประพฤติ

นางบรรจง ปักเขตานัง อายุ 54 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าความรู้สึกว่า ส่วนตัวยอมรับว่าเศร้าและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเองกับทางผู้ตายเเต่งงานมานานกว่า 30 ปี อยู่กินกันผ่านทั้งความทุกข์และความสุขกันมาหลายครั้ง แม้ว่าจะมีทะเลาะกันบ้าง งอนกันบ้างแต่ด้งยความรักเราทั้งคู่พร้อมให้อภัย พอเขามาจากไปตอนนี้ก็รู้สึกชีวิตขาดเสาหลัก ไม่รู้จะไปทางไหน

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 -18.00 น. เมื่อวานนี้ ผู้ตายและเพื่อนผู้ตายนั่งกินเหล้ากันอยู่บริเวณหน้าบ้าน หลังจากนั้นประมาณ 1 ทุ่มเหล้าหมด ทางผู้ตายเลยมาขอเงินตน 60 บาท เพื่อที่จะไปซื้อเหล้า แต่ตนเห็นว่าทั้งคู่เมาเเล้ว เลยไม่ให้เงินไป ก่อนที่จะมีปากเสียงกัน ตนเองก็ไม่ได้สนใจปิดบ้านนอนอีกห้องหนึ่ง ทางผู้ตายเองก็ออกไปนอนตรงกระต๊อบข้างบ้านใกล้กับจุดคูน้ำ

ต่อมาวันนี้เวลา 08.00 น. เขาก็ไม่กลับมา เลยตัดสินใจเดินไปดูเพื่อนบ้านที่ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร สุดท้ายไม่พบ ก่อนจะกลับมาบ้านแล้วทางนายจ้างที่จะจ้างทางตนและสามีปลูกข้าวมาหา ก็กลับมาพบศพของผู้ตายขณะที่กำลังเดินไปหาผู้ตาย ก่อนจะโทรแจ้งตำรวจและผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบ แต่ก็ไม่ทันแล้ว