กรณีวันที่ 13 ต.ค. 64 สน.เพชรเกษม รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ได้ใช้อาวุธมีดสปาต้า ยาว 18 นิ้ว และอาวุธมีดปลายแหลมยาว 15 นิ้ว รวม 2 เล่ม ไล่แทงและฟันกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นที่มารวมตัวกันหาเรื่องบริเวณหน้าบ้านพัก ในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ซอย 39 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. ล่าสุด มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้ก่อเหตุถูกคุมตัวแล้วนั้น
วันที่ 15 ต.ค. 64 ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ศาลได้อนุมัติให้ประกันตัวผู้ก่อเหตุออกมาได้ด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสดที่เสี่ยเปีย ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน จำนวน 500,000 บาท
โดยสภาพของนายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุ ยังคงอิดโรย และกล่าวกับทีมข่าวว่า "รู้สึกเจ็บแผลอยู่" และเมื่อเห็นแม่ก็ก้มลงกราบทันที พร้อมก้มกราบทนายไพศาล เสี่ยเปีย รวมถึงหมอปลาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ
นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนไม่รู้จักผู้ก่อเหตุมาก่อน เขามาขับรถตัดหน้าตน แต่ตนไม่ได้ติดใจ เพราะคิดว่าเป็นคนทำงาน ไม่อยากจะมีเรื่อง ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการให้ของลับ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร และทำเพื่อป้องกันตัวเอง โดยถึงแม้ว่าตอนนี้ตนได้รับการประกันตัวออกมา ตนก็ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยมาก ตนขอขอบคุณทนายไพศาล หมอปลา และเสี่ยเปีย รวมถึงขอโทษแม่ของตนด้วย
ตนยอมรับว่าหลังจากที่ถูกจับ ตนคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะนี้ตนยังเจ็บแผลอยู่ เพราะแขนข้างซ้ายหัก แต่หลังจากก็คงจะต้องสู้ต่อไป
ด้านนางอุ้ม (นามสมมติ) แม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่ลูกชายได้ออกมา และอยากจะร้องขอความเป็นธรรมสังคม ว่าลูกทำไปเพราะป้องกันตัว ในส่วนของคดีความ หลังจากนี้จะต้องไปสู้กันในชั้นศาล
ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดในซอยที่เกิดเหตุ บริเวณปากซอยก่อนถึงบ้านนายณัฐวุฒิ ประมาณ 20 เมตร จับภาพได้ช่วงเวลา 17.43 น. เห็นกลุ่มมอเตอร์ไซค์จำนวน 5 คัน 7 คน ขับผ่านกล้องตัวดังกล่าวเข้าไปที่บ้านของนายณัฐวุฒิ ถามกับกลุ่มชาวบ้านว่าบ้านอยู่หลังไหน ก่อนที่จะมีการก่อเหตุ และมีมุมที่หยิบถุงขยะด้วย
ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านสุขสันต์ ย่านบางแค พบว่าในช่วงเช้าวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจาก สน.เพชรเกษม เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยภายในซอย มีการสอบถามกลุ่มชาวบ้านที่อยู่ภายในซอย เกี่ยวกับความเรียบร้อยหลังจากเกิดเหตุ อีกทั้งได้มีการสอบถามเพิ่มเติมว่าช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมามีกลุ่มวัยรุ่นแปลกหน้าเข้ามาแวะเวียนภายในซอยหรือไม่ ชาวบ้านใช้ชีวิตตามปกติ
ขณะเดียวกันทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่หน้าบ้านของนายณัฐวุฒิ หรือ บาส ที่เกิดเหตุ พบว่ามีรอยแตกของอิฐมอนกระจายอยู่บริเวณนอกรั้วหน้าบ้าน ยังไม่ได้มีการเก็บทำความสะอาด สังเกตมีอิฐกองเอาไว้อีกหลายก้อนเป็นชนิดเดียวกันกับที่กลุ่มของอริใช้ก่อเหตุขว้างปาเข้าไปในบ้านของนายณัฐวุฒิ
นางสาวเตือนใจ (นามสมมติ) ชาวบ้านภายในซอยที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองเห็นว่าบริเวณหน้าบ้านของนายณัฐวุฒิมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งมากดดันและหาเรื่องเจ้าตัว หลังจากที่ตนเองเห็นคลิปที่ปรากฏออกมาก่อนหน้านี้ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นนายณัฐวุฒิถือมีดออกมาจากบ้านไล่แทงกลุ่มวัยรุ่น เป็นการทำเกินกว่าเหตุ รุนแรงเกินไป กระทั่งล่าสุดมีคลิปตัวใหม่ออกมา เห็นการกระทำของกลุ่มอริรุมทำร้ายนายณัฐวุฒิ กลับเปลี่ยนความคิด รู้สึกว่าสงสารเพราะจากคลิปดังกล่าวเป็นการกระทำที่โหดร้ายกับนายณัฐวุฒิ
สำหรับนิสัยส่วนตัวของนายณัฐวุฒิ อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านไม่ได้ยุ่งหรือสุงสิงกับใคร ไปทำงานกลับมาบ้านก็พักผ่อน ท่าที่ได้มีโอกาสได้ทักทายพูดคุย เจ้าตัวก็ไม่ได้มีอารมณ์หัวร้อนหรือสร้างความวุ่นวายให้กับเพื่อนบ้าน เห็นแต่ตอนขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทำงานและตอนค่ำก็ขับกลับเข้ามา
อย่างไรก็ตาม มีหมอปลาและทีมทนายความ รวมทั้งเสี่ยเปีย อาสาตัวเข้ามาช่วยทางคดีให้กับฝั่งของนายณัฐวุฒิ ส่วนตัวมองว่าเป็นการช่วยเหลือในมุมที่คนอาจจะมองว่าตัวของนายณัฐวุฒิควรได้รับความเป็นธรรมในบางเรื่อง หากล่าสุดได้รับการประกันตัวแล้ว กลับมาอยู่ที่บ้านภายในซอยที่เกิด ชาวบ้านก็ยังพร้อมต้อนรับ เพราะที่ผ่านมาตัวของนายณัฐวุฒิก็ไม่เคยยุ่งวุ่นวายหรือสร้างความเดือดร้อน
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เวลาประมาณ 17.58 น. ที่นายณัฐวุฒิเดินกลับเข้ามาภายในซอย หลังจากที่มีการไปก่อเหตุแทง 2 ศพที่กลางซอยแล้ว มือขวาถือมีด 2 เล่ม เดินลักษณะไม่เร่งรีบ ไม่ได้ใส่รองเท้า เดินกลับเข้าไปที่บ้านของตัวเอง และมีรถมอเตอร์ไซค์ของแฟนสาวขับแซงขึ้นมาเพื่อไปรออยู่ที่บ้าน
ทีมข่าวจึงได้รับคลิปเพิ่มเติมจากชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุ บริเวณสี่แยก จุดสุดท้ายที่ตัวของผู้ตาย 2 คน นอนจมกองเลือด และคลิปดังกล่าวจะเห็นวินาทีที่กลุ่มเพื่อนของคนตายที่มาด้วยกัน พยายามเคลื่อนย้ายร่างของนายต้น ขณะนั้นมีเลือดไหล และยังไม่เสียชีวิต แต่พยายามประคองขึ้นรถมอเตอร์ไซค์เพื่อจะนำไปส่งโรงพยาบาล
ด้านนายสุพรรณ (นามสมมติ) ชาวบ้านในที่เกิดเหตุ เปิดใจว่า วันเกิดเหตุตนเองคิดว่าเกิดอุบัติเหตุรถชน จึงพยายามเข้าไปที่จะช่วยเหลือ แต่เมื่อเข้าไปถึงพบว่ามีคนเจ็บ 2 คน มีลักษณะเลือดไหลเต็มตัว แต่ตอนนั้นยังไม่มีใครเสียชีวิต ตนเองได้เข้าไปตรงจุดที่นายต้นนอนอยู่ เจ้าตัวยังร้องขอความช่วยเหลือ "พี่ ช่วยผมด้วยครับ" ตอนนั้นตัวเองก็ได้เรียกให้กลุ่มเพื่อนที่อยู่ด้วยกันพาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์เพื่อจะไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็เป็นจังหวะที่เห็นนายณัฐวุฒิวิ่งเข้ามาพร้อมกับอาวุธมีด ทำให้กลุ่มชาวบ้านต่างก็กระเจิง ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะกลัวโดนลูกหลง
ในตอนนั้น หลังจากที่นายณัฐวุฒิเข้ามาถึงบริเวณสี่แยก ไม่ได้มีการแทงซ้ำหรือทำร้ายร่างกายใคร แต่มีลักษณะแกว่งมีดไปมา และทำท่าเหมือนจะแทงคนเจ็บที่นอนอยู่บนพื้น พร้อมกับหันหน้าไปหานายณัฐพล ซึ่งเป็นคู่กรณีหลัก ตะโกนบอกว่า "มึงเข้ามา มึงเข้ามา ถ้ามึงไม่มากูจะแทง" ซึ่งนายณัฐวุฒิต้องการเรียกให้นายณัฐพลมาเจอ ตอนนั้นนายณัฐพลทิ้งเพื่อนนอนอยู่ที่สี่แยก แต่เจ้าตัวไปหลบอยู่อีกแยกในหมู่บ้าน ก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลาย
ทั้งนี้ ตนเองเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์บริเวณสี่แยกจุดสุดท้าย ไม่ได้เห็นด้วยต่อการกระทำของนายณัฐวุฒิ ที่จะอ้างว่าโดนกลุ่มเพื่อนไปบุกที่หน้าบ้านแล้วออกมาก่อเหตุ เพราะถ้าหากเป็นตนเองก็คงจะเลือกแจ้งตำรวจ โดยไม่ออกมาก่อเหตุแบบนี้ ที่สำคัญจากคลิปวงจรปิดจะเห็นว่ามีการถืออาวุธมีดออกมาพร้อมก่อเหตุ มีการใช้ผ้าพันที่มือก่อนที่จะวิ่งตามกลุ่มวัยรุ่นออกมา ตนเองจึงเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเรียกว่าเป็นการเจตนา ตนเองก็ยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่ามองต่างจากชาวบ้านคนอื่น แม้ว่าบางคนจะเห็นใจฝั่งของนายณัฐวุฒิก็ตาม แต่เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เป็นเจตนาที่จะใช้อาวุธมีด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีคลิปถูกเผยแพร่ออกมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมที่อริมีการรุมทำร้ายนายณัฐวุฒิ ตนเองก็ไม่ได้มองว่าเป็นการป้องกันตัว แต่ถ้ามองในทางกลับกัน จากคลิปที่ปรากฏจะสังเกตว่ามีการล็อกคอเพื่อนของกลุ่มอริ และยังมีอาวุธมีดอยู่ในมือพร้อมที่จะแทงคนอื่นทุกเมื่อ คนที่เป็นเพื่อนกันก็ต้องหาอาวุธที่อยู่ใกล้มือป้องกันและช่วยเหลือเพื่อนให้พ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว ตนเองจึงมองว่าการที่กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมีการใช้สิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวทำร้ายนายณัฐวุฒิ เป็นเพราะต้องการที่จะปกป้องเพื่อนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่น แต่แม้ว่าวันนี้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นแล้ว ตนเองก็ต้องวางใจเป็นกลาง ไม่เข้าข้างใคร แต่พูดด้วยความจริงและสิ่งที่เห็น
ด้านนายรถตู้ (นามสมมติ) ชาวบ้านซึ่งอยู่บริเวณจุดสุดท้ายของสี่แยก ที่พบร่างของ 2 คนนอนอยู่ เปิดเผยว่า ทีแรกที่ตนเองอยู่จุดสุดท้ายที่เห็นพฤติกรรมของนายณัฐวุฒิก่อเหตุกับกลุ่มของอริ จนกระทั่งมีคนถึงกับคุกเข่ายอมขอชีวิตให้กับเพื่อน มองว่าพฤติกรรมเกินกว่าเหตุมาก ไม่คิดว่าจะใช้อาวุธมีดไล่แทงคนอื่น เพียงแค่ถูกบุกมาที่หน้าบ้าน แต่พอตนเองเห็นคลิปที่ถูกเผยแพร่เมื่อคืนนี้ ทำให้ตนเองรู้สึกสงสารและเข้าใจนายณัฐวุฒิมากขึ้น เนื่องจากมีการรุมทำร้าย และยังมีการใช้อาวุธที่อยู่รอบข้างทุบตีทำร้ายจนกระทั่งกลายเป็นเรื่องขป้องกันตัวเอง ทีแรกชาวบ้านไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นคลิปดังกล่าวจึงเข้าใจในตัวของนายณัฐวุฒิ และชาวบ้านในละแวกนี้ก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไป เห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น
และถ้าตามคลิปที่เผยแพร่ออกไปก่อนหน้านี้ ที่มีคนบรรยายหรือพูดทำนองว่านายณัฐวุฒิมีการแทงซ้ำคนเจ็บ ส่วนตัวในฐานะคนที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าในวันดังกล่าวไม่มีการแทงซ้ำ ไม่มีการทำร้ายใครเพิ่มเติม เป็นเพียงแค่การข่มขู่ไม่ให้ฝั่งของคู่กรณีอย่าเข้ามาใกล้ เพราะในตอนนั้นในบรรดา 6 คน มี 1 คน ที่ยังถืออาวุธอยู่ในมือคือไม้กวาดด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดใจหนุ่มฆ่าแก๊งโจ๋ล้อมบ้าน 2 ศพ แค้นโดนต้อนเป็นหมา ลั่น "ไม่ฆ่ามันคนในบ้านก็ตาย" (คลิป)
- ก๊วนโจ๋ล้อมบ้านจี้ "น้องบาส" มาขมา 2 ศพ แฉถูกล็อกคอแทงทั้งที่ไปเป็นหมู่ (คลิป)
- หนุ่มเลือดขึ้นหน้ากะซวกแก๊งโจ๋ล้อมบ้านตาย 2 ศพ อริกราบเท้าครวญเข็ดแล้ว (คลิป)