สาวรับประกาศขาย “ไต-ดวงตา” จริง! หวังเงินซ่อมรถ เหตุตร.ล่าคนร้ายชนพัง เดือดร้อนทำกิน จี้สตช.ช่วย (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก หมึก ทอดเนย โพสต์ข้อความ ขอความช่วยเหลือ หลังจากที่รถของตัวเองถูกคนร้ายหนีการจับกุมยาเสพติดชนจนได้รับความเสียหาย โดยตำรวจชี้แจงว่าให้ไปฟ้องแพ่งกับผู้ต้องหา กระทั่งผ่านมา 4 เดือน ปรากฏว่าคดีไม่มีความคืบหน้า จึงได้ประกาศขายดวงตาและไต เพื่อนำเงินมาจ่ายค่ารถนั้น วันที่ 31 ต.ค. 61 นางยชวดี เล็กศิริ ผู้โพสต์ข้อความและผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนต้องการขายอวัยวะเพื่อนำเงินมาจ่ายค่างวดรถ เนื่องจากในระหว่าง 4 เดือน ที่ผ่านมา ตนต้องใช้เงินรักษาตัวเองและหลานซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงแม้ตนจะเข้าใจว่า ตำรวจต้องทำตามหน้าที่ แต่ขณะนี้ครอบครัวตนเดือดร้อนหนัก โดยหลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวไปแล้ว ปรากฏว่ามีคนติดต่อมาเพื่อบริจาคเงินให้ แต่ตนขอไม่รับเงินบริจาคไว้ เพราะหากจะช่วย ตนขอให้ซื้ออุปกรณ์ทำกินที่ตนประกาศขายไว้จะดีกว่า ส่วนเรื่องขายอวัยวะนั้น หากเป็นความผิดตนก็จะไม่ขาย

นางยชวดี เปิดเผยอีกว่า ต้องการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นใจตนเองและครอบครัวด้วย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดเพราะความประมาท แต่เกิดเพราะการไล่จับคนร้ายจนมาชนรถยนต์ของตนเอง ดังนั้นจะให้ตนไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับคนร้ายได้อย่างไร หลังเกิดเหตุทาง พ.ต.อ.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน ผกก.สภ.เมือง ระยอง ช่วยเหลือเงินมา 2 หมื่น และทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัด จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลของหลานที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 30,000 บาท ตนก็จะนำไป จ่ายค่างวดรถก่อน

ต่อมา นายภีมร์เดช อมรสุคนธ์ ประธานสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เกิดเหตุจากเจ้าหน้าทีตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง เข้าจับกุมผู้ค้ายาเสพติด โดยการขับรถติดตามจับคนร้าย ทำให้คนร้ายที่ขับรถยนต์ไปชนกับรถป้ายแดงของนางยชวดี จนพังยับทั้งคัน โดยในช่วงแรก มีการไกล่เกลี่ยกันและยื่นขอเสนอเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่ารถยนต์ มูลค่า 7 แสนบาท ส่วนอีก 3 แสนบาท เป็นค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียเวลา เนื่องจากไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้เพราะไม่มีรถ ขณะนี้เหตุการณ์และเงื่อนไขได้เปลี่ยนไป ผู้เสียหายจึงจำใจต้องนำซากรถยนต์ไปซ่อมเป็นเงินจำนวน 3-4 แสนบาท เพราะรอการชดใช้ไม่ไหว และออกมาเรียกร้องค่าเสียหาย ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเรื่องเงินค่าผ่อนรถในส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมถึงเงินรายได้ที่ขาดหายไป ซึ่งยอดเงินที่ได้เรียกร้องไปครั้งใหม่นั้นลงมามากแล้ว จากที่ได้ยื่นข้อเสนอไปในครั้งแรก หากผู้บังคับบัญชาไม่ยอม ผู้ที่เดือดร้อนก็คือเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีการไล่ล่าคนร้ายมาพร้อมทั้งมีเสียงปืนดังขึ้นด้วย ทั้งนี้ แม้ว่าตำรวจสภ.เมืองระยองต้องการช่วยเหลือ แต่ความจริงแล้ว ผู้รับผิดชอบ คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเหตุเกิดขณะตำรวจกำลังปฏิบัติงานในหน้าที่ ซึ่งหากยังไม่มีการรับผิดชอบ พวกตนก็จะต้องดำเนินการฟ้องร้องต่อไป ด้าน น.ส.ปุณณดา เกิดศิริ บุตรสาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้สึกสะเทือนใจมากเมื่อทราบเรื่องว่ามารดาประกาศขายไตและดวงตา  ซึ่งตนโทรหามารดาได้ความว่า เหตุผลที่ทำไปเนื่องจากความเครียดเรื่องเงิน เนื่องจากมีภาระเรื่องค่าผ่อนรถ และค่าหนี้สินที่กู้มาลงทุน ประกอบกับกลัวจะเสียประวัติเพราะมีชื่อเป็นเจ้าของรถ แต่อย่างไรก็ตาม ตนจะไม่ให้แม่ทำอย่างที่ประกาศไว้เด็ดขาด