ยังไม่จบง่ายๆสำหรับเรื่องราวของ ครูไพบูลย์ แสงเดือน อดีตสามี เอ๋ มิรา ที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ล่าสุดฝ่ายครูไพบูลย์ ประกาศเตรียมฟ้องใครบางคน 20 ล้าน หลังจากที่เคยฟ้องหมิ่นประมาทเมียเก่า 1 ล้าน กระต่าย พรรณนิภา ภรรยาปัจจุบันร่วมฟ้องเอ๋ด้วยเรียกอีก 1 ล้าน ด้านเอ๋ มิราก็ฟ้องอดีตสามีคดีพรากผู้เยาว์ และเรียกร้องแบ่งสินสมรส 20 ล้าน
โดยล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 29 ต.ค. 64 หนุ่ม กรรชัย ได้เชิญครูไพบูลย์มาร่วมสัมภาษณ์ ที่พร้อมเคลียร์หมดเปลือกและในบางช่วงของรายการยังได้โฟนอินกับ เอ๋ มิรา อีกด้วย
“เอ๋ มิรา” อยู่ในสาย สิ่งที่เอ๋พูด อาจเป็นหลักฐานในชั้นศาล จะพูดอะไรต้องคิดด้วยนะ ต้องเตือนไว้ก่อน ครูบอกว่าไม่ได้พรากผู้เยาว์ คุณมองยังไงที่ไปฟ้องเขา?
เอ๋ : ตอนนี้พยานหลักฐาน ตามที่หนูได้แจ้งความไปตามที่เป็นข่าว เขาจะปฏิเสธยังไงก็สิทธิ์ของเขา หนูไม่อยากไปพูดว่าเรื่องจริงหรือไม่จริง เพราะหลักฐานมันก็มีอยู่แล้วค่ะ
เขาโอนเงินให้คุณตลอด ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูดว่าโอนให้แค่แสนเดียวตอนหย่าแล้วจบไป เขามีหลักฐานให้ดูด้วย?
เอ๋ : อย่างที่เขาบอกว่าโอนตังค์ให้หนูตลอด แสดงว่ามันไม่ได้จบตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว 3 ปีที่ผ่านมาคุณยังติดต่อกับเรา ทำให้เราเจ็บใจอยู่ตลอด ตอนที่หนูไปต่างประเทศ ไปเกาหลีที่เขาบอกว่าโอนตังค์ให้หนู เขาโอนตังค์จริงค่ะ เขาบอกว่าหนูมาอยู่เกาหลีแล้ว เขาบอกว่ากลับมาหาพี่ได้มั้ย ตอนนั้นเขาทะเลาะกับกระต่าย เขาโอนตังค์ให้หนู เพราะหนูบอกว่าหนูมีหนี้ที่ต้องใช้ให้ยาย 6 หมื่น เขาเลยโอนให้หนู 8 หมื่นรวมค่าเครื่องบินด้วยและใช้หนี้ให้ยาย เขาบอกว่าถ้ากลับมาจะเอาหนูคืน จะกลับมาเป็นครอบครัว หนูก็เลยตัดสินใจกลับมา พอกลับมาแล้วก็เป็นเหมือนเดิม เขาก็ยังอยู่กับเด็กคนนี้ และปล่อยปละละเลยหนูเหมือนเดิม หนูก็รู้สึกว่าทำไมต้องทำร้ายหนูซ้ำๆ หนูอุตส่าห์กลับมาจากต่างประเทศ ถ้าไม่กลับมาหนูอาจมีทุกอย่างแล้วก็ได้ หนูหลงเชื่อคำพูดของเขา
เอ๋กลับมาหาเขาเหรอ?
เอ๋ : ใช่ค่ะ ทั้งที่เขามีต่ายอยู่แล้ว เพราะเขาบอกว่าจะเลิกกับเด็กคนนี้ ตลอดที่ผ่านมาทุกครั้งที่เขาทะเลาะกับเด็กคนนี้ เขาจะร้องไห้มาหาหนู
ครูยังไง?
