แม่เด็ก 10 ขวบ โต้ลูกกร่างสั่งลุง 62 กราบเท้า ขอจบศึกขายบ้านหนี หวั่นอิทธิพล (คลิป)

วันที่ 15 พ.ย. 61 ผู้ใช้สื่อโซเชียลมีการแชร์คลิปเด็ก 10 ขวบ กำหมัดใส่คนแก่ อายุ 62 ปี และบังคับให้กราบเท้า สาเหตุมาจากถูกตักเตือนว่าขี่รถจักรยานยนต์เร็ว หลังจากคลิปดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียล มีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเด็กชายคนดังกล่าว ที่กระทำต่อผู้สูงอายุ (อ่าน : เด็กชาย 10 ขวบ หัวร้อน กำหมัดบังคับ ลุง 62 ปี กราบเท้า ฉุนถูกเตือน ขี่มอเตอร์ไซค์เร็ว)

โดย นายบรรพต สีทาบุตร อายุ 62 ปี คู่กรณีของเด็ก 10 ขวบ เปิดเผยว่า สาเหตุนั้นมาจากเด็กคนดังกล่าว ขี่รถจักรยานยนต์ภายในซอยหมู่บ้านด้วยความเร็ว ตนจึงเข้าไปตักเตือน เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสม และเกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุต่อตนเองและคนรอบข้าง จึงได้ไปถามเด็กว่า "เป็นลูกใคร" เด็กก็ตอบว่า "เป็นลูกคน แล้วจะทำไม" ตนจึงจับที่เสื้อของเด็ก เพื่อขอดูชื่อบนเสื้อ และจะไปเตือนผู้ปกครอง และโรงเรียน ถึงพฤติกรรมดังกล่าว

หลังจากนั้น เด็กกับแม่เด็กก็ขี่รถจักรยานยนต์มาที่ร้านขายหมูปิ้ง อยู่หน้าโรงเรียนหัวโกรก แล้วมีการเจรจากัน จนกระทั่งเด็ก 10 ขวบ กำหมัดใส่ตน และบอกว่า "กราบตีนกู" เป็นเหตุการณ์ตามคลิปดังกล่าว

ด้าน น.ส.แจ่ม ทับเปลี่ยน อายุ 39 ปี แม่ของเด็กชายคนดังกล่าว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุคือช่วงเช้าวันนี้ ตนสั่งลูกชาย ให้ขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อกับข้าว แต่ลูกชายของตน ด้วยความเป็นเด็ก จึงขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็ว อยู่ภายในซอยหมู่บ้าน กระทั่งมาพบนายบรรพต คู่กรณี ซึ่งเจ้าตัวได้ตักเตือน และใช้มือกระชากเสื้อลูกตน ลูกตนจึงเกