เป็นอีกหนึ่งวันที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว "ประจันตะเสน" และวงการลูกทุ่งหมอลำไทย สำหรับการจากไปของนักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดังอย่าง "พรศักดิ์ ส่องแสง" หรือ นายบุญเสาร์ ประจันตะเสน เจ้าของฉายา "ไอ้หนุ่มแขนซ้ายลายมังกร" ที่เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อค่ำของวันที่ 15 ต.ค.64 ที่รพ.หนองบัวลำภู ก่อนที่ครอบครัวจะนำศพตั้งบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาที่บ้านพักส่วนตัว ต.บ้านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เป็นเวลา 3 คืน
ล่าสุดวันที่ 18 ต.ค.64 เวลา 12.30 น. ภายหลังที่ครอบครัวได้สวดอภิธรรมศพเป็นครั้งสุดท้าย ทางครอบครัวได้เคลื่อนย้ายร่างจากบ้านพักส่วนตัวไปยังบริเวณเมรุวัดวัดป่าศรีสว่าง ต.บ้านขาม จ.หนองบัวลำภู เพื่อจัดพิธีฌาปนกิจศพ ภายหลังที่บำเพ็ญกุศลครบตามกำหนดเป็นระยะเวลา 3 วัน
โดยตลอดระยะเวลาที่ครอบครัวได้เคลื่อนย้ายร่างจากบ้านไปยังวัดประมาณ 700 เมตร จะมีรถนำ 1 คัน ต่อด้วยพระสงฆ์จำนวน 10 รูปนำโยงสายสิญจน์ ก่อนจะเป็นในส่วนครอบครัวและเครือญาติกว่า 30 คนช่วยกันถือสายสิญจน์ที่โยงไปยังโลงศพที่อยู่บนรถอีกคันหนึ่ง ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยรถแห่ที่เปิดเพลง "แม่ของใคร (พระคุณแม่)" ซึ่งเป็นเพลงเมื่อปี 2528
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่มีการเคลื่อนผาพนั้น นางจุฬาวัลย์ ภรรยา และลูก ๆ ต่างอยู่ในความโศกเศร้าเเละร่ำไห้ตลอดเวลา โดยมีลูกคนกลางอย่าง น.ส.วรรณพร เป็นคนถือรูปของคุณพ่อนำขบวน โดยลูกสาวได้ลูบภาพพร้อมพูดลากับรูปภาพตลอดเวลา เมื่อร่างเคลื่อนมาถึงยังบริเวณวัดแล้ว ทางครอบครัวได้เคลื่อนศพวนรอบเมรุ จำนวน 3 รอบ
บรรยากาศภายในศาลาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ตลอดจนพี่น้องผองเพื่อน และมิตรรักแฟนเพลงที่ทยอยเดินทางมาไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยโควิด-19 โดยจะมีเจ้าหน้าที่อสม. จากตำบลบ้านขาม ประมาณ 30 คน คอยอำนวยความสะดวก และตรวจคัดกรองอุณหภูมิ ลงชื่อ และข้อมูลการเดินทาง ขณะที่ด้านหน้าจะมีป้ายบอกมาตรการและขั้นตอนการเข้าร่วมงานว่า ลงทะเบียนก่อนเข้าและออก โดยเเจ้งชื่อ-สกุล สถานที่เดินทางมา พร้อมเบอร์โทร ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากอนามัย และหน้ากากผ้า ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง ขณะที่ในส่วนของคนบันเทิงที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัยนั้น อาทิ แม่นกน้อย อุไรพร เฉลิมพล มาลาคำ และศิลปินท้องถิ่น เป็นต้น
ต่อมาพิธีสงฆ์ จะเริ่มขึ้นในช่วงเวลา 13.00 น. โดยญาติได้ร่วมกันล้างหน้าศพ ซึ่งมีลูกชายคนเล็ก และลูกสาวคนกลางคอยยืนอยู่ข้าง ๆ หลังจากนั้นพระสงฆ์จำนวน 32 รูปร่วมประกอบพิธี ต่อมาในช่วงเวลา 14.10 น. เป็นขั้นตอนการทอดผ้าบังสุกุล จำนวน 50 ผืนแด่พระสงฆ์ โดยมีนางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู และนายสุทิน คลังเเสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมทอดผ้าบังสุกุล ก่อนจะมีการแสดงรำหน้าไฟ ของนางรำจำนวน 4 คน ในบทเพลง "เมื่อฟ้าส่งสการ" โดยเนื้อหาจะเป็นการไว้อาลัย และนำดวงวิญญาณสู่ภพภูมิที่ดี ขณะที่ทำการแสดงอยู่นั้น ลูกชายคนเล็ก และพี่สาวต่างร่ำไห้อีกครั้งด้วยความโศกเศร้า