เอ๋ : จะรับความจริงได้มั้ยถ้าเราพูด
ไพบูลย์ : มันรู้อยู่แก่ใจของเขา
เอ๋ : ใช่ คุณรู้อยู่แก่ใจ
ไพบูลย์ : มันไม่ได้เกี่ยวกับเขา มันเรื่องเราสองคนนะ
เอ๋ : ถ้าเรื่องของเราสองคนจะไม่จบแบบนี้
ไพบูลย์ : มันจบแล้ว เธอย้อนไปดูเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
เอ๋ : 3 ปีที่แล้วเธอบอกจบแต่เธอมาโพสต์ว่าเรามีชู้
ไพบูลย์ : เธอย้อนไปดู เราต่างโพสต์ว่ากัน ตอนนั้นต่างคลอนแคลน หนูขอหย่ากับพี่เอง
เอ๋ : ใช่ เอ๋เป็นคนขอหย่าเพราะว่าคุณบอกว่าคุณมีอะไรกับต่าย ถ้าคุณบอกว่าคุณทะเลาะกับเรา คุณคลอนแคลนกับเรา คุณไปเอากับคนอื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกระต่ายก็ได้ ทำไมต้องเป็นเด็กคนนี้ ซึ่งมันทำให้เราเจ็บปวดมาก เพราะเราเลี้ยงดูเด็กคนนี้มา
ไพบูลย์ ไม่จริง ตั้งสติพูดใหม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับใครเลย
เอ๋ : มึงบอกว่ามึงได้กับเขาทำไม
ไพบูลย์ : ไม่ได้พูดอย่างนั้นเลย
เอ๋ : ให้มึงตาย เอามั้ย
ใจเย็นๆ นะ?
ไพบูลย์ : ก็เป็นแบบนี้
เอ๋ : ไม่ขอให้เขาตายก็ได้ หนูขอให้เขาฉิบหายตรงนี้เลย
ไม่ฟ้องเขานะ?
ไพบูลย์ : ไม่ฟ้องแน่นอน ผมเข้าใจ
เอ๋ : ช่วงปีใหม่ก่อนกระต่ายมีลูก เขาก็มาขอให้หนูมีลูกให้เขา เขาบอกกระต่ายไม่เหมาะเป็นแม่ของลูก เขาบอกให้หนูมีลูกได้มั้ย หนูบอกว่าไม่ได้เพราะหนูไม่ได้รักแล้ว คุณเห็นแก่ตัวเกินไป จะให้เราไปอยู่ในฐานะอะไร เราไม่ได้อยากเป็นเมียน้อย
ไพบูลย์ : ตั้งสตินะ แต่สำหรับผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ผมไม่ฟ้องเขาแล้ว
ที่ออกโหนกระแส ยังจะฟ้องมั้ย?
ไพบูลย์ : เพราะตอนนั้นผมนิ่งตลอด นักข่าวโทรไปทุกวัน ผมบอกว่าผมพอแล้วผมอยากจบ ผ่านไปหนึ่งเดือนกว่าก็ให้สื่อ ให้ข่าว ให้สัมภาษณ์ตลอดเวลา ผมเสียหาย
เอ๋ : ก็คุณบอกคุณจบ แต่คุณไม่ได้ขอโทษเรา แต่คุณไปขอเอฟซี เอฟซีไม่ได้โดนกระทำนะ
ไพบูลย์ : พี่ขอโทษเอ๋นะ (ยกมือไหว้) จะให้ขอโทษเรื่องอะไร
เอ๋ : ขนาดขอโทษเรื่องอะไร คุณยังไม่รู้เลย คุณไม่ได้สำนึกไม่ต้องขอโทษเรา เราไม่ได้ต้องการแล้ว
ไพบูลย์ : เธอก็รู้อยู่แก่ใจ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะใคร ใครเป็นต้นเหตุ ผมไม่เกี่ยวกับคนอื่น สิ่งที่ผมพูดและทำเกี่ยวกับอดีตภรรยา มันจบไปแล้วเมื่อสามปีที่แล้ว ผมย้ำอยู่ตลอดเวลา
ครูพยายามบอกจบไปนานแล้ว มีชีวิตใหม่แล้วกับทางฝั่งต่าย เอ๋น่าจะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?
