จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปเด็กวัยรุ่นผู้หญิง 4 คนรุมทำร้ายร่างกายเด็กหญิง 1 คน ด้วยการรุมเตะ กระทืบ รวบถึงถอดรองเท้าฟาดไปที่ศีรษะอย่างรุนแรง ก่อนผลักลงไปในสระน้ำและจับกด
ล่าสุด วันที่ 1 พ.ย. 61 พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ สภ.โซ่พิสัย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมี พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย พร้อมตำรวจเตรียมให้ข้อมูล โดยร้อยเวรสอบสวนเจ้าของคดีกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดเหตุขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 61 นางประนอม เหล่าสุนา อายุ 47 ปี พา น.ส.จรรยาย เหล่าสุนา อายุ 16 ปี ลูกสาว เข้าแจ้งความว่าถูกกลุ่มเด็กหญิงวัยรุ่น 4-5 คนรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ โดยผลการตรวจไม่พบบาดแผล พบกล้ามเนื้ออักเสบบางแห่ง จากนั้น ติดตามกลุ่มที่รุมทำร้ายมาสอบปากคำ และต้องลงกัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ยินยอมไม่เอาเรื่องกัน ขอแค่เพียงให้อีกฝ่ายที่ถูกกระทำได้อบรมนิสัยเท่านั้น
พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูล และรับฟังคดี ตรวจดูคลิปจากร้อยเวรเรียบร้อยแล้ว จึงได้สั่งการให้ตำรวจทำการสอบสวนคดีขึ้นใหม่ โดยไปนำตัวเยาวชนทั้ง 4 คน มาดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะเป็นความผิดชัดเจน และจะได้เรียกผู้เสียหายมาสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้น ตั้งข้อหาเยาวชนหญิงทั้ง 4 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และส่งให้สถานพินิจควบคุมตัว ส่วนคนที่เหลือ จะเรียกมาสอบสวนอีก หากมีความผิดก็จะดำเนินการเช่นกัน
ซึ่งจากการสอบถามเด็กทั้ง 4 คน อ้างว่าไม่ได้เป็นคนโพสต์คลิปดังกล่าว แต่เป็นเพื่อนของเพื่อนที่ส่งไปเยาะเย้ยกัน จนทำให้พี่สาวเห็นการกระทำดังกล่าวแล้วไม่พอใจ จึงโพสต์คลิปลงสู่สังคมออนไลน์
ขณะที่
นางประนอม เหล่าสุนา แม่ของน้องมายด์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มวัยรุ่นที่ทําร้ายร่างกายลูกสาว แต่ตำรวจยืนยันว่าเอาผิดไม่ได้ และเมื่อกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาถึงโรงพัก ยังข่มขู่ลูกสาวต่อหน้าตนว่า "กระจอก ทำอะไรกูไม่ได้หรอก ถ้ากูเจอมึงอีกครั้ง จะเอาให้ตาย" ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง รวมถึงช่วงที่สอบปากคำ มีเพียงพนักงานสอบสวนเท่านั้น ซึ่งกลุ่มเด็กที่ก่อเหตุอายุต่ำกว่า 18 ปี และไม่มีสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำด้วย จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดี และที่สำคัญผู้ก่อเหตุไม่ได้สำนึกผิด โดยที่ผู้ปกครองฝ่ายที่ก่อเหตุ ก็ไม่ได้เข้ามาห้ามปราม หรือขอโทษแต่อย่างใด
นางประนอม ยืนยันว่า หลังจากนี้ แม้ฝั่งคู่กรณีจะพยายามเข้ามาขอโทษ หรือขอให้ยอมความ ก็จะไม่มีการตกลงใด ๆ เกิดขึ้น และจะเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด เพื่อให้เด็กกลุ่มที่ก่อเหตุได้หลาบจำ พร้อมฝากไปถึงผู้ปกครองของเด็กกลุ่มนี้ว่า หากคนที่โดนกระทำเป็นลูกหลานของตัวเองจะรู้สึกอย่างไร
น้องจรรยา หรือ มายด์ อายุ 16 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังกลับไปที่บ้านเกิดในช่วงวันออกพรรษาที่ผ่านมา โดยวันที่ 24 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาล มาชวนให้ไปกินข้าวด้วย เพื่อนขี่รถจักรยานยนต์มารับที่บ้าน แต่ไม่ได้ไปที่ร้านอาหารตามที่คุยกันไว้ กลับพาไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อให้กลุ่มเด็กอายุ 14-15 ปี รุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งมีรุ่นพี่อายุ 18 ปี เป็นผู้สั่งการให้กลุ่มเด็กทั้งหมดลงมือตบตน พร้อมกับลากลงไปในน้ำ โดยขณะนั้นกลุ่มที่รุมทำร้ายพยายามจับหัวกดน้ำ จนทำให้หายใจไม่ออก ซึ่งคิดว่าตนเองนั้นไม่น่าจะรอดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วตนจึงตัดสินใจดำน้ำหนี ทำให้กลุ่มที่ทำร้ายตนไม่สามารถตามมาได้ เนื่องจากคิดว่าไม่มีใครว่ายน้ำเป็น
น้องมายด์ เล่าเพิ่มเติมว่า หลังจากเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอจบลง เพื่อนสนิทคนที่นัดไปกินข้าวตอนแรก ได้พากลับไปส่งที่บ้าน แต่ระหว่างทางมีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมดักรอ เพื่อรุมทำร้ายเป็นรอบที่ 2 ด้วย ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ แต่พนักงานสอบสวนบอกว่า ไม่สามารถดำเนินคดีกับเด็กเหล่านี้ได้เนื่องจากอายุไม่ถึง 18 ปี จึงแนะนำให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย และผู้ปกครอง เข้ามาไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก และแนะนำให้ตนยอมความ
ส่วนสาเหตุที่ถูกทำร้ายนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยทะเลาะกัน แต่เบื้องต้นทราบว่าหญิงอายุ 18 ปี ที่เป็นคนสั่งการให้มารุมตบ เคยคบกับแฟนหนุ่มของตนเอง แต่เลิกรากันไปนานแล้ว และก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยมีการติดต่อหรือพูดคุยกัน จนถึงวันนี้แม้จะผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว ยังคงรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ นและคงยังไม่กล้ากลับไปที่บ้านเกิดของตนเองอีกแล้ว แต่รู้สึกดีขึ้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยดำเนินคดี