สธ. ขอประชาชน อย่าตื่นตระหนักปมพบโควิดกลายพันธ์ุ ย้ำโปร่งใส ไม่มีการปกปิดข้อมูล ยืนยันความพร้อม เปิดประเทศ เล็งดึงเพื่อนบ้านชายแดนไทย เที่ยวแบบไป-กลับ 1 วัน
วันนี้ (26 ต.ค.2564) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้การเฝ้าระวังสายพันธุ์และกลายพันธุ์โควิด-19 "เดลตาพลัส" และ "อัลฟาพลัส" ว่า ขอประชาชนคนไทยอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ทางกระทรวงสาธารณสุขและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ติดตามเฝ้าระวังและมีการชี้แจงพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว มีการติดตามเก็บตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ ยืนยันมีหลักเกณฑ์การอย่างเข้มงวด ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสสามารถติดตามข้อมูลได้ และไม่มีการปกปิดข้อมูล ย้ำว่าประชาชนอย่าตื่นตระหนก ขอให้ติดตามข้อมูลอย่างมีสติ และรับข้อมูลจาก สธ.เป็นหลักเพื่อให้ปรับตัวได้ถูกต้อง
สำหรับการเปิดประเทศ รัฐบาลมีความแนวแน่ในการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาได้ ขอเรียนเป็น 2 ระบบ โดยในกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เปิดให้ 46 ประเทศเข้าไทยไม่ต้องกักตัว ซึ่งมีหลักการ 4 ข้อใหญ่ เช่น การฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ตรวจ RT-PRC เป็นผลลบก่อนเดินทาง มาถึงแล้วต้องนอนโรงแรม 1 คืนเพื่อรอตรวจผลซ้ำ ถ้าเป็นลบก็สามารถเดินทางไปทุกที่ในประเทศไทยได้ และโรงแรมที่จะรับนักท่องเที่ยวต้องมีลักษณะ sealed route ต้องอยู่ไม่ไกลสนามบินไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนเด็กที่ฉีดหรือยังไม่วัคซีนโควิด-19 แล้วต้องมีการทำ RT-PCR ซ้ำ เพราะเด็กที่เดินทางเข้ามายังพบมีรายงานผลบวกอยู่บ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่ระบาดในประเทศ
นายสาธิต กล่าวว่า ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวภายใต้แซนด์บ็อกซ์ ทุกประเทศที่จะเข้ามาตามเงื่อนไข จะกำหนดตามมาตรการตามแต่ละจังหวัด และต้องอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งในวันที่ 1 พ.ย.นี้ 17 จังหวัดที่มีความพร้อมเปิดพื้นที่ เช่น กทม.ชลบุรี (บางละมุง) ระยอง (เกาะเสม็ด) และตราด ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของแต่ละจังหวัด เป็นความพร้อมที่จะเกิดขึ้นในการเปิดประเทศ
กรมควบคุมโรค และกระทรวงคมนาคมได้มีการซักซ้อมที่สนามบิน 2 ครั้ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการจัดระบบว่าต้องอยู่ในสนามบินในช่วงเวลาใด เพื่อลดการแออัด ในด้านความพร้อมถือว่ามีความคืบหน้าพอสมควร
นายสาธิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไทย จากกลุ่มประเทศติดชายแดนไทย ซึ่งอยู่ระหว่างรอการประชุม เพื่อสรุปว่าในประเทศเพื่อนบ้านที่ตามเงื่อนไข มีการฉีดวัคซีนแล้วจะเดินทางเข้ามาไทย ใช้เวลาเพียงเวลา 1 วัน เช่น ชายแดนมาเลเซีย มาทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนลาว เข้าทางฝั่งหนองคาย และชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในไทย 1 วัน เพื่อมาใช้จ่ายและกลับไปประเทศหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เป็นข้อเสนอที่ร่วมมือกันระหว่าง สธ.และการกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งรายละเอียดอาจจะมีการประกาศออกมาภายหลัง
กรณีนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยแล้วต้องตรวจหาเชื้อ PT-PCR นักท่องเที่ยวต้องรับผิดชอบค่าตรวจเอง เช่น สมุยพลัส ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาต้องจ่ายเอง แต่ตอนนี้ราคาค่าตรวจถูกลงแล้ว
ในกรณีหากพบนักท่องเที่ยวติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์นั้น นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ เรามีข้อมูลอยู่แล้วว่านักท่องเที่ยวเดินทางมาจากพื้นที่ไหน หากพื้นที่นั้นมีการกลายพันธุ์ค่อนข้างสูงก็จะเพ่งเล็งในการตรวจ โดยการตรวจการกลายพันธุ์สามารถใช้น้ำยาเฉพาะสามารถตรวจได้ในพื้นที่เลย แต่ในการตรวจถอดรหัสพันธุกรรมต้องส่งมาที่กรมพิสูจน์กลาง ซึ่งสายพันธุ์ส่วนใหญ่เมื่อเกิดขึ้นไม่นานก็จะมีน้ำยาตรวจเฉพาะจึงไม่ได้น่าห่วงอะไร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สธ. เผย ไทยพบโควิดกลายพันธุ์ อัลฟาพลัส 18 ราย - เดลตาพลัส (AY.1) 1 ราย
- ไทยพบผู้ป่วยโควิด เดลต้าพลัส 1 ราย ที่พระนครศรีอยุธยา
- โควิดวันนี้ 26 ต.ค. 64 ติดเชื้อเพิ่ม 7,706 ราย เสียชีวิต 66 ราย
