จากกรณี เฟซบุ๊กแฟนเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 1" ได้เผยแพร่ข้อมูลระบุว่าครอบครัวนายภูริวัฒน์ เกษรบัว ผู้บาดเจ็บ โดนลูกหลงถูกยิงอาการสาหัส เมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นอนเป็นเจ้าชายนิทรา เบื้องต้นครอบครัวผู้ก่อเหตุได้มีการเยียวยาให้เพียง 2,000 บาท กังวลคดีความไม่คืบหน้า
วันที่ 6 ต.ค. 64 นายโสภณ เกสรบัว อายุ 36 ปี พ่อผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เวลาประมาณ 21.00 น. นลูกชายของตนเองกำลังนั่งเล่นเกมอยู่ แล้วมีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน ลูกกระสุนปืนยิงทะลุเข้ามาทำให้ลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังคงพักรักษาตัวอยู่ในขณะนี้ เบื้องต้นยังไม่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ แพทย์ระบุว่าต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเสียเลือดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งขณะนี้ต้องการเลือดอยู่เช่นกัน หากมีผู้ใดมีใจศรัทธา วอนบริจาคเลือดให้กับลูกชายตนเองด้วย
เบื้องต้น เรื่องความคืบหน้าทางคดี ตนเองได้เดินทางเข้าไปยัง สภ.อำเภอทุ่งสง มากกว่า 2 ครั้งก็ยังไม่ได้เอกสารกลับคืนมา ไม่ได้มีการรับแจ้งเหตุใด ๆ กังวลว่าคดีไม่มีความคืบหน้า ส่วนทางด้านผู้ก่อเหตุหรือครอบครับผู้ก่อเหตุนั้นไม่ได้ติดต่อเข้ามาเลย อยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือดูแล
ภาพจากกล้องวงจรปิด นายไนท์และภรรยาได้ขับรถมาจอดยังร้านทองแห่งหนึ่ง ต่อมาก็ลงรถพร้อมนำมือล้วงกระเป๋า หยิบปืนออกมา พยายามยิง และพยายามหลบคู่อริ จนกระทั่งออกจากบริเวณหน้าร้านทองออกไป ต่อมาจะเห็นได้ว่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเพื่อนนายนิว (นามสมมติ) ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบริเวณแยกไฟแดง คาดว่ากำลังขับรถตามไล่ เห็นได้ว่าวัยรุ่นขับขี่ CBR สีขาวน้ำเงิน หนึ่งในสองคน เป็นนายนิว (นามสมมติ) ที่เป็นคู่กรณีกับนายไนท์ กำลังขับรถวนเวียนหานายไนท์เพื่อตามไล่ยิง จากจุดที่นายไนท์ขับรถหนีจากหน้าร้านทอง
ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นกลุ่มเพื่อนของนายไนท์ และนายไนท์พยายามขับรถหนี คาดว่าถูกยิงระหว่างช่วงบริเวณทางรถไฟ จังหวะที่รถเซและได้เลี้ยวรถเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน หลังจากถูกยิงเข้าที่บริเวณช่วงเอวข้างซ้าย ไปยังซอย 9 ถนนประชาอุทิศ
ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางมายังร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช บริเวณใกล้สามแยกบ้านเปอะ บริเวณหน้าร้านจะมีโต๊ะม้าหินอ่อนขนาดใหญ่ มีเก้าอี้ล้อมรอบกว่าหลายตัว ไว้สำหรับรองรับลูกค้า
ซึ่งเป็นจุดที่ผู้บาดเจ็บและเพื่อน ๆ นั่งอยู่บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนดังกล่าว บริเวณร้านจะเห็นได้ว่ามีป้าย Free WiFi สำหรับให้บริการสำหรับลูกค้า พบปลอกกระสุนปืน และหัวกระสุนปืนบางส่วนที่ทางร้านเก็บได้ในร้านอีกด้วย
นายสมร (นามสมมติ) เจ้าของร้านของชำ เล่าว่า กลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 14-17 ปี มานั่งเล่นช่วงประมาณ 18.00 น. มาซื้อขนมที่ร้านและนั่งเล่นโทรศัพท์ เล่นอินเทอร์เน็ตหน้าร้าน เป็นกลุ่มนั่งกันเล่นเกมประมาณ 10 กว่าคน จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. มีวัยรุ่นขับรถเข้ามาแล้วยิงปืนเข้ามายังร้านดังสนั่น ประมาณ 5-6 นัด เด็กที่นั่งอยู่บริเวณหน้าร้านต่างวิ่งหนีกระเจิง และเมื่อเสียงปืนเงียบลง ตนเองรีบเดินออกมาดู พบเห็นว่านายภูริวัฒน์ ผู้บาดเจ็บ นอนฟุบอยู่บนโต๊ะ จึงรีบประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนั้นตนเองก็ไม่พบเห็นกลุ่มวัยรุ่นที่ขับรถมาก่อเหตุแล้ว
