เก้า -วี เปิดมุมความรักแบบลึกซึ้งครั้งแรก!  หลั่งน้ำตาก้าวข้ามปมคลิปถูกบูลลี่

คู่รักสายติสต์ เก้า จิรายุ และ วี วิโอเลต ที่ควงกันมาเปิดใจแบบลึกซึ้งครั้งแรก จะได้เห็นมุมลับอีกมิติจากเพื่อนสู่แฟนของทั้งคู่ซึ่งไม่ค่อยไปออกรายการที่ไหนมาก่อน งานนี้มีหลั่งน้ำตาเมื่อ วี วิโอเลต ก้าวข้ามผ่านปมในใจคลิปในอดีตที่เคยถูกบูลลี่ 

อยากรู้ว่าทั้งคู่มาเจอกันได้ยังไง ?
เก้า : ทำงานด้วยกัน ตอนแรกก็เจอกันในคอนเสิร์ตก่อนครับพี่
วี : แต่ว่าตอนนั้นกำลังจะถ่าย O-negative ก็เลยทักว่าเดี๋ยวเราเจอกันที่กอง แล้วก็มาเป็นเพื่อนกันจริงๆ ตอนถ่าย

เป็นเพื่อนกันมานานอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าเพื่อนคนนี้ก็น่ารักดีนะ ?
เก้า : เราก็รู้สึกว่าพอเป็นเพื่อนกันแล้วมันก็สนิทใจ คุยกันได้แบบสบายๆ ไม่ต้องมานั่งแอคใส่กัน มีช่วงโมเม้นท์ที่เราได้ไปเที่ยวกันข้างนอก แล้วเขาก็มีความดึงดูดเราในความน่ารักด้วย ก็เริ่ม เอ๊ะ! มันจะดีไหมนะถ้าเราคุยกันมากไปกว่านั่นครับ

วี เคยบอกว่าไม่ได้เริ่มจีบแต่จะพาตัวเองไปอยู่ในที่ๆ เอื้อให้เขาจีบเราได้ หมายความว่าไงครับ ?
เก้า : ผมขอขัดนิดนึงนะครับ มันก็คือวิธีจีบแบบหนึ่งครับ
วี : ไม่ใช่ไม่ได้จีบ มันคือแบบประมาณเสนอตัวจะจีบไม่ติด จะเอาไม่เอามาวางให้แล้วเลือกไม่เลือก มันคือแบบนั้น อย่างเช่นสมมุติแบบว่าเขาจะไปดูหนัง เห้ย! มีเพื่อนไปยังเดี๋ยวไปเป็นเพื่อน ก็ไปในฐานะเพื่อนแบบไปแหลมๆเรื่อยๆ ถ้ามันเกินเพื่อนเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้เองแหล่ะ

นานไหมที่มันยังงงๆ กันแบบนี้ ?
เก้า : นานครับ นานจนผมมารู้ที่หลังว่าเขาเกือบที่จะไม่ได้สนใจเราแล้ว

วี : จริงๆ มันมีเหตุการณ์หนึ่งที่เรากะจะชวนเธอไปเดทแบบชัดๆ เลย ตอนนั้นจะไปโมโจส์บาร์เราไม่มีเพื่อนไป ไปเป็นเพื่อนเราหน่อย แล้วเขาก็บอกว่างั้นเราพาเพื่อนไปได้ไหม เราก็เลย อ๋อ!ได้ แล้วเราก็เลยวางสายเพื่อไปชวนก้อยกับดิวว่ามาเดี๋ยวนี้เป็นแบ็คอัพให้หน่อยไม่อยากไปคนเดียว

เก้า : ไม่ใช่เธอบอกว่าจะไป โมโจส์บาร์ เราก็ถามว่ามีใครไปบ้าง แล้วเธอบอกว่าถ้าไม่มีใครมาอาจจะพาพ่อไป ซึ่งผมก็จะไปแล้วนั่งคุยกับพ่องั้นเหรอ ผมก็เลยเดี๋ยวชวนเพื่อนไปด้วย

สุดท้ายแล้วใครตัดสินใจขอเป็นแฟน ?
วี : คือเขาถามว่าสรุปว่าเราเป็นอะไรกัน แล้วหนูก็ตอบว่า ต้องเป็นแล้วสิ วีมัดมือชกไปเลย ไม่ได้มีจังหวะที่ขอเป็นแฟน

ตั้งแต่คบกันมาวีมองเก้าเป็นแบบไหน ?
วี : เก้าเป็นคนหน้าตาน่ารักแต่ชอบทำตัวไม่หล่อ ทำตัวกวนๆ ตลกๆ

