จากกรณี เพจเจ๊ม้อยv plus ได้เผยแพร่คลิปที่มีตำรวจนายหนึ่งกับหนุ่มเสื้อดำกำลังยื้อกันไปกันมาบนถนน ในมือตำรวจถือกระบองแต่ชายเสื้อดำถือโทรศัพท์มือถือ พยายามจะเดินถอยหลัง ซึ่งในคลิปจะได้ยินเสียงตำรวจตอนชี้หน้าชายเสื้อดำพูดขึ้นมาว่า ทำไมจะจับไม่ได้คนเมา ส่วนชายหนุ่มเสื้อดำก็บอกว่าอย่าพี่ผมไม่ได้เมา ส่วนอีกคลิปจะอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน จะเห็นว่าตำรวจได้เตะตัดขาชายเสื้อดำจนล้ม แล้วก็ลงไปปล้ำกันที่พื้นอย่างคลิปที่ปรากฏ
ล่าสุด เช้าวันที่ 23 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ตามพิกัดที่ทางเพจแจ้งไว้ บริเวณถนน 28 หมู่ที่ 2 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง นายทองหยด ภูมิจิตต์ อายุ 42 ปี ชายเสื้อดำที่อยู่ในคลิป พาทีมข่าวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำท่าทางให้ดูว่าวันเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนข้ามไปอีกฝั่งของถนน
นายทองหยด ภูมิจิตต์ เปิดใจว่า วันเกิดเหตุก็คือช่วงเที่ยงของวันที่ 18 ต.ค. 64 ตนเองขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากหอพัก ที่อยู่ตรงจุดเกิดเหตุไปกดเงินที่แยกไฟแดง จังหวะกดเงินเสร็จก็ขี่รถเพื่อจะกลับหอพักตามปกติ แต่ดันมีพี่ตำรวจขี่รถตามประกบคู่มา แล้วก็แซงไปดักหน้า ตนเองก็จอดคุยว่ามีปัญหาอะไร ตนเองทำอะไรผิด พี่ตำรวจก็ถือกระบองลงมาแล้วก็บอกว่า ขอตรวจรถหน่อยว่ามีอะไรผิดกฎหมายหรือไม่ ตนเองก็บอกว่าตรวจเลย ผมไม่มีอะไรผิดกฎหมาย
จากนั้นตำรวจก็ตรวจพบว่า พ.ร.บ.รถของตนขาด ตนก็ยอมรับว่าขาดจริง แต่ตำรวจจะยึดรถไปโรงพักอย่างเดียว ตอนนั้นตนก็ต่อรองว่าไม่ต้องยึดรถและออกใบสั่งแทนได้หรือไม่ จนมีปากเสียงกันรุนแรง ตนก็เลยขอดูบัตรว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ตำรวจก็โมโหขึ้นมาทันที แล้วก็ถือกระบองไล่ตีตนเองไปที่กลางถนน ตอนนั้นตำรวจพูดกล่าวหาว่าตนเองเมา ตนก็เถียงไปว่าไม่ได้เมา
หลังจากนั้นก็ยื้อกันไปมาจนตนเองต้องวิ่งข้ามมาอีกฝั่งของถนน ตำรวจก็วิ่งมาเตะตัดขาจนล้มลงหน้าฟาดกับพื้น สุดท้ายตนเองก็พยายามดิ้นจนหลุด แล้วก็วิ่งกลับไปอีกฝั่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วที่ สภ.นิคมพัฒนา เพื่อจะเอาผิดที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ
นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเห็นเป็นมุมสูงที่มีการยื้อกันระหว่าง ผู้เสียหายกับตำรวจยื้อกันไปกันมาจนรถติด แล้วก็วิ่งข้ามไปอีกฝั่งของถนน ส่วนสิ่งของที่เสียหาย มีโทรศัพท์มือถือหน้าจอแตก บัตรพนักงานกับสร้อยคอที่ห้อยพระขาด พระหายในที่เกิดเหตุ 2 องค์ นาฬิกาขาด
ด้านนายทิวา ปัดธุลี อายุ 30 ปี เจ้าของร้านขายของชำที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนเองนั่งขายของอยู่ในร้าน เห็นชายเสื้อดำวิ่งข้ามถนนมาจากฝั่งตรงข้าม แล้วตำรวจก็วิ่งตามมา จนมาล้มปล้ำกันที่หน้าร้าน ตอนนั้นตกใจมากไม่รู้ว่าเขาทะเลาะอะไรกันมา เดินออกไปดูก็เห็นชายเสื้อดำเลือดโชกที่หน้า จากนั้นก็มีวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปห้ามจนแยกกันได้ จับใจความได้ว่าเขามีปัญหากันเรื่องรถ จนมีตำรวจนำรถกระบะมายกรถขึ้นไป ส่วนตัวชายเสื้อดำก็ยืนอยู่ไม่ได้หนีไปไหน
ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ จุดตรงนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะตำรวจไม่ค่อยมาวนเวียนแถวนี้ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากจะให้คุยกันดี ๆ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่น่าจะลงไม้ลงมือกันจนถึงกับเลือดตกยางออก
ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.นิคมพัฒนา ได้ข้อมูลมาว่าตำรวจที่อยู่ในคลิปคือดาบตำรวจสิทธิชัย สาระอาวาส เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของผู้บังคับบัญชา และทางผู้บังคับบัญชายังไม่สามารถให้ดาบตำรวจสิทธิชัยให้สัมภาษณ์ได้
ดาบตำรวจสิทธิชัย ให้ข้อมูลว่า ตอนเกิดเหตุยืนตรวจอยู่บริเวณหน้าร้านทอง จังหวะนั้นหันไปเห็นนายทองหยดขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว โดยท่าทางหมอบติดกับตัวรถ ดาบตำรวจสิทธิชัยก็เลยขับรถตามไปดูเพื่อจะว่ากล่าวตักเตือน และพอไปถึงก็ได้มีการขอตรวจค้นตามปกติ และก็ถามว่าทำไมถึงขี่รถซิ่งขนาดนี้ ตรวจไปตรวจมาก็พบว่ารถของนายทองหยดไม่มีเอกสารติดอยู่ที่รถ จึงให้โอกาสนายทองหยดเดินไปเอาเอกสารที่หอพัก
จากนั้น จึงเดินไปหยิบกระบองที่รถมาถือไว้ที่มือ เพราะไม่รู้ว่านายทองหยด เข้าไปที่หอพักจะหยิบอะไรติดมือมานอกจากเอกสารหรือไม่ พอนายทองหยดเอาเอกสารมาให้ดู ก็พบว่ารถของนายทองหยด พ.ร.บ.ขาด ติดต่อกัน 2 เดือน จึงขอตรวจยึดรถ แต่นายทองหยดก็เอาแต่โวยวาย มีอาการคล้ายคนเมา นายทองหยอดดันย้อนถามกลับมาว่าตัวเองเป็นตำรวจจริงหรือไม่ แล้วก็ขอดูบัตร ยอมรับว่าโมโหจริง เพราะตัวเองจะเป็นตำรวจปลอมได้อย่างไร ในเมื่อแต่งเครื่องแบบขับรถมีตราโล่ชัดเจน
หลังจากนั้น นายทองหยดก็ไม่ยอมหยุด วิ่งไปยังฝั่งตรงข้าม แล้วที่ตนเตะตัดขาไปก็เพราะว่านายทองหยอดด่าว่าตำรวจเหี้- จึงเป็นภาพคลิปที่ปรากฏ ส่วนเรื่องกระบองที่ถือยืนยันว่าไม่ได้ตีสักครั้ง แล้วบาดแผลที่เกิดก็เป็นบาดแผลจากการที่ยื้อยุดฉุดกระชากกัน ตอนนี้รวบรวมหลักฐานส่งให้ผู้บังคับบัญชาทั้งหมดแล้ว และจะมีการแถลงชี้แจงในวันจันทร์ที่ 25 ต.ค. 64