ส่วนตัวยังสับสนว่าสาเหตุอะไรที่มีปัญหากันเกิดขึ้น เนื่องจากกลุ่มเด็กกลุ่มนี้ไม่เคยมีปัญหากับใคร เพราะในทุกวัน กลุ่มเด็ก ๆ ก็จะมานั่งเล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ตฟรีที่ร้านและนั่งหน้าร้านเป็นประจำทุกวัน ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ยิงปืนเข้ามานั้น อาจจะมีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง แล้วเกิดเข้าใจผิดจึงเข้ามายิงใส่กลุ่มเด็กกลุ่มนี้ ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น อยากให้ครอบครัวมารับผิดชอบ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วย เนื่องจากผู้บาดเจ็บไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ไม่ได้ทะเลาะกับใคร
ตำรวจ สภ.อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนนายภูเบต หรือ ภูมิ ผู้ก่อเหตุ ระบุว่านายภูมิพักอาศัยอยู่กับภรรยาจนกระทั่ง เวลา 20.10 น. วันที่ 30 ก.ย.64 โทรศัพท์มือถือดังขึ้น เป็นสายจากภรรยาของนายธนกฤษ หรือ ไนท์ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงรีบเดินทางไปดูเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยใช้รถ PCX สีดำแดงป้ายแดง
โดยเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้พบเจอภรรยานายไนท์ ได้บอกกับนายภูมิว่านายไนท์ใช้อาวุธปืนยิงโต้ตอบกับวัยรุ่นกลุ่มนายนิว (นามสมมติ) และนำปืนเก็บใส่กระเป๋าสะพายข้างเอาไว้ นายภูมิจึงหยิบปืนสั้นลูกโม่ของนายไนท์ ชวนนายพีรพัฒน์ หรือ เจ ขับรถออกไป ยังที่เกิดเหตุ ร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช บริเวณใกล้สามแยกบ้านเปอะ เมื่อขับรถมาถึง กลุ่มที่วัยรุ่นนั่งอยู่ในร้านหยิบอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่รถของนายเจ และนายภูมิ 4-5 นัด โดยนายเจพกอาวุธปืน และนายภูมิพกอาวุธปืนที่หยิบมาจากนายไนท์มาด้วย จึงหยิบปืนยิงใส่เข้าภายในร้านเพื่อป้องกันตัว และขับรถหลบหนีไป
นายชัย (นามสมมติ) พ่อผู้ก่อเหตุ ระบุว่า ลูกชายของตนเอง อาศัยพักอยู่บ้านกับภรรยาของลูกชาย แล้วทราบมาว่านายไนท์ เพื่อนของลูกชายโดนยิง และแฟนของนายไนท์โทรศัพท์เข้ามาหาลูกชาย ลูกชายจึงรีบออกจากบ้านไปช่วยเหลือ ไปดูเพื่อนที่บาดเจ็บยังที่เกิดเหตุ ที่บ้านของนายไนท์ และลูกชายก็คาดว่าไปพบกบกลุ่มที่มีเรื่องกันก่อนหน้า จึงทำให้มีการทะเลาะวิวาทกันรอบที่ 2 ส่วนเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้น ยังไม่ได้พูดคุยกับลูกชาย ทราบว่าตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำแล้ว ลูกชายก็เดินทางไปให้ปากคำ ส่วนเรื่องการเยียวยานั้น ตนเองยังไม่ได้ปรึกษาภรรยาตนเอง แต่ทราบว่าลูกสาวที่เป็นทหารส่งเงินให้กับครอบครัวผู้บาดเจ็บแล้ว เรื่องค่าใช้จ่าย แต่ตนเองก็ไม่ทราบจำนวน
ส่วนเรื่องค่าเยียวยาต่าง ๆ ยังไม่รู้ ลูกชายตนเองกับผู้บาดเจ็บนั้นเป็นเครือญาติกัน เป็นหลานของตนเอง เพียงแต่เด็ก ๆ นั้นไม่ทราบว่าคนที่บาดเจ็บนั้นเป็นญาติกัน ถ้าหากเรียกเงินเยียวยาที่พอชดใช้ได้ ตนเองก็พร้อมชดใช้ ต้องรอให้เขาหายจากการบาดเจ็บและรักษาตัว ก่อนถึงจะมาพูดคุยอีกครั้งเรื่องค่ารักษาพยาบาล ยอมรับว่าลูกไม่ได้เกเร ไม่เคยทะเลาะวิวาท แต่ไม่ค่อยตั้งใจเรียน เป็นคนติดเพื่อน เวลาเพื่อนมีปัญหาก็จะออกไปช่วยเหลือ ขับรถไปตามเพื่อนตลอดเวลา รักเพื่อน เพื่อนโทรมาหาว่ามีเรื่องก็จะออกไปเป็นประจำ ตนเองพูดสอนเป็นประจำ ลูกชายก็นั่งฟังตลอด