ไพบูลย์ : สิ่งที่ผมช่วยเหลือด้วยความหวังดี ปรารถนาดี เขาก็รู้อยู่ตลอดเพราะผมหวังดี ตอนแรกผมตามอยู่ปีสองปี
กลับไปกระต่ายจะตบครูมั้ย?
ไพบูลย์ : ไม่ครับ เพราะห้วงเวลานั้นเราไม่ได้ตกลง ไม่มีการลงเอยว่าจะเป็นแฟนกัน เขาก็มีแฟนของเขา
เขาบอกคบกระต่ายครูก็ตามเขาจะกลับไปหาเขาอีก?
ไพบูลย์ : ไม่ครับเป็นเรื่องหลังปี 61 มาแล้ว ผมพยายามติดต่อ ยื้อทุกอย่าง ยิ้ทุกวิถีทาง
เอ๋ : คุณยื้อตลอด เพราะบอกว่ากระต่ายเป็นเหมือนเราไม่ได้
ไพบูลย์ : มันไม่ได้เกี่ยวกับคนอื่น เข้าใจมั้ย
เอ๋ : แล้วคุณมาร้องไห้อยากตาย บอกว่าเด็กคนนี้มีผัวใหม่ คุณบอกเราว่าพี่เอาเงินไปให้เขา แล้วเขาเอาไปให้คนใหม่แล้วคุณก็ร้องไห้
ไพบูลย์ : มันไม่ใช่แล้ว ทุกบาทก็อยู่กับพี่นี่แหละ จะเอาเงินให้เขาได้ไง
วันนี้เรามีทางไกล่เกลี่ย หรือพูดคุยมุมไหนที่ไม่ต้องมาฟ้องร้องกันได้มั้ย หรือถอนไปทั้งคู่ อยู่อย่างสันติได้มั้ย?
ไพบูลย์ : ได้ครับ อยากให้เป็นอย่างนั้นมาก ตอนนี้รู้สึกยินดีและดีใจที่เขาประสบความสำเร็จ มีงานมีเงิน เขาจะเลี้ยงลูกหรือผมเลี้ยง เราไม่โฟกัส แต่เราจะโฟกัสตรงที่เราเป็นพ่อเป็นแม่ที่ดีของลูกเราแค่นั้น
มีโอกาสไกล่เกลี่ยมั้ย มีจุดตรงไหนจะลงได้มั้ย?
เอ๋ : พี่หนุ่มถามเขาสิคะว่าเขาจะเอายังไง
ไพบูลย์ : พี่ตอบไปแล้ว ทุกอย่างจบที่เรา คุยกันได้ทั้งหมดแหละ
เอ๋ : คุณอยากจบมั้ย
ไพบูลย์ : อยากจบครับ
เอ๋ : คุณอยากจบยังไง ถามก่อน คุณจะทำยังไงให้มันจบ
เอ๋อยากให้จบแบบไหน?
เอ๋ : หนูแล้วแต่เขาเลยว่าเขาอยากจบแบบไหน ถ้าเขาทำให้หนูพอใจว่าสิ่งที่เขาทำหนูมามันสมควรที่จะจบ
ไพบูลย์ : เธอต้องแยกก่อน สามปีที่แล้วเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว พี่ไม่ไปติดต่อหนู พี่มีกระต่ายก็เลิกติดต่อแล้ว พี่ก็ดูแลครอบครัวใหม่ เธอก็มีครอบครัว แต่ตอนนี้เราเป็นพ่อแม่ที่ดีของสายแนน เธอก็รู้ว่าพี่รักสายแนนมากแค่ไหน
เอ๋ : มันไม่เกี่ยวกับลูก มันเกี่ยวกับเราสองคน
ไพบูลย์ : ก็หมายถึงเราสองคน เธอต้องการอะไร แล้วที่ฟ้องมา เอาค่าเลี้ยงดู เดือนละ 2 หมื่นบาท 20 ปีหรือจนกว่าลูกจะบรรลุนิติภาวะ พี่ไม่เข้าใจว่าคิดยังไง
เราให้ได้มั้ย?
ไพบูลย์ : บอกตรงๆ ก่อนคบกระต่าย ผมบอกให้เขามาอยู่บ้านเลี้ยงลูก ผมจะแลทุกอย่าง แต่เธอบอกจะไปเรียน ไปทำงาน ตรงนั้นผมก็ไม่ได้ว่า
เอ๋ : เราจะไปอยู่ได้ยังไง คุณให้เราเดือนละ 2 หมื่นไปเลี้ยงลูก แต่คุณไปกับเด็กนั่น ใครจะรับได้ ถามหน่อย
ไพบูลย์ : เราไปทำงาน
เอ๋ : ทำงานเราก็บอกคนอื่นได้ถูกมั้ย ตลอดสามปีที่ผ่านมาทุกคนเชื่อคุณ เพราะคุณบอกไปทำงาน ไม่มีใครเชื่อเรา จนวันนี้เมียใหม่คุณมีลูก คนถึงเชื่อเรา ตอนเขาเลิกกับหนู เขาบอกว่าไม่ได้มีอะไรกับกระต่าย
ไพบูลย์ : ก็เราไม่ได้มีอะไรกัน จะให้พูดว่ายังไง
เอ๋ : ถ้าไม่ได้กันแล้วคุณมาบอกได้ยังไง
ไพบูลย์ : ใครไปบอกว่าได้กัน
เอ๋ : มึงนั่นแหละ
ใจเย็นๆ คนดูอยู่เยอะ?
ไพบูลย์ : เอาอย่างนี้ เอ๋จะให้ทำยังไง ทุกอย่างพอแล้วสำหรับเราสองคน มันควรเป็นพ่อเป็นแม่ที่ดี เป็นพี่เป็นน้องที่ดี
เอ๋ : ถ้าวันนั้นเราไปโหนกระแส เราพูดว่าเราเจ็บปวดยังไงบ้าง เราโดนคุณทำอะไรบ้าง แทนที่คุณจะขอโทษเรา เอาลูกมาให้เราเลี้ยง แทนที่คุณจะดูแลเรากับลูก แต่คุณกลับมาฟ้องเรา
ไพบูลย์ : แต่เธอไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด เธอพูดแต่ฝ่ายเดียวของเธอไง เธอพูดแต่สิ่งที่เธอรู้สึกกไง
เอ๋ : เอ๋อยากพูดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่รายการมีเวลาแค่นั้น
ไพบูลย์ : พี่ก็อยากพูดตั้งแต่จบจนต้นเหมือนกันแหละครับ มันไม่มีที่จบ ผมอยากจบมาก
ตอนนี้จบยังไง เอ๋อยากให้เขาทำอะไร อยากให้ขอโทษ ตั้งโต๊ะแถลงหรือถอนฟ้อง มีธงในใจยังไง?
เอ๋ : ให้เขามาเคลียร์กับหนูเองค่ะ แต่ตลอดเวลาที่เอฟซีถามเขาว่าคุณไม่ไปเคลียร์กับเอ๋ เขาบอกว่ารอหนูไปเคลียร์กับเขา แต่หนูไม่ได้ผิดจะรอหนูไปเคลียร์ได้ไง แทนที่เขาจะมาเคลียร์กับหนู
ไพบูลย์ : ช่องทางที่จะติดต่อเธอ ช่องทางไหน เธอบล็อกพี่ทั้งหมด
เอ๋ : คุณบอกคุณไม่มีช่องทางติดต่อเรา แล้ววันนั้นคุณเอาเฟซแม่บ้านมาคุยกับเราได้ไง คุณบล็อกเรา
ไพบูลย์ : ใครคือแม่บ้าน ที่บ้านไม่มีแม่บ้าน
เอ๋ : แม่บ้านคุณคือใคร แล้วมาถามเรา
ไพบูลย์ : ที่บ้านผมไม่มีแม่บ้าน มีแต่ย่าสายแนน คือแม่ผม
แม่บ้านคือใคร?