วีเป็นคนที่แคร์เรื่องความสวยงามไหมเก้า ?
เก้า : เขาก็เป็นคนที่รักสวยรักงามแหล่ะครับ แต่งตัวดูแลตัวเอง แต่วีไม่ได้แบบโดนแดดไม่ได้หรือกลัวผิวเสีย ถ้าเกิดเขาจะลุยก็ลุยมีโหมดที่หลากหลาย

ตอนคบกันช่วงแรกๆ มีใครที่เป็นเพื่อนที่ให้คำปรึกษาเรา ?
วี : ก้อย อรัชพร ค่ะเป็นตัวกลางที่เชื่อมเราทั้ง 2 คน ก้อยคือเป็นแม่สื่อ
เก้า : มีอยู่วันนึงที่เราก็ถามก้อยเลย เขาก็ใบ้ให้ผมจนผมรู้

ความที่เราเป็นเพื่อนกันมาก่อนมันดียังไง ?
วี : มันรู้จักกันโดยรู้ว่าคนนี้เป็นแบบนี้ ไม่มีกั๊ก เลยทำให้รับกันได้ง่ายขึ้น คุยกันรู้เรื่องเพราะความเป็นเพื่อน
เก้า : ความเป็นเพื่อนเลยทำให้เราพูดกันตรงๆ กล้าพูด

ทั้งคู่มีการปรับเข้าหากันยังไงบ้าง
เก้า : ผมว่ามันก็ได้เรียนรู้ในการเปิดใจกับอะไรใหม่ๆ
วี : ก็ปรับนิดหน่อยไม่ถึงกับปรับจนไม่เป็นตัวเองค่ะ

เห็นวีเล่าให้ฟังว่ามีบางมุมที่อยากให้เก้ามุ้งมิ้งบ้าง แล้วเก้ายอมทำให้ไหม?
วี : ทำค่ะ เวลาแบบนั่งอยู่ในรถวันนั้นอยากเป็นเจ้าหญิง บอกว่าจะไม่เปิดประตูเอง เปิดประตูให้หน่อย เขาก็เดินไปเปิดให้อะไรแบบนี้ค่ะ

เก้า : ทำครับ อย่างวีเขาจะทัวร์คอนเสิร์ตบ่อยไปสนามบินตลอด ก็จะมีบางวันที่ผมจะไปส่งเขาหรือไปรับ เขาก็จะมีกระเป๋าผมก็จะเป็นคนที่หยิบกระเป๋าเปิดประตูใส่ให้ก็ทำปกติอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาชอบ ตอนหลังก็หนักข้อขึ้นนั่งอยู่ในรถเฉยๆ ก็ให้เปิดประตู ก็ไม่ได้ว่าอะไรนิดๆหน่อยๆ ก็น่ารักดี อะไรเล็กน้อยมันก็ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจนะครับ เขาก็จะแบบหลงเรา

ในวันนี้มีอยู่ 1 เรื่องที่อยู่ในใจของ วี ที่ไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อนและอยากที่จะเปิดใจแชร์ให้ทุกคนได้ฟัง
วี : คือวีเคยเป็นไวรัลตอนเด็กๆ เรื่องนี้เก็บไว้มานานแล้ว เป็นคลิปที่วีเต้นเพลง ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรตอนนั้นอายุ 14 ค่ะ เป็นเรื่องที่อายมากเพราะว่า พอมันไวรัลแล้วเขาไปตั้งชื่อคลิปว่า "เด็กมันอ่อย" แล้วก็กลายเป็นว่าคอมเม้นท์โหดมาก เพราะชื่อคลิปมันล่อเป้า แล้วก็คือจะบูลลี่ พูดไปทางเพศเยอะมาก

ตอนนั้นเราอายุ 14 เองแล้วเราก็เฮิร์ทมาก ตอนเข้ามหาวิทยาลัยก็คิดว่ามันหายไปแล้วสรุปมันมีคนไปเจอก็กลายเป็นเรื่องตลกอีก แต่มันก็เป็นแผลเรานิดนึง จนล่าสุดไม่กี่อาทิตย์ที่แล้วเพื่อนมันหลุดออกมา เก้าก็เลยรู้ก็ตลกกลายเป็นเรื่องโจ๊ก

คลิปในวันนั้นมันส่งผลยังไงกับเด็กหญิงวีบ้าง ?
วี : ตอนนั้นคิดแบบเด็กๆ เลยนะว่าโตไปฉันจะเข้าวงการ ฉันจะไปแก้ชื่อเสียง ฉันจะไม่ปล่อยให้คนมาพูดแบบนี้กับฉัน เขาพูดแบบประมาณว่าต้องโดนแล้วแน่ๆ หรืออะไรแบบนี้ เป็นคำพูดที่รุนแรง

เก้า : ทั้งๆ ในคลิปมันไม่มีอะไรน่าเกลียดเลยนะ เขาก็เต้นน่ารักตามวัยปกติ
วี : ซึ่งทำให้เราเกลียดการโดน Just มากๆ เลยรู้สึกว่าเหมือนเราไม่เปิดให้คนรู้จักเราเยอะขนาดนั้น เพราะว่าเราไม่อยากให้เขารู้แล้วมา Just ได้

รู้สีกว่าพลังงานของวีเปลี่ยนไป ความเปลี่ยนแปลงของวีคือมั่นใจมากในชีวิต รู้สึกพอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น จนกระทั่งวันนี้ วี ก็เลยทำบางอย่างที่จะปลดล็อกเรื่องนี้ จะได้ไม่ต้องมานั่งคิดเรื่องนี้อีกต่อไป เก้า รู้ไหมเขาทำอะไร ?
เก้า : ไม่รู้ครับ
มาดูคลิปเวอร์ชั่น 2021 ของ Chatsanova (เปิดคลิปวีเต้น)
เก้า : เธอยังเก็บชุดนี้ไว้ไหม

วี : ที่วันนี้ วี เลือกทำสิ่งนี้ เพราะว่ารีแอคชั่นของเธอวันนั้น ทำให้เรารู้ว่าเธอก็ดูรับได้ ในสิ่งที่เราไม่เปิด
เก้า : เรารับได้อยู่แล้วเพราะตอนอยู่ ม.ต้น เราแย่กว่านี้

วี : ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งนี้ อุ้ย! จะร้องไห้ จะได้ไม่ต้องพยายามไปฝังให้มันหายไป ทำให้มันเป็นเรื่องตลกไปเลย จะได้จบๆ ให้มันเป็นส่วนหนึ่งของเราไป จะก้าวข้ามและมองให้มันเป็นเรื่องตลกไปเลย


ขอชื่นชมนะครับ วันนี้วีตัดสินใจอยู่กับมันให้ได้และเผชิญกับมัน ความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
วี : รู้สึกแปลกๆ รู้สึกตื่นเต้น แต่ว่าโอเคแสดงว่าคลิปนั้นมันจะถูกขุดกลับขึ้นมาคนจะเห็นสิ่งนั้น แต่สุดท้ายเรายืดอกและยอมรับสิ่งนั้น ขอบคุณเก้าด้วยที่เธอรับสิ่งนี้ของเราได้ ในสิ่งที่เราไม่ชอบ ทำให้เรารู้สึกว่าถึงเวลาก้าวข้ามแล้ว
เก้า : สู้ ๆ นะเว้ย
วี : เออ ขอบใจนะมึง (หัวเราะ)

 ถึงวันนี้อยากจะบอกอะไรกับ วี วิโอเลต
เก้า : ตั้งแต่เรามีความสัมพันธ์แบบว่าไปอีกขั้นหนึ่ง เราก็รู้จักทั้งเขา และก็รู้จักตัวเราเองด้วย รู้จักตัวเองมากขึ้นผ่านการที่เรามีใครสักคนหนึ่งซึ่งผมก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ดีครับ รู้สึกว่า วี เขามีข้อดีหลายอย่าง ที่เอามาใช้ในชีวิตของเราได้ วี ค่อนข้างสู้ในสิ่งที่เขาต้องการในเรื่องของอาชีพ วี เขาจะบอกผมเสมอว่า แพชชั่นมันสำคัญมากนะ เราอยากเห็นเธอไปทั้งตัวไปทั้งใจทุ่มเทกับอะไรสักอย่างจริงๆ

เขาจะรู้ว่าผมโอเคอยู่ได้แล้วล่ะรับผิดชอบครอบครัวได้ แต่มันไปได้อีก เหมือนเขาก็มองเห็นและเชื่อว่าเราทำได้ แล้วผมก็รู้สึกว่าสิ่งนี้มันทำให้ผลักดันเราไปข้างหน้าเหมือนกัน ก็ขอบคุณ มีอะไรต้องเรียนรู้ ทะเลาะกันอีกเยอะ ก็หวังว่าเราจะผ่านมันไปด้วยดีนะครับ

วี มีอะไรจะบอกอะไรกับ เก้า จิรายุ ไหมครับ
วี : ดีใจที่ได้มีเก้ามาอยู่เป็นเพื่อน เวลาเรามีอะไรเราก็คุยได้เรื่อยๆ รู้สึกดีที่มีคนอยู่ข้างๆ ในวันที่แย่หรือวันที่ดีค่ะ