หนุ่มใต้โวยก๊วนอาสาบุกบ้านยัดยา ชาวบ้านฮือล้อม พยานเห็นจริงย่องซุกของกลาง (คลิป)

จากกรณีมีผู้ร้องเรียนมายังอมรินทร์ทีวี เป็นเหตุการณ์ของนายจิรศักดิ์ อินณรงค์ คนพื้นที่ ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ถูกอาสาตำรวจบุกเข้าจับกุมโดยไม่มีหมายค้น หรือ หมายจับ ซ้ำยังรุมทำร้ายร่างกาย หลังมีชาวบ้านตาดีเห็นอาสาตำรวจ โยนของกลางอ้างเป็นยาเสพติดของเจ้าของบ้าน จึงร้องเรียนมายังทีมข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม

วันที่ 23 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นลักษณะบ้านชั้นเดียว บนพื้นที่ประมาณ 2 งาน ติดถนนหมู่บ้าน จุดที่นายจิรศักดิ์ถูกอาสาตำรวจทำร้ายร่างกายเป็นห้องนอนท้ายบ้าน ทีมข่าว พบร่อยกระจกหน้าต่างห้องนอนแตก และมีร่องรอยการงัดประตูจากทางด้านข้างหลังบ้าน

นายจิรศักดิ์ อินณรงค์ อายุ 38 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าย้อนว่าวันที่ 19 ต.ค.64 เวลาประมาณ 16.45 น. ขณะนั้นตนกำลังนั่งให้ภรรยาตัดเล็บให้อยู่ในห้องนอน มีอาสาตำรวจชาย 1 คน ทุบกระจกหน้าต่างห้องนอน แล้วปีนเข้ามาทางหน้าต่าง

จากนั้นก็มีอาสาตำรวจชายอีก 4 คน พังประตูเข้ามาในห้องนอน ในขณะที่ภรรยาของตนใส่เสื้อและสวมแค่กางกางชั้นใน จึงบอกให้ออกไปก่อน แต่อาสาก็ไม่สนใจ เข้ามาจับตนใส่กุญแจมือ โดยที่ไม่อธิบายอะไรเลย ซึ่งตนขัดขืนจึงถูกอาสาทั้ง 4 คนรุมกระทืบ ทั้งเตะและต่อยตามร่างกาย

ขณะนั้นภรรยาตนจะเข้ามาช่วยก็ถูกอาสาคนที่ปืนหน้าต่างเข้ามา ล็อกตัวออกไป ซึ่งภรรยาเปิดเผยในภายหลังว่าถูกอาสาต่อยที่ศีรษะ 1 ครั้ง จากนั้นก็ลากตัวตนออกไปหน้าบ้าน โดยพ่อของคนก็เจรจากับอาสาตำรวจว่าจับเรื่องยาเสพติด จากนั้นก็พาไปดูจุดที่กระจกแตก ซึ่งพบซองสีน้ำตาล ด้านในเป็นยาเสพติดแล้วบอกว่าตนเป็นคนโยนทิ้งออกมา ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ของตน

ตนยอมรับว่าเคยทำผิดกฎหมาย แต่เป็นเรื่องคดีพยายามฆ่า จากการป้องกันตัวเอง คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณา ยืนยันไม่เคยเกี่ยวข้องยาเสพติด ด้านภรรยาก็ไม่เคยมีคดีความอะไร ก่อนหน้านี้ช่วงปี 2563 ตนก็เคยถูกอาสาตำรวจกลุ่มนี้บุกค้นบ้านแล้ว 1 ครั้ง แต่ตนไม่ได้อยู่บ้าน และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ล่าสุด เข้าแจ้งความพร้อมเตรียมทนายดำเนินคดีกับกลุ่มอาสาตำรวจทั้ง 7 คน เพราะทำเกินกว่าเหตุมาก ตนยินดีจะให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ก็ควรมาแบบถูกกฎหมาย ไม่ใช่มาหากินด้วยการยัดยาแบบนี้ ยืนยันดำเนินคดีสูงสุด

นายประจวบ สุกประจันทร์ อายุ 72 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า ตนเห็นอาสาตำรวจมา 7 คน รถเก๋ง 2 คัน 2 คนยืนอยู่หน้าบ้าน อีก 5 คนบุกเข้าไปในบ้านผู้บาดเจ็บ ตนคุ้นหน้าคุ้นตาบางคน เพราะเคยเห็นเข้ามาแถวหมู่บ้าน แต่ไม่ได้รู้จักส่วนตัว พอมีการลากตัวนายจิรศักดิ์ออกมาจากบ้าน พร้อมใส่กุญแจมือ ก็มีการยืนเจรจากับพ่อผู้บาดเจ็บ ในขณะนั้นมีอาสาตำรวจคนหนึ่งเดินไปที่รถเก๋ง เพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากรถ แล้วอาศัยช่วงชุลมุนเดินอ้อมมาข้างบ้าน ล้วงซองบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วนั่งยอง ๆ ตรงกระจกหน้าที่แตก แล้วไปพาตัวนายจิรศักดิ์ผู้บาดเจ็บมาดู อ้างว่านายจิรศักดิ์เป็นคนโยนทิ้งออกมา ซึ่งตนเห็นกับตาว่าไม่ใช่ของผู้บาดเจ็บ

ตนมองว่าอาสาตำรวจกลุ่มนี้หากินในเครื่องแบบกับประชาชนตาดำ ๆ และเข้าไปทำร้ายร่างกายโดยไม่มีหมายค้นหรือหมายจับ สิ่งที่เขาทำคงคิดว่าไม่มีใครเห็น แต่ตนบังเอิญเห็น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการเอาผิด และเอาอาสาตำรวจชุดนี้ออกให้หมด

ด้าน ร.ต.อ.พุฒตาล เปลี่ยนเภท รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าศาลา ให้ข้อมูลว่า ได้รับการแจ้งร้องทุกข์จากผู้เสียหายแล้ว ซึ่งทางด้านทนายของผู้เสียหาย แจ้งกลับในข้อหาบุกรุกเคหะสถานที่ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ, กระทำการทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์, ทำร้ายร่างกายผู้อื่น, ทำให้ได้รับโทษทางอาญาด้วยการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งไม่ชอบ

ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยปกติแล้วการบุกจับ หรือค้นบ้าน ถ้าเป็นในส่วนของปราบปรามยาเสพติด ต้องมีตำรวจตัวจริงที่มีใบอนุญาตเข้าตรวจค้นด้วย ถ้าไม่มีคำสั่ง หรือไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ก็ไม่มีสิทธิ์กระทำการนอกเหนือหน้าที่ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย