จากกรณีนางสาวณัชพร อายุ 49 ปี และนางสาวเมย์ อายุ 19 ปี แม่ลูกที่เชื่อว่าตัวเองจะต้องละสังขาร ในวันที่ 30 ต.ค. 64 และ 18 มี.ค. 65 ซึ่งทางครอบครัวมีความกังวลว่าจะเกิดเรื่องร้าย จนเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน และนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา นั้น ล่าสุดพบว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันชีวิตมอบผลประโยชน์ให้พระ และมีกจ่ายเงิน 3 แสนซื้อโลงศพด้วยนั้น
วันที่ 28 ต.ค. 64 เวลา 10.20 น. ตัวแทนสำนักพุทธฯจังหวัดอุดรธานี นำโดยพระมหาสยาม เตชปัญโญ เลขาเจ้าคณะอำเภอกู่แก้ว, นายอำเภอกู่แก้ว และตำรวจชุดสืบสวน สภ.กู่แก้ว จำนวน 5 นาย ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ซำป่าหัน เป็นการมาเจรจาพูดคุยกันระหว่างพระอาจารย์สุนิตร เจ้าสำนักสงฆ์ซำป่าหัน กับนายอำเภอ และตัวแทนฝ่ายสำนักพุทธฯ
นายรักศักดิ์ เทียนไชย นายอำเภอกู่แก้ว ตรวจสอบในส่วนของเรื่องที่ดินของสำนักสงฆ์ว่าเป็นที่ดินที่ปลูกสร้างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบ ทางนายอำเภอก็มีการโต้เถียงกันกับพระอาจารย์สุนิตร นายอำเภอก็พยายามชี้แจงให้พระอาจารย์สุนิตรฟังถึงเรื่องการปลูกสร้างสำนักสงฆ์
จากการตรวจสอบไม่พบว่าผู้ที่มาปฏิบัติธรรมไม่ใช่คนในพื้นที่ พระอาจารย์สุนิตร ก็ขึ้นเสียงถามนายอำเภอขึ้นมาทันทีว่า ใครบอกว่าไม่มีคนในพื้นที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ ท่านมาท่านมีข้อมูลมาหรือไม่ ทางนายอำเภอก็อธิบายให้พระอาจารย์สุนิตรฟังว่าขั้นตอนแรกในการจัดตั้งสำนักสงฆ์หรือที่พักสงฆ์ต้องผ่านคณะกรรมการของหมู่บ้าน พระอาจารย์สุนิตรบอกอีกว่าถ้านายอำเภอไม่มีหลักฐานอะไรมาแจงให้ดูก็อย่าพูด อาตมายืนยันว่ามีคนในพื้นที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่
เรื่องที่เป็นข่าวการละสังขารของนางสาวณัชพร พระอาจารย์ก็ต้องชี้แจงทางฝ่ายสำนักพุทธฯ แต่ถ้าหากพบว่ามีความผิดเข้ามาในพื้นที่ ก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แล้วเรื่องโลงแก้วทำไมถึงจะต้องมาตั้งอยู่ที่นี่ ในเมื่อที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเกิดของนางสาวณัชพร พระอาจารย์ก็อธิบายให้ทางนายอำเภอฟังว่าที่ต้องนำร่างของนางสาวณัชพรมาไว้ที่นี่ ก็เพื่อจะเป็นตัวอย่างให้คนในพื้นที่มาศึกษาธรรมะ ซึ่งเมื่อนำร่างมาไว้ในโลงแก้วแล้วครบ 1 เดือน จะกลายเป็นพระบรมสารีริกธาตุ ให้คนในพื้นที่กราบไหว้บูชากัน ยืนยันว่าการสร้างโลงแก้ว เป็นเงินของญาติโยม
นายรักศักดิ์ เทียนไชย นายอำเภอกู่แก้ว บอกว่า ที่มาในวันนี้ในส่วนของการตรวจสอบขั้นตอนการสร้างสำนักสงฆ์แห่งนี้ จากการตรวจสอบสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นแค่ที่พักสงฆ์ที่ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้น เรื่องการจัดทำโลงแก้วเป็นในส่วนของคณะสงฆ์ ที่ต้องเข้ามาตรวจสอบ ว่าจะถูกหรือผิดอย่างไร การตรวจสอบว่าพระอาจารย์รูปนี้เป็นพระจริงหรือไม่ จากการตรวจสอบเป็นพระถูกต้อง แต่มาอยู่ในที่ที่ไม่ถูกต้องเท่านั้น
เวลา 14.00 น. พระมหาสายัน อภิปุญโญ เจ้าคณะอำเภอวังสามหมอฝ่ายธรรมยุต เดินทางมาที่สำนักสงฆ์ เพื่อจะมาตรวจสอบ พระอาจารย์สุนิตร ตามคำสั่งของสำนักพุทธฯ พระอาจารย์สุนิตรก็บอกว่า อาตมาอยู่กับโยมแล้วมีลูกชายไปร้องสื่อฯ ให้มาตรวจสอบเรื่องโลงแก้ว แล้วก็ไม่ได้จ้างให้นักข่าวมาทำข่าว พระมหาสายัน ก็ถามว่ารู้บ้างไหมว่าสิ่งที่ทำอยู่ พระที่เป็นครูบาอาจารย์ยังไม่กล้าทำ ท่านมีวิชาเก่งกล้าแค่ไหนที่สั่งสอนให้ญาติโยมทำตามและเชื่อในสิ่งที่ท่านพูด มีการไปชักชวนกันมาสร้างโลงแก้วได้อย่างไร ให้เล่ามาแต่เนื้อ ๆ ไม่เอาน้ำ
