เรียกว่าเป็นพิธีกรมากฝีมือของช่องวันสำหรับ แฟรงค์ ภคชนก์ ที่วันนี้จะมาเล่ชีวิตตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ตั้งแต่หนีออกจากบ้าน ต้องนอนที่ป้ายรถเมล์ใช้ชีวิตเร่ร่อน อดมื้อกินมื้อ จนได้เข้ามาเริ่มทำงานในช่องวัน และพัฒนาตัวเองจนได้มาเป็นพิธีกร จนหลายคนคิดว่าเป็นลูกรักคุณบอย ซ้ำมาเจอกระทู้วิจารณ์เป็นพิธีกรที่แย่ที่สุด พร้อมทั้งเล่าเรื่องภรรยาชีวิตหลังแต่งงาน อีกทั้งวินาทีเฉียดตายตอนเดินทางไปแก้บน ทุกประเด็นทุกเรื่องราวในรายการคุยแซ่บSHOW
เข้าวงการมาด้วยสมัครเล่นละครเวที?
แฟรงค์ : ครับ ของคุณบอย ได้เลย ได้เฉยเลย โชคดีมากที่ได้ คนมาแคสเป็นพันได้มั้งเขาเอาประมาณ 30 คน ตอนนั้นมีการบนด้วย ตอนแรกเราเป้นนักแสดงในชมรมมหาวิทยาลัย อยากรู้ว่ามือาชีพจริงๆเขาทำกันยังไง
ย้ายออกจากบ้านเลย?
แฟรงค์ : พอมันเริ่มรู้เส้นทางของชีวิตตัวเองแล้วก็อยากจะทำมันเต็มที่ ใช้เวลากับมันเต็มที่ ผมเป็นคนที่อยู่กับครอบครัวคุณพ่อคุณแม่โอ๋ตลอด อยากไปเห็นชีวิตโลกภายนอก หนีออกจากบ้านแหละ วันนั้นวันเกิดครบ 20 ปี ไหว้พ่อแม่แล้วออกไป
ได้คิดถึงข้อดีข้อเสียไหมตอนนั้น?
แฟรงค์ : มันมีข้อดีนะ ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูใกล้ชิด มันทำให้เราไม่รู้จักโลกภายนอก เราไม่เคยเจอคนไม่หวังดี พอเรามาเจอเราก็รู้ว่ามันมีคนแบบนี้ พอพ่อแม่รู้เค้าก็ตามแต่ไม่เจอ เราไปเจอน้องสาวก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงปลอดภัยดีให้ไปบอกพ่อแม่
สุขสบายแบบที่คิดไหม?
แฟรงค์ : ลำบากมาก อาชีพนักแสดงเวลาเราไปแคสก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่สามารถวางแผนการเงินข้างหน้าได้ มันมีช่วงไม่มีรายได้เข้ามา ก็ต้องออกจากหอใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ 2 เดือนนะ
เร่ร่อน?
แฟรงค์ : ตอนนั้นมีละครเรื่องนึงแต่ยังไม่ออนแอร์ ละครออนแอร์เราถึงจะได้ตังค์ รอตังค์จากละครเรื่องนี้อยู่ ออกจากหอเริ่มจากไปนอนที่ชมรมมหาวิทยาลัยก่อน นอนตามป้ายรถเมล์ เพื่อนเริ่มเห็นว่าน่าสนุกก็มานอนด้วยกัน
เหมือนไม่ได้มองเป็นช่วงลำบาก แต่เป็นช่วงที่สนุก?
แฟรงค์ : ผมมีเงินละครที่รออยู่ข้างหน้า
คิดอะไรอยู่ตอนนอนป้ายรถเมล์?
แฟรงค์ : มันง่วง ถึงเวลานอนก็ต้องนอน
พอเริ่มมีชื่อเสียง ห่วงภาพลักษณ์ไหม?
แฟรงค์ : ไม่ครับ มันไม่มีชื่อเสียงด้วยซ้ำตอนนั้น ตอนละครออนแอร์วันแรกผมยังนั่งดูที่ร้านกาแฟอยู่เลย
ทำไมไม่คิดจะกลับบ้าน?
แฟรงค์ : มันยังเรียนรู้ไม่สุดครับ เรายังไม่ได้สิ่งที่เราอยากรู้
เรียกว่าอดมือกินมือได้ไหม?
แฟรงค์ : อดทุกมือแหละ แต่มีเพื่อนดีเพื่อนที่มานอนด้วยกันก็กินด้วยกัน เป็นอยู่แบบนี้ประมาณ 3 เดือน มีขายเสื้อผ้าด้วย เสื้อผ้าของเราที่เอามาจากบ้านที่ใส่ประจำนี่แหละ ซักแล้วเอาไปขายมือสอง ตอนนั้นเรารู้มันมีเงินรออยู่ข้างหน้า ชีวิตตอนนี้ก็เหมือนเวิร์คชอปบทคนเร่ร่อน นี่แหละที่ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ เพราะผมอยากดูว่ามันจะไปถึงไหน จะผ่านวิกฤตนี้ไปยังไง
ไม่ได้คิดถึงจุดแย่จุดแย่กับชีวิตเลย?
แฟรงค์ : ณ ตอนนั้นไม่มีผมสนุกกับชีวิตมาก กลายเป็นว่าบางคืนไม่นอนไปดูกรุงเทพยามค่ำคืน ไปดูตลาดมืด
มาที่เอ๊กแซกส์เมื่อไหร่?
แฟรงค์ : ก็ตั้งแต่ละครเวทีนั่นแหละ พอผ่านพ้นวิกฤต 3 เดือนมาได้ก็มีงานเข้ามา เราเริ่มมีภูมิคุ้มกันละว่าต้องใช้เงินยังไง หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยมีปัญหา แล้วช่วงนั้นเอ๊กแซกส์ผลิตรายการใหม่เยอะมากที่เป็นเกมส์โชว์ ซิทคอม ผมได้โอกาสเป็นคนนำเชียร์ปรบมือ
มีเขียนสคริปต์ แคสคนมาเล่นเกมส์ด้วย?
แฟรงค์ : มีพี่ที่ทำตำแหน่งเหล่าานี้เขาเปลี่ยนงาน ที่นี้ก็ได้สกิลพิธีกร เพราะว่าการคัดคนมันต้องดูว่าเขาเล่นเกมเราเป็นหรือปล่าว เราทำหน้าที่พิธีกรในตอนออดิชั่น
ได้เป็นพิธรกรรายการอะไรรายการแรก?
แฟรงค์ : คาราโอเกม เราช่วยคิดด้วย คุณบอยเป็นมาบอกเองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง คนนึงเป็นชาคริต ส่วนอีกคนนึงพี่ว่าเขาต้องรู้จักเกมส์นี้ดีมากๆ เลย แฟรงค์พร้อมหรือยังที่จะเป็นพิธีกร เราก็พร้อมครับรับโอกาสเลย
ได้เป็นพิธีกรมีกระแสดราม่าด้วย?
แฟรงค์ : หนักมาก มีกระทู้ขึ้นอันดับหนึ่ง ชื่อผมเป็นพิธีกรเดอะสตาร์ว่าคุณคือพิธีกรที่ห่วยที่สุดที่สยามประเทศเคยมีมา ผมเข้าไปอ่านมีคำด่า คำว่าเรามากมาย
เราอ่านแล้วยอมรับไหม?
แฟรงค์ : เราอ่านแล้วดูเจตนาของคอมเมนต์ว่า
เขาเจตนาดีหรือปล่าว ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราเลยอ่านแต่ไม่จำ เราทำให้เค้าทุกคอมเม้นท์ไม่ได้หรอก
ข้อไหนที่อ่านแล้วรู้สึกว่าเราต้องปรับปรุง?
แฟรงค์ : เรื่องพูดรัว พอโดนกระทู้ผมพยายามหาพิธีกรต้องทำยังไง ลองเลียนแบบคนอื่นอยู่พักนึง มันไม่สบายตัวเป็นตัวเองง่ายที่สุด
ใช้คำว่าแฟรงค์คือลูกรักของพี่บอยได้ไหม?