ต่อจากนั้นเป็นการร้องลำล่องทำนองที่นำโดย "เฉลิมพล มาลาคำ" และศิลปินหมอลำ สาธิต ทองจันทร์ โดยเป็นการลำล่องทำนองสด ๆ ที่ทาง "เฉลิมพล" เพิ่งแต่งขึ้นมา เนื้อหาจะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวการเสียชีวิตหลังแฟนเพลงทราบข่าวต่างพากันใจหาย ถึงการตายของศิลปินคนดัง "พรศักดิ์ ส่องแสง" ผู้เป็นที่รักของครอบครัวและแฟนเพลงที่จะอยู่ในตำนานคนไทยตลอดไป
หลังจากนั้นเวลา 16.50 น. เป็นการกล่าวประวัติผู้วายชนม์และคำไว้อาลัย โดยบางช่วงบางตอนได้เล่าถึงชีวิตส่วนตัวเกี่ยวกับครอบครัว และหน้าที่การงาน "ท่านเป็นคนที่รักและเทิดทูนในความเป็นศิลปินนักร้องลูกทุ่งหมอลำ ตลอดจนยังเป็นคนที่ให้ความเคารพและนับถือครูเพลงทุกท่านที่ได้ถ่ายทอดความรู้และวิชางานเพลง" ก่อนจะเริ่มพิธีวางดอกไม้จันทน์และฌาปนกิจศพในช่วง 16.00 น. เป็นวินาที่ที่ค่อนข้างบีบหัวใจของคนในครอบครัว ทำให้ผู้เป็นภรรยา และลูก ๆ ต่างร้องไห้ออกมาด้วยความรักและอาลัย ลูกคนเล็กได้กอดและประคองแม่ไว้
น.ส.วรรณพร ลูกคนกลาง กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นค่อนข้างกะทันหัน แต่ก็ยังเห็นเพื่อน ๆ ศิลปิน ตลอดจนแฟนเพลงของพ่อที่ส่งกำลังใจมาให้ ครอบครัวก็ไม่รู้จะขอบคุณหรือหาคำไหนมาพูดตอบกลับความรู้สึกดี ๆ ที่ทุกคนส่งมาให้ ตนยืนยันว่าตำนานของพ่อยังคงจะอยู่ตลอดไป ไม่อยากให้ใช้คำว่าปิดตำนาน "ไอ้หนุ่มเเขนซ้ายลายมังกร พรศักดิ์ ส่องแสง" ส่วนตัวภูมิใจมาก ๆ กับสิ่งที่พ่อสร้างไว้ ไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาบรรยายว่าภูมิใจแค่ไหนที่ได้เกิดมาเป็นลูก ตนเชื่อว่าพ่อรับรู้ได้ว่าเขาคือศูนย์รวมจิตใจของคนในครอบครัว จึงอยากให้พ่อไปดี ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร คนที่อยู่ข้างหลังพร้อมจะดูแลแม่ต่อจากพ่อเอง
ส่วนพิธีหลังจากนี้ ก็จะเป็นการนำกระดูกหรืออัฐิไปทำบุญต่อที่บ้าน และจะมีการตักบาตรต่อในอีกวันโดยตามธรรมเนียมจะไม่มีการลอยอังคาร ตนยืนยันว่าในเรื่องของการเปิดรับบริจาค หรือในส่วนของเเฟนเพลงที่ตั้งใจจะร่วมส่งเงินมาทำบุญ ทางญาติขอขอบคุณทุกท่าน และอยากให้คนที่ตั้งใจจะร่วมทำบุญ นำเงินไปร่วมทำบุญตามศาสนสถานที่ตั้งใจจะดีกว่า เนื่องจากครอบครัวไม่สะดวกใจที่จะรับเป็นเงิน
ขณะที่นางจุฬาวัลย์ ภรรยา เปิดใจสั้น ๆ ว่า ตนก็อยากจะของคุณในส่วนเพื่อน ๆ ศิลปินนักร้องที่ต่างเดินทางมาแสดงความไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
นายพีรศักดิ์ ประจันตะเสน ลูกชายคนเล็ก กล่าวยอมรับว่า เส้นทางดนตรีเป็นสิ่งที่ตนชอบ และได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้เรารักและชอบไปโดยปริยาย ตนยืนยันว่าจะสืบสานงานเพลงลูกทุ่งอีสานต่อไป พร้อมจะเดินตามรอยพ่อ สิ่งหนึ่งนอกเหนือจากงานเพลงที่พ่อปลูกฝั่งมาตั้งแต่เด็ก ๆ คือการใช้ขีวิตที่พ่อจะย้ำเสมอว่า "วันนี้เราอยู่อย่างไร วันหน้าหากมีชื่อเสียงหรือโด่งดัง เราก็ต้องคงไว้เหมือนเดิม อยู่อย่างไรก็ต้องอยู่อย่างนั้น อย่าหลงในชื่อเสียงหรือเงินทอง"
ขณะที่ "แม่นกน้อย อุไรพร" เจ้าของคณะเสียงอิสาน เดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย กล่าวว่า ตนยอมรับว่าส่วนตัวค่อนข้างช็อก ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ความผูกพันของตนกับพรศักดิ์ เหมือนพี่น้องกัน เพราะในอดีตที่เราทั้งคู่เคยร่วมงานกัน บุกเบิกวงดนตรีเสียงอิสานมาตั้งแต่ปี 2522 หรือประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ก่อนที่พรศักดิ์ จะแยกตัวและโด่งดังในเส้นทางศิลปินนักร้องลูกทุ่งอิสาน จนเขาโด่งดังคนทั่วประเทศและต่างประเทศต่างยอมรับ
ส่วนความประทับใจในตัวพรศักดิ์ คือ เขาเป็นคนดี มีความกตัญญู ทุกช่วงชีวิตที่ได้ร่วมงานกัน ไม่อาจจะอธิบายเป็นคำพูดได้ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเข้าปรึกษาเรื่องปัญหาสุขภาพ แต่ในช่วงที่เจอกัน เวลาถ่ายภาพยนต์ หรือร่วมงานทีวี ตนก็จะเตือนและคอยบอกว่าให้ดูแลเรื่องสุขภาพเสมอ
เช่นเดียวกับ "เฉลิมพล มาลาคำ" ลูกทุ่งหมอลำ ที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัยด้วย กล่าวให้ฟังว่า เขาถือเป็นนักร้องสายเลือดอีสานที่เป็นต้นแบบให้กับเหล่าน้อง ๆ ศิลปินนักร้องลูกทุ่งหลายคนได้เดินตามรอย ทั้งเรื่องของนิสัย และเอกลักษณ์ในการร้องเพลง ตนถือเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทกับพรศักดิ์ มานานกว่า 30 ปี มีโอกาสร่วมงานกันหลายครั้ง จนได้รับยกว่าเป็นคู่หูเพลงลูกทุ่งหมอลำ ขึ้นเวทีที่ไหนต้องมีประชันเสียงกันตลอด ความประทับใจนอกเหนือจากงานเพลง คือ เรื่องของการใช้ชีวิตของเขาที่ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่เรื่องมาก ติดดิน ไม่ลืมตัว อยู่อย่างไรเขาก็อยู่อย่างนั้น
"เขาคือตำนานศิลปินที่ยิ่งใหญ่ เขาได้สร้างโอกาสให้คนต่างชาติได้รับรู้ถึงความเป็นหมอลำ เขาคือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ เขายังอยู่ในใจเราเสมอ วันที่ 21 ต.ค.64 พี่และพรศักดิ์ เตรีนมจะเปิดไลฟ์คอนเสิร์ตร่วมกัน แต่คงไม่ทันเพราะเขาด่วนจากไปก่อน พี่อยากจะบอกถึงเพื่อนรักว่า ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปอยู่บนสรวงสวรรค์ ให้พบแต่ความสุข" เฉลิมพล มาลาคำ กล่าว
น.ส.ร้อยเอ็ด พรมมูล อายุ 50 ปี และนายสุริยา ดวงพิมาย อายุ 50 ปี ทั้งคู่เป็นแฟนคลับของ "พรศักดิ์ ส่องแสง" มานานกว่า 30 ปี ซึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด ใช้เวลาเดินทางนานกว่า 5 ชั่วโมง เพราะตั้งใจจะมาส่งศิลปินในดวงใจเป็นครั้งสุดท้าย
น.ส.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนเดินทางไปดูคอนเสิร์ตตลอด เรียกว่าชื่นชอบทุกเพลงถึงขั้นร้องได้เกือบทุกเพลง ชอบในเอกลักษณ์ความซื่อ การร้องเพลงสนุก ครั้งสุดท้ายเพิ่งคุยกันได้ไม่นานว่าต้นปี 65 ตั้งใจจะจ้างไปร้องเพลงในงานบวชลูกชาย แต่ก็ไม่ทัน สุดท้ายก็อยากให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี และยังเป็นศิลปินในใจตลอดไป ก่อนจะร้องเพลง "สาวจันทร์กั้งโกบ" โชว์ให้กับทีมข่าวได้ฟัง