เอ๋ : คนดูแลครอบครัว คือย่าของเขาค่ะ ก็เป็นป้าอ้อยของคุณ แทนที่จะคุยกับเรา แล้วคุณมาบล็อกทำไม
ไพบูลย์ : แล้วไปบอกคนอื่นว่าเป็นแม่บ้านทำไม
เอ๋ : ถ้าไม่เป็นแม่บ้าน แล้วทำไมซักเสื้อผ้าให้มึงล่ะ
ทั้งเอ๋ ทั้งครูไปเจอกัน และนั่งคุยเคลียร์กัน จะมีโอกาสจบมั้ย?
เอ๋ : ก็ลองดูค่ะว่าจะเคลียร์กับหนูยังไง ต้องเข้าใจหนูด้วย ตอนนั้นหนูขอแค่คำขอโทษ แต่ตอนนี้หนูขอคำขอโทษไม่ได้แล้ว เพราะผู้ใหญ่ที่ดูแลหนูถูกเขาทำให้เสียหายไปหมดทุกคนแล้ว
ไพบูลย์ : ใครเสียหายกว่ากัน พี่ถามก่อน แม้แต่การทำงานก็กระทบ แม้แต่ยูทูป พี่โดนคนไปด่า ไม่ได้ทำงานในยูทูปมาเดือนนึงแล้ว คนว่าลูกชิ้นไม่เท่าไหร่ แต่การไปตั้งกลุ่มแก๊งเพื่อมาทำคอมเมนต์ มีการบอกกันด้วยว่าทำเฟซอวตารสิ จะได้ด่าแล้วไม่โดนฟ้อง มีด้วยเหรอครับแบบนี้ ทำไมไม่จบไป
เอ๋ : มันเป็นกรรมที่ต้องรับสิ
ไพบูลย์ : มันจะเป็นกรรมได้ยังไง ถามหน่อยทุกคนล้วนมีกรรม ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ดีและไม่ดี กรรมคืออะไร ใครกระทำดีก็ได้ดี ใครทำไม่ก็ไม่ได้ดี แล้วพี่ผิดอะไร
เอ๋ : พี่ถึงฉิบหายมั้ย
ไพบูลย์ : คนทำให้เราไม่ดีหรือเปล่า เพราะอิจฉาหรือเปล่า
ทนาย : คดีที่ฟ้องไปศาลจ.เลย นัดไกล่เกลี่ย 2 พ.ย. ถ้าน้องประสงค์จะไกล่เกลี่ยก็ยินดี ทางศาลก็นัดไกล่เกลี่ยก่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องอยู่แล้ว
เอ๋ฟ้องพรากผู้เยาว์?
ทนาย : ก็เป็นสิทธิ์ครับ
เอ๋จะดำเนินคดีถึงที่สุด?
เอ๋ : ใช่ค่ะ
ประจักษ์ชัยน่าจะโดนฟ้อง 20 ล้าน แต่ฝั่งนี้ไม่เปิดว่าฟ้องใคร แต่ศรชี้ไปทางนั้น ?
เอ๋ : ตอนนี้หนูว่าจะฟ้องเรื่องสินสมรสค่ะ
ไพบูลย์ : ตอนนี้ที่ผมได้รับก็มีฟ้องพรากผู้เยาว์ เพิกถอนการเลี้ยงดูบุตร และเรียกค่าเลี้ยงดู
ลูกอยู่กับใคร?
ไพบูลย์ : เขาเพิ่งมารับกลางเดือนก.ย. ที่ผมลงว่าคิดถึงลูก เพราะผมชอบอยู่กับลูก เขาบอกลูกไม่ได้นอนกับผม สาเหตุเพราะผมทำงานหนัก บางวันต้องทำงานห้องอัด เขาก็มานอนเฝ้าผม ผมสงสารเลยให้นอนกับย่า
เอ๋ ลูกบอกเอ๋ว่าตอนกระต่ายท้องโต ลูกไม่มีที่นอน คุณบอกว่ามันเบียดกัน
ไพบูลย์ : ไม่เกี่ยวกัน พี่ทำงานดึกก็รู้ สายแนนไม่อยากให้นอนดึก ไปย้อนดูเฟซบุ๊กผม จะไลฟ์สดกับลูกบ่อยมาก ไม่ชอบโพสต์อะไรเกี่ยวกับลูก แต่ชอบพาเขาทำกิจกรรม
เอ๋ : เราไม่เคยบอกว่าคุณเป็นพ่อไม่ดีคุณเป็นพ่อที่ดี คุณเป็นผัวที่เลว คุณเข้าใจมั้ย
ไพบูลย์ : อ่ะ ว่ามา
อย่าไปฟ้องเขานะ?