แฟรงค์ : ไม่ได้หรอก เรียกว่าใช้งานง่ายดีกว่า
ทำเบื้องหลังด้วย?
แฟรงค์ : คอยคิดเกมส์ ตรวจเช็คเกมส์ต่างๆ แรกๆ นอนออฟฟิสเป็นว่าเล่น อยากรู้ขั้นตอนทุกอย่าง ผมสนุกกับมัน บริหารเวลาเราใช้เต็มทั้งวันเลย ถึงเวลานอนเราก็นอน
รู้สึกว่าความดังไม่แน่นอน รายได้ไม่คงทน?
แฟรงค์ : มันเป็นสิ่งที่คนอื่นมอบให้เรา มันไม่ใช่เราจริงๆ มอบให้ไม่ได้ตั้งอยู่นานมันพร้อมจะไปเสมอ เราดูทีวีมาแต่เด็กเห็นความเป็นไป
แต่งงานแล้ว บางทีทำงานไม่ได้กลับบ้านภรรยาบ่นไหม?
แฟรงค์ : ช่วงนั้นเป็นช่วงสร้างชีวิตใหม่ๆ สร้างครอบครัวใหม่ๆ อันนี้ช่วงก่อนแต่ง หลังแต่งก็ยังทำอยู่ แต่ก็เข้าใจกัน
อยากมีลูกไหม?
แฟรงค์ : อยากมีมาก แต่เขายังไม่มา พยายามลองวิทยาศาสตร์แล้ว มีบนบานแล้วแต่ก็ยัง
เราเคยบนบานแล้ว?
แฟรงค์ : ตอนนั้นเรื่องละครเวทีแหละ บนขี่จักรยานไปเชียงใหม่ หลวงพ่อทันใจ 700 กิโลเมตร แต่ไม่ได้ทำตอนนั้น ทำหลังจากนั้นอีก 10 ปี มีวันนึงฝันว่าบุกป่าหาอะไรสักอย่างเจอแต่ต้นกก แหวกไปอีกเจอแต่ที่ว่าง แล้วก็เจอจระเข้ตัวใหญ่ออกมาก็สะดุ้งตื่น เล่าให้ใครฟังสักคนเค้าบอกบนอะไรไว้หรือปล่าว
700 กิโลใช้เวลากี่วัน?
แฟรงค์ : ประมาณ 5 วัน
มีเฉียดตาย?
แฟรงค์ : มีวันนึงมาจากสุโขทัยจะข้ามภูเขาลูกนึง ลงเขาทางลาด แต่ทางทันกำลังก่อสร้างแต่ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พยายามคุมเบรคเลี้ยวไปไหนทางที่ไม่รู้จัก ผ่านตรงนั้นได้ผมนั่งสั่นนานมาก ถ้าตกลงไปคือเหวเลย
เกิดอะไรขึ้นที่งานแต่งชมพู่?
แฟรงค์ : ก็สนุกกันดีเป็นงานแต่งที่สวยงามและน่าประทับใจ หลังงานแต่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากผมเข้าแท็กซี่ปิดประตูผมอยู่บนเตียงทันที ก่อนหน้านั้นมันหาย ประตูบ้านปิดไหม ก็ปิดแสดงว่าเราไขกุญแจเข้ามาได้ ไปดูรั้วหน้าบ้าน ตู้ไปรษณีย์ร่วงมาที่พื้น เลยสันนิษฐานว่าเมื่อคืนหากุญแจไม่เจอคงจะปีนรั้วเข้าบ้านทำไปรษณีย์ตก เมียไม่รู้เพราะวันนั้นเมียไม่อยู่
ไม่ว่าทำอะไรอยู่ถ้าเมียสั่งกลับบ้าน กลับทันที?
แฟรงค์ : ไม่จริงนะส่วนมากเมียจะตามมา ส่วนมากไม่ถึงกลับเลย ถ้ากลับเลยมันจะดูเสีย มันไม่มีใครใหญ่กว่า บางเรื่องก็ผมบางเรื่องก็ภรรยา ภรรยาผมเป็นแบคที่ดีที่สุด ถ้าไม่มีภรรยาผมมาไม่ถึงตรงนี้ เขาดูแลทุกอย่าง