การกรณีเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่าน (31 ต.ค. 61) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งประชาชนว่า มีหลานสาวทำร้ายร่างกายย่าตัวเอง จนได้รับบาดเจ็บ ที่ ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี พบนางอำพัน ก่ำใกล้ผล อายุ 56 ปี ถูกนางสาวแพรวา หรือ แจน อายุ 16 ปี หลานสาว ทำร้ายร่างกาย หลังจากขอเงินย่าจำนวน 30,000 บาท โดยอ้างว่าเพื่อไปซื้อรถจักรยานยนต์ และไปเรียนหนังสือ เมื่อย่าปฏิเสธจึงถูกตบตีทำร้ายร่างกาย และตัวเองก็โทรแจ้งตำรวจเอง (อ่าน :
เด็ก 16 ตบหน้าย่า! ฉุนขอ 3 หมื่นไม่ยอมให้ ญาติเผยเลี้ยงตามใจ ย้ายรร. 5 รอบ อึ้งถูกขัดใจ กรีดแขนเลือดป้ายหน้า)
วันที่ 1 พ.ย. 61
นางอำพัน ก่ำใกล้ผล ย่าของนางสาวแจน เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลา 18.00 น. หลานเดินมาขอเงินจำนวน 30,000 บาท เพื่อนำไปซื้อรถจักรยานยนต์ แต่ตนไม่มีให้ จากนั้นหลานก็มองหน้าทำตาขวางใส่ พร้อมกับพูดว่า หากไม่ให้จะโมโหแล้วนะ แล้วจึงลงมือจิกแขน และตบหลังของตน นอกจากนี้ บางครั้งหลานก็เคยตบเบ้าตาจนเขียว และแม้ว่าตนบอกกับหลานไปว่าเจ็บ แต่หลานก็ไม่ยอมฟัง กระทั่งต้องรอให้หลานหยุดเอง หลังจากทำร้ายตัวเองเสร็จแล้วก็จะมีอารมณ์ดีขึ้น และกลับเป็นปกติ ถ้าเวลาโมโหจะพูด "กู-มึง"
หลังจากทำร้ายตน หลานก็มาบอกกับตนว่า จะโทรแจ้งตำรวจ และขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ไม่นานตำรวจเดินทางมาถึงที่บ้าน และโทรศัพท์เรียกกู้ภัยเพื่อจะพาหลานของตนไปส่งโรงพยาบาล โดยกู้ภัยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานถึง 2 ชั่วโมง หลานถึงยอมขึ้นรถกู้ภัยเพื่อไปโรงพยาบาล ขณะที่ไปถึงโรงพยาบาล ตอนแรกหลานก็ยอมให้แพทย์กำการรักษาตามขั้นตอน แต่สักพักก็กระโดดลงจากเตียง พร้อมกับดึงสายน้ำเกลือออกและกรี๊ดลั่นโรงพยาบาล จากนั้นตนจึงปล่อยให้หลานก็นอนโรงพยาบาล 1 คืน
ขณะเดียวกัน หลานของตนชอบไปขับรถเล่นตอนกลางคืน ห้ามก็ไม่ฟัง เวลาออกไปก็กลับเกือบเช้า ตนเกรงว่าผู้ชายจะมาข่มขืน จึงให้แพทย์ฝังยาคุมแบบ 3 ปีให้ ส่วนพฤติกรรมที่เป็นอยู่นั้น แพทย์ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร แค่ให้ยามากิน และแนะนำว่า เวลาหลานโมโห อย่าต่อปากต่อคำ ให้อยู่เฉยๆ แล้วเขาจะอารณ์ดีขึ้นเอง
ต่อมา หลังจากที่หลานตนฟื้น เมื่อ 17.00 น. ที่ผ่านมา ตนพาหลานกลับมาบ้าน ขณะเดินทางกลับยังไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ กระทั่งมาถึงบ้าน หลานของตนจึงเริ่มมีพฤติกรรมแบบเดิมอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้หลานใช้เท้าจิก และมือทุบหลังตน จากนั้น หลานตนพูดขึ้นว่า ถ้าไม่อยากให้อยู่ ก็จะออกไปจากที่นี่ ไม่นานก็สะพายกระเป๋า และเดินไปที่บ้านยายอีกหลัง
โดย
นางอำพัน เปิดเผยว่า ถ้าหลานของตนมีอาการเครียด หรือทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ เช่น ขอเงินแล้วตนไม่ให้ ก็จะมีพฤติกรรมแบบนี้ขึ้นมาทันที โดยมีการทำร้ายตัวเอง และทำร้ายตน บางครั้งถึงขั้นจะฆ่าตัวตายโดยการผูกคอตาย และกระโดดน้ำ
นางสาวเฟิร์น (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตั้งแต่รู้จักกับน้องแจนมา เวลาอยู่กับคนอื่นจะมีพฤติกรรมปกติ ไม่มีพฤติกรรมแบบที่อยู่กับย่า ตนพูดอะไรก็เชื่อฟัง และฟังรู้เรื่อง ส่วนตัวไม่เคยโดนแจนทำร้ายใคร แต่เคยเห็นน้องแจนทำร้ายย่า ซึ่งตนก็บอกกับแจนได้แค่ว่า ”ใจเย็น” เพราะไม่กล้าเข้าไปช่วย เกรงว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งแม้น้องแจนจะฟังในสิ่งที่ตนพูด แต่หลังจากตนเดินออกไป ก็จะทำพฤติกรรมแบบเดิม
นางสาวเฟิร์น เล่าต่อว่า เวลาน้องแจนโมโห จะชอบทำลายข้าวของ ตนยังเคยไปช่วยย่าอำพันเก็บของที่เกิดจากฝีมือของน้องแจน ซึ่งในการทำร้ายร่างกายนั้น น้องแจนจะทำร้ายแค่ตัวเอง และย่าเท่านั้น เท่าที่ตนเคยเห็น คือน้องแจนมักจะใช้มีดกรีดแขนตัวเอง และเคยจะผูกคอตาย ส่วนย่าก็จะถูกกระทำทุกอย่าง ทั้งโดนหยิก ทุบตี ซึ่งตนก็เคยไปห้ามอยู่บ่อยครั้ง