พระอาจารย์สุนิตร เล่าให้ฟังว่านางสาวณัชพรมาปรึกษาให้สอนคำสอนที่ง่าย ๆ ได้หรือไม่ ผมก็บอกไปเพียงว่าให้โยมณัชพรเป็นแค่ผู้เห็น โยมณัชพรก็เข้าใจ แล้วก็บอกแต่ว่าต่อไปนี้จะไม่ฟังธรรมของพระอาจารย์อีก จากนั้นก็รู้ข่าวว่าโยมณัชพรป่วยมีอาการเลือดออกเต็มตัว แล้วก็รู้ว่าโยมณัชพรได้ขึ้นไปกราบพระที่บ้านของเขา แล้วก็มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา มาสอนจนบรรลุในธรรมะ
พระมหาสายัน ก็บอกว่า พอแล้วไม่ต้องเล่าแล้ว เล่าไปเล่ามาท่านเริ่มเพี้ยนไปใหญ่ แต่พระอาจารย์สุนิตรก็พยายามเถียงพระมหาสายัน จนพระมหาสายันต้องเลิกคุย แล้วก็ทิ้งท้ายเอาไว้ว่าจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับพระอุปัชฌาย์ของท่านให้มาตรวจสอบ และนำท่านไปอยู่ในที่ของท่าน
พระมหาสายัน บอกว่า ที่มาในวันนี้ก็จะมาตรวจสอบว่าพระรูปนี้มีความผิดอะไรบ้าง จากการตรวจสอบก็พบว่าพระรูปนี้เป็นพระที่บวชจากต้นสังกัดอาตมาจริง จากการพูดคุยกันอย่างที่เห็นว่าพระรูปนี้ไม่มีความให้ความเคารพอาตมาเลยสักนิด ส่วนเรื่องว่าพระรูปนี้จะอุตริหรือไม่ อาตยอมรับว่าพระรูปนี้ยังไม่แสดงออกมาโดยตรง อยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางคณะสงฆ์
พระอาจารย์สุนิตร อินทะคุตโต อายุ 40 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ซำป่าหัน บอกว่า การที่เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในวันนี้ อาตมาเองก็ยินดีให้ตรวจสอบทุกอย่าง การมาของนายอำเภอในวันนี้ที่มีข้อมูลมาเพียงน้อยนิด น่าสลดสังเวชนักที่แสดงพฤติกรรมแบบที่เห็น ส่วนเลขาเจ้าคณะอำเภอที่มาตรวจสอบ อาตมาเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แสดงใบสุทธิว่าอาตมาเป็นพระจริง
สำหรับประเด็นที่ลูกชายของนางสาวณัชพร ไปร้องเรียนกับสื่อก็ดูอยู่ว่าโยมณัชพรยังขำอยู่เลยว่าได้โอนเงินไปสร้างที่เก็บศพตัวเอง เพราะว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปบอกให้ทำแบบนี้ โยมณัชพรได้โอนเงินมาประมาณ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 300-400 มากสุดก็ 30,000 บาท ส่วนเรื่องที่โยมณัชพรพูดเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงนั้นเสียงนี้เป็นการเชื่อมต่อของสิ่งที่เขานับถือ ยกตัวอย่างคนที่เป็นร่างทรงพอผีเข้าเสียงก็เปลี่ยน
สำหรับเรื่องกำหนดวันที่ 30 ต.ค. 64 ที่บอกว่าโยมณัชพรจะละสังขาร เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดไว้ให้โยมณัชพรละสังขาร ตามคำขอขอโยมณัชพร แต่ที่จริงแล้วกำหนดละสังขารของโยมณัชพร คือวันที่ 29 ต.ค. 64 แต่โยมณัชพรมองเห็นว่าคนจะเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการตายในการฆาตกรรมหรือเป็นโรคตาย จึงต้องจัดการไปฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อน มีกำหนดต้องละสังขารในวันที่ 30 ต.ค. 64 แทน ซึ่งส่วนตัวอาตมาเองยอมรับว่าเคยเจอกับโยมณัชพร 2-3 ครั้ง สวนการเรียนรู้ธรรมะจะเป็นการพูดคุยกับทางโทรศัพท์เป็นส่วนใหญ่ สำหรับเรื่องนี้ก็คงต้องรอดูว่าโยมณัชพรจะละสังขารจริงหรือไม่ แต่ช่วงระหว่างรอให้ทุกคนย้อนกลับไปดูตัวเองเสียก่อนว่ารู้หรือไม่ว่าตัวเองจะเจอกับอะไรบ้างในอนาคต
ส่วนเรื่องที่หมอปลาบอกว่าอย่าหลงเชื่อพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์อุตริ อาตมาเองยังไม่เคยสอนให้ใครไปในทางอุตริเลย มีแต่สั่งสอนให้ลูกศิษย์ลูกหาไปในทางธรรมะที่ถูกต้อง ถ้าอาตมาอุตริก็ต้องบอกว่าตัวอาตมาเองเก่งเกินพระพุทธเจ้า ส่วนเรื่องที่หมอปลาจะเดินทางมาที่สำนักสงฆ์กับทนาย เพื่อมาตรวจสอบเรื่องอุตริหรือเรื่องอะไร อาตมายินดีต้อนรับ ก็สุดแท้แต่กรรม ยืนยันว่าโลงแก้วที่สร้างไม่ได้เปิดรับบริจาค แต่เป็นการทำบุญช่วยกันบริจากของญาติโยม