กรณีวันที่ 13 ต.ค. 64 สน.เพชรเกษม รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ได้ใช้อาวุธมีดสปาต้า ยาว 18 นิ้ว และอาวุธมีดปลายแหลมยาว 15 นิ้ว รวม 2 เล่ม ไล่แทงและฟันกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นที่มารวมตัวกันหาเรื่องบริเวณหน้าบ้านพัก ในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ซอย 39 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. มีผู้เสียชีวิต 2 ราย กระทั่งวันที่ 15 ต.ค. 64 ศาลได้อนุมัติให้ประกันตัวผู้ก่อเหตุ ด้วยหลักทรัพย์ 500,000 บาท
วันที่ 16 ต.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ สน.เพชรเกษม กรุงเทพฯ โดยวันนี้ตำรวจได้เรียกนายพันกร อึ่งโต หรือ เย่อ อายุ 20 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ เข้ามาสอบปากคำที่สถานีตำรวจ ทีมข่าวสังเกตเห็นว่านายพันกรยังมีอาการเจ็บแผลค่อนข้างมาก และเดินไม่ค่อยได้ จึงต้องให้น้าสาวพยุงอยู่ตลอด
นายพันกร อึ่งโต หรือ เย่อ อายุ 20 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ เดินออกมาหลังจากที่ทำการปั๊มลายนิ้วมือ กล่าวเพียงว่า ที่ตำรวจได้เรียกให้เข้ามาสอบปากคำ แต่ยังไม่ขอบิกรายละเอียดว่าเข้ามาพูดคุยเรื่องอะไร ส่วนข้อกล่าวหาทั้ง 6 ข้อที่ทนายความอีกฝ่ายกล่าวถึง ตนก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน และยังไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะตอนนี้เจ็บแผลมาก เมื่อวานนี้ได้เข้ามาสอบปากคำรอบหนึ่งแล้ว เลยไม่ได้พักผ่อน ทำให้แผลอักเสบ และมีเลือดซึมออกมา
ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดม่วง ตรงข้าม สน.เพชรเกษม พบกับเพื่อนของผู้ตาย 2-3 คน ซึ่งกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ศาลา ทีมข่าวพยายามสอบถามว่ามาทำอะไร แต่ทั้งคู่ไม่พร้อมที่จะพูดคุย ตอบแค่ว่า "มานั่งเล่น มารอผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนวันนี้ทางเพื่อน ๆ จะมาติดตามความคืบหน้าคดี ไม่ได้มามอบตัว" จากนั้นทีมข่าวได้พยายามสอบถามเรื่องแก๊งสมเด็จ แต่ทุกคนไม่ตอบร ก่อนจะเดินขึ้นรถจักรยานยนต์ไป
จากนั้น ทีมข่าวได้พูดคุยกับ วัยรุ่นที่อยู่ในพื้นที่วัดม่วง สอบถามว่าแก๊งวัดม่วง กับแก๊งเรืองสอน คือแก๊งเดียวกันไหม แต่วัยรุ่นคนดังกล่าวให้ข้อมูลว่าคนละแก๊งกัน จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรเข้ามา ซึ่งวัยรุ่นคนดังกล่าวได้เปิดลำโพงโทรศัพท์ เสียงจากปลายสาย ได้กล่าวว่า "ให้ออกมาจากตรงนั้น ไม่ต้องนั่งอยู่ตรงนั้น" นอกจากนี้ ทีมข่าวได้สอบถามเพื่อนผู้ตาย ยืนยันว่า ไม่มีใครพูดว่าจะไปบ้านหมอปลา เพราะทุกคนยุ่งกันการจัดงานศพ และติดตามคดี
เวลา 12.30 น. กลุ่มของผู้ตาย ได้แก่ ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสคือ นายพันกร อึ่งโต หรือ เย่อ อายุ 20 ปี รวมถึงนายณัฐพล มากนาม หรือ บาย อายุ 22 ปี, นายปราเมษ สุริยา หรือ บอล อายุ 24 ปี และนายภาสกร ชัยมนตรี อายุ 37 ปี เพื่อนของผู้ตาย ในสภาพโกนผมเพื่อเตรียมบวชให้กับผู้ตาย ได้เดินทางมาให้ปากคำพร้อมญาติพี่น้อง ทุกคนพยายามเดินหนีทีมข่าว และไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น
เวลาประมาณ 13.20 น. ญาติพี่น้องของผู้ได้รับบาดเจ็บพยุงตัวนายพันกร อึ่งโต หรือ เย่อ อายุ 20 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากห้องสอบสวน ก่อนจะนำตัวขึ้นรถเก๋งไป พาไปโรงพยาบาลเพื่อล้างแผล
เวลาประมาณ 13.45 น. ญาติพี่น้องและนายปราเมษ สุริยา หรือ บอล อายุ 24 ปี เพื่อนที่นายณัฐพลโทรหา และชวนผู้ตายกับคนเจ็บไปบุกหน้าบ้านด้วยกัน ได้เดินไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องสอบสวนอย่างรวดเร็ว ทีมข่าวพยายามสอบถามว่า มาสอบปากคำเรื่องอะไร แต่ที่ไม่ได้ตอบคำถาม
เวลาประมาณ 14.10 น. นายภาสกร ชัยมนตรี หรือ นิด อายุ 37 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของผู้ตาย เดินออกมาจากสถานีตำรวจ ทีมข่าวพยายามเดินตามไปสอบถามว่า สอบปากคำเสร็จหรือยัง แต่นายภาสกรไม่ได้ตอบ ก่อนจะวิ่งหนีทีมข่าวไปอย่างรวดเร็ว
เวลาประมาณ 14.15 น. นายณัฐพล มากนาม หรือ บาย อายุ 22 ปี และนายปราเมษ สุริยา หรือ บอล อายุ 24 ปี ได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน และได้ขึ้นจักรยานยนต์ของเพื่อนที่ขับมารอพอดี ก่อนจะขับออกไป ทั้งนี้ ระหว่างที่สอบปากคำ ญาติพี่น้องได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน และบางส่วนได้กล่าวว่า "รอได้ก็รอไป" รวมถึง "มาทำอะไรกันนักหนา"
จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ชุมชนริมคลอง ด้านหลังหมู่บ้านของผู้ก่อเหตุ บริเวณหัวโค้งของถนนก่อนออกจากพื้นที่ เป็นจุดที่ทางเพื่อนของผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์สัญจรผ่าน เพื่อพาผู้ตายไปที่โรงพยาบาล
มีคลิปวิดีโอ วันที่ 13 ต.ค. 64 เวลาประมาณ 17.54 น. ความยาว 0.44 วินาที จับภาพกลุ่มเพื่อนของผู้ตายได้พาผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคนไปโรงพยาบาล โดยนายสมเดช หรือ ต้น ได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายณัฐพล ก่อนที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจะขี่รถออกมา โดยมีนายธิติวุฌินั่งอยู่ตรงกลาง และให้นายภาสกรนั่งประกบหลังไว้
ทีมข่าวได้รับคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด บริเวณบ้านพักที่อยู่ติดกับซอยที่สามารถทะลุไปบริเวณชุมชนริมคลองได้ ซึ่งกล้องวงจรปิดดังกล่าวจับภาพขณะกลุ่มของผู้ตายนำร่างของผู้ตายทั้ง 2 คนขึ้นมาบนรถ เพื่อนำไปส่งโรงพยาบาล