ไพบูลย์ : ไม่ครับ ผมพอแล้ว
ทนาย : ถ้าอยากจบจริง ไปเจอที่ศาล 2 พ.ย. ไปไกล่เกลี่ยกันดีกว่า เพื่อทุกอย่างจะได้จบ
ไพบูลย์ : สองอาทิตย์ก่อนผมก็ไปหาเขา ไปเล่นกับลูก เขาอยู่แต่เราไม่ได้คุยกัน วันนั้นก็ร้องไห้ ได้แต่จูบหน้าผากลูกบอกว่าพ่อคิดถึงลูกนะ
เอ๋ยืนยันว่าถูกกล่าวหาว่ามีชู้ เลยมาออกรายการเพื่อบอกว่าไม่ใช่มีชู้ ฝั่งครูไพบูลย์เปิดเผยภรรยาคนใหม่?
เอ๋ : ใช่ค่ะ ตอนเขาบอกว่าหนูโพสต์ หนูมีครอบครัวใหม่แล้ว หนูอยากรู้ว่าเขาพูดความจริงมั้ย สุดท้ายเขาเห็นหนูโพสต์ว่าอย่ามายุ่งกับครอบครัวหนู เขาเลยพูดว่าเขาเลิกกับหนูโดยดี แล้วมาคบกับกระต่าย ตอนดูแถลงการณ์หนูร้องไห้เลย ทำไมพูดเอาดีเข้าตัว
ยังรักเขาอยู่?
เอ๋ : ไม่ค่ะ มันเจ็บมาก ไม่รู้จะพรรณนาความเจ็บนี้ยังไง ไม่ได้เจ็บ 3 ปีที่แล้วแต่เจ็บทุกช่วงเวลาที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็มาหาและเล่าเรื่องเด็กผู้หญิงคนนี้ให้ฟังตลอด
ไพบูลย์ : แต่หลังจากอยู่กับกระต่าย ต้นปี 63 ที่เริ่มใช้ชีวิตอยู่บ้านหลังเดียวกัน ช่วงนั้นผมไม่ค่อยได้คุยกับเอ๋ แต่ผมก็ช่วยนะ เขามีอะไรผมก็ช่วย เพราะผมอยู่ในพาร์ทชีวิตที่เป็นครอบครัวใหม่ของผมแล้ว
พ้อยท์มีแค่นิดเดียว เอ๋พยายามพูดว่าครูไม่ได้พูดความจริงกับสังคม 3 ปีก่อนถูกกระทำ โดยที่กลายเป็นคนต้องหย่ากับครูเพราะมีชู้ สองหลังปิดตัว พยายามเรียกร้องความเป็นธรรมว่าครูมีกระต่ายด้วย มีเอ๋ด้วยและมีกระต่ายด้วย เพราะไปเปิดเผยกับเอ๋ว่าเหมือนไปได้เขาแล้ว แต่ครูบอกว่าไม่ใช่ เอ๋รู้สึกว่าทำไมครูต้องโกหก?
ไพบูลย์ : มันไม่มีอะไรต้องโกหก
เหมือนถ้าครูไม่ยอมรับตรงจุดนี้ เขาจะกลายเป็นคนผิดไปเรื่อยๆ?
