ไขปริศนา ฮ.เจ้าสัววิชัย 280 ล้านตก ไม่ใช่ฆาตกรรม ชี้ 3 ปมดิ่งพสุธา อยู่ที่ใบพัด (คลิป)

จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกข้างสนามทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เสียชีวิต พร้อมด้วย จุ๋ม นุสรา สุขหน้าไม้ อดีตนางงาม รวมถึงทีมงานของเจ้าสัววิชัย และนักบิน เสียชีวิตรวม 5 ศพ ท่ามกลางความเศร้าโศกของครอบครัว และเป็นเรื่องช็อกวงการฟุตบอลทั่วโลก

วันที่ 29 ต.ค. 61 นาวาอากาศโทอรรถยุทธ ขาวสอาด นักบินเฮลิคอปเตอร์ เปิดเผยว่า ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ยกตัวบินขึ้น และตกลงมากระแทกพื้นเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ดังนั้นจะต้องมีการสอบสวนจากพยานที่เห็นลักษณะของอากาศยานก่อนจะตก รวมถึงมีการสืบสวนซากของเฮลิคอปเตอร์ เพื่อวิเคราะห์สาเหตุ ซึ่งจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกในอังกฤษ จากที่ตัวเองได้ติดตามข่าวสาร ก็ได้ทราบจากคำให้การว่าเฮลิคอปเตอร์หมุนก่อนตก ดังนั้น จึงต้องกลับไปย้อนดูว่าลักษณะของการหมุนของอากาศยาน พบว่าเป็นแบบซิงเกิ้ล โรเจอร์ ซึ่งมีใบพัดด้านบนเป็นหลัก และมีใบพัดควบคุมอยู่ส่วนท้าย

โดยสาเหตุที่ใบพัดท้ายเครื่องไม่ทำงาน เกิดได้ 3 สาเหตุ คือ 1. สภาพอากาศ แรงลม ที่ทำให้อากาศยานเสียการทรงตัวได้ง่าย 2. สิ่งแปลกปลอมภายนอกที่เข้าไปสัมผัสหรือโดนใบพัด เช่น นกบินไปโดนใบพัด, กระทบโดนเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า เป็นต้น 3.เกิดจากความขัดข้องในตัวของระบบเพลา หรือ ฟันเฟือง ขาดหรือเสียหาย ซึ่งระบบเพลา แม้จะเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนใบพัด แต่เมื่ออากาศยานยกตัวขึ้นไปแล้ว ก็มีโอกาสเกิดความเสียหายได้ทุกเมื่อ อากาศยานเป็นสิ่งที่เปราะบาง หากกระทบโดนสิ่งของจากภายนอกเข้าไปโดนใบพัด ก็จะได้รับความเสียหายได้ทุกเมื่อ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เชื่อว่านักบินมีความพยายามในการควบคุมเครื่องอากาศยานอย่างเต็มกำลังแล้ว และเชื่อว่าไม่ใช่เป็นเพราะความบกพร่อง หรือมีเหตุจูงใจอื่นเพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ตก และการตรวจสอบอากาศยานเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะวิศวกรที่ตรวจสอบ จะต้องมีการลงลายมือชื่อเอาไว้ เจ้าหน้าที่จะต้องมีการตรวจเช็กทุกขั้นตอนเป็นไปตามคู่มือ มั่นใจว่าไม่ใช่เป็นการฆาตกรรม นอกจากนี้ เฮลิคอปเตอร์ที่เกิดเหตุในประเทศอังกฤษ เป็นเครื่องชนิดวีไอพี เป็นเครื่องขนาดใหญ่ จึงสามารถรองรับแรงลมได้มากกว่า 25 น็อต แต่ไม่เกิน 30 น็อต แต่ส่วนตัวเชื่อว่าประสบการณ์ของนักบินรวมถึงสภาพอากาศแวดล้อมวันเกิดเหตุ ความเร็วลมจึงไม่ใช่อุปสรรคของการควบคุมอากาศยานในวันดังกล่าวอย่างแน่นอน

โดยหลักการทำงานของ เฮลิคอปเตอร์ในปัจจุบันมีหลักการทำงานแบบซิงเกิ้ล โรเจอร์ ซึ่งมีใบพัดประธาน (ด้านบน) เป็นตัวหลัก ทำหน้าที่ควบคุมความเร็ว การยกตัว และขับเคลื่อน ส่วนใบพัดควบคุม (ด้านหลัง) ทำหน้าที่สำหรับควบคุมบังคับเครื่องไม่ให้หมุน และใช้กำหนดทิศทางหันไปทางซ้ายและขวา ดังนั้นรูปแบบของซิงเกิ้ล โรเจอร์ จึงต้องใช้ใบพัดทั้งสองทำงานแบบสัมพันธ์กัน หากใบพัดควบคุม (ใบพัดหลัง) ดับหรือเสียหาย เครื่องจะเสียการทรงตัว ที่เรียกว่าอาการหมุน แต่หากใบพัดประธานขัดข้อง เครื่องก็จะตกทันที เพราะเป็นระบบเครื่องยนต์หลัก ซึ่งจากกรณีเฮลิคอปเตอร์ตก จึงอาจเกิดจากเพลา หรือ ใบพัดควบคุมไม่ทำงาน (ใบพัดด้านหลัง)

ส่วนการบินเฮลิคอปเตอร์ในเพดานต่ำกว่า 200 ฟุต ที่มีอุปสรรคเป็นอาคารก่อสร้างหรือเสาไฟ ประกอบกับความเร็วไม่ถึง 40 น็อต หากใบพัดควบคุมไม่ทำงาน เครื่องจะเสียการทรงตัวอย่างรวดเร็ว และหมุนรอบตัวเอง ทำให้นักบินขาดสติ และควบคุมอากาศยานไม่ได้ จนเครื่องค่อย ๆ ลดระดับและตกลงสู่พื้น ซึ่งความสูงไม่มาก จึงทำให้กระทบสิ่งกีดขวางเหล่านั้นได้ง่าย ทำให้เกิดอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนลักษณะการตกก็จากกระแทกพื้นโดยใต้ท้องเครื่อง ด้านข้าง ด้านหน้า หรือใบพัด สามารถกระแทกได้ทุกส่วนเพราะเสียการทรงตัวไปแล้ว