ไพบูลย์ : ตอนนี้เขาไม่ผิด ขอร้องเอฟซีหรือใครอย่าพิพากษาใครเลย ให้ศาลพิพากษาดีกว่ามั้ย ถ้าจะดำเนินคดีหรือพิพากษากัน ตอนนี้คนแย่ที่สุดไม่ใช่แค่เรา ภรรยาผมก็แย่ และกระทบถึงคนรอบข้าง ยุ่งยากทนาย ยุ่งยากสังคมที่ต้องมาคิดตามว่าเป็นยังไง ก็เป็นกรรมของเขาที่ต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้และเป็นทุกข์เอง มันเป็นเรื่องแค่เราสองคน เราเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน เขาด่าผม ประจานผม ผมก็มีสิทธิ์โต้แย้งและปกป้องสิทธิ์ของผม
ไพบูลย์ : พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้แต่งงานกับหนู ไม่ได้ทำตามคำที่บอกว่าจะแต่ง
เอ๋ : วันนี้มันถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียกสิทธิ์นั้นคืนมา
ไพบูลย์ : หนูมีสิทธิ์เรียกได้ แต่มันจบไปแล้ว เข้าใจมั้ย 3 ปีเรามันจบไปแล้ว
เอ๋ : คุณจบคนเดียว คุณเป็นฝ่ายทำเรา คุณก็จบสิ
ไพบูลย์ : อิหยัง เอาอย่างนี้ ตั้งแต่เราคบกัน เราพูดกันด้วยความรักด้วยความดี มันไม่หลงเหลือกับหัวใจเธอเลยเหรอ
มันเป็นไปได้มั้ย ให้เขาตามที่เขาเรียกร้อง ค่าเลี้ยงดูเขา ค่าเลี้ยงดูลูก?
ไพบูลย์ : ที่จริงลูกผมเลี้ยงได้ ผมเลี้ยงมาตลอด ตั้งแต่เกิดมาจนเราหย่าร้างกัน เพิ่งไปอยู่กับเขาได้แค่เดือนเดียวเอง
เอ๋ : ลูกอยู่กับคุณตั้งแต่เกิดได้ยังไง ลูกกินนมเราจน 4 เดือน
ไพบูลย์ : หมายถึงเราก็อยู่ด้วยกัน เลี้ยงลูกด้วยกัน เราก็เป็นพ่อ ตัวก็เป็นแม่
เอ๋ : ไม่พูดเรื่องลูกได้มั้ย
ไพบูลย์ : เราก็อยากจบ สามารถเคลียร์กันได้ ผมไปหาเขา ไม่มีคำอะไรที่ต้องว่าเขา เรามีแต่หวังดี ตัวก็รู้ เราหวังดีมาตลอด
กับกระต่ายว่ายังไง?
ไพบูลย์ : ผมเคลียร์ไปแล้วว่าเรื่องต่อจากนี้เป็นเรื่องในอดีต อดีตแก้ไขไม่ได้แล้ว เรามาเริ่มต้นใหม่ นี่คือพาร์ทใหม่ในชีวิตเรา
ที่เอ๋บอกว่ายังอยากกลับไปอยู่กับเขา ทั้งที่มีกระต่าย?
ไพบูลย์ : มีก่อนหน้านั้น ที่ผมจะคบกับกระต่ายครับ ต้นปีเขาจะเปิดร้านเสริมสวยทำเล็บ ผมก็โอนเงินให้เขา 6 หมื่นบาท เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นพี่เป็นน้อง ผมทำดีที่สุดแล้วครับ
เรื่องมาเป็นแบบนี้ได้ไง?
ไพบูลย์ : นั่นน่ะสิครับ
มีมือที่สามทำให้เรื่องเป็นแบบนี้หรือเปล่า?
ไพบูลย์ : ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน ผมแฮปปี้มากวันที่ผมแถลงข่าว ไม่ได้พาดพิงถึงเขาเลย
มุมเอ๋บอกมาเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าคบกับเอ๋ ฉันท์สามีภรรยา แต่ไปได้กระต่ายในตอนนั้น คุณยืนยันว่าไม่ใช่ แต่เอ๋บอกอย่างนี้ แสดงว่าเอ๋โกหก?
ไพบูลย์ : ผมไม่ทราบ และไม่สามารถพิพากษาคนอื่นได้ ว่าคนอื่นคิดยังไง วิเคราะห์ยังไง
เอ๋ว่าไง?
เอ๋ : อย่าเพิ่งตายเด้อ อยู่รอความฉิบหายก่อนเด้อ
ไพบูลย์ : อ้ายคงไม่รอวันที่ฉิบหาย ขอโทษในสิ่งที่เคยทำให้เอ่ไม่สบายใจแม้ระยะเวลา 7-8 ปีที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เอ๋ไม่เคยมีความสุข ทุกข์ ไม่เคยให้สิ่งดีๆ ก็ขอโทษสิ่งนี้ แต่จากนี้แล้ว ก็ยินดีและหวังดีกับเอ๋เสมอ
เอ๋ : กล้าสาบานมั้ยว่าพี่ไม่ได้เป็นคนมาบอกเอ๋ว่ามีอะไรกับต่าย
ไพบูลย์ : สาบานครับตามที่เอ๋บอก ตอนนี้ต้องฟังก่อนว่าเราจบแล้ว อยากให้เอฟซีที่สนับสนุนเอ๋ อย่าทิ้งเอ๋ ไม่ได้พูดให้ตัวเองดูดี ผมอยู่ในวงการโซเชียล รู้ว่าถ้าหมดกระแสจะไม่มีอะไรเลย ผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น พี่เคยพูดใช่มั้ยว่าอยากให้เธอดัง
เอ๋ : ไม่ต้องพูด
ไพบูลย์ : โอเค ผมอยากให้เขามีงาน มีเงิน
เอ๋ : อยากรู้ว่าที่เคยบอกว่าเคยได้กับมัน ยกมือสาบานตอนนี้เลย
ไพบูลย์ : สาบานตอนนี้เลย จบหรือยัง และไม่ไปพูดถึงเรื่องเก่า ตัดทิ้ง เรามาเริ่มพาร์ทชีวิตใหม่ จะเดินทางยังไงก็แล้วแต่เรา ขอให้มีความสุขและประสบความสำเร็จ ผมปรารถนาดีอย่างเดียว
เอ๋ : ถ้าไล่ฟ้องคนนั้นคนนี้ไม่จบหรอก ประจักษ์ชัยมาดูแลเอ๋ ถ้าพี่หวังดีกับเอ๋ ไปฟ้องเขาทำไม
ไพบูลย์ : เอ๋อยู่กับพี่กี่ปี คนอื่นอยู่กับเธอกี่วัน
เอ๋ : คนอื่นไม่ได้ทำร้ายเอ๋ พี่อยู่กับเอ๋ แต่ทำร้ายเอ๋ เป็นผัวคนแรกที่โคตรระยำ
ไพบูลย์ : พี่ทำได้เท่านี้จริงๆ เท่าที่แรงพี่มี สิ่งที่จะทำให้ชีวิตเราดีคือหน้าที่การงาน เธอไม่ให้ทำ พี่ก็ยังดิ้นรนที่จะทำ ถ้าพี่ไม่ทำวันนั้น พี่ไม่มีวันนี้ ไม่มีวันมานั่งตรงนี้
ไปจุดธูปสาบานที่พระพรหมกันมั้ย?
เอ๋ : ไปเลยค่ะพี่หนุ่ม
ไพบูลย์ : ได้ครับ เธอต้องมาด้วยนะ
เอ๋ : ต้องไปอยู่แล้ว
มีอะไรอยากบอกประจักษ์ชัยมั้ย?
ไพบูลย์ : ไม่มีอะไรต้องบอกใคร เพราะทุกอย่างอยู่ในกระบวนการยุติธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจเน็ต เขียว เล่าเส้นทางชีวิตจากนางเอกร้อยล้าน สู่การเป็นหนี้ก้อนโต!
- แกรนด์ กรณ์ภัสสร ปลื้มเพลงใหม่กระแสดี ยังไม่มีแพลนแต่ง เด่นคุณ
- ต้อนรับวันฮาโลวีน บอย - เจี๊ยบ ชวนทุกคนมา Trick or Treat ที่ร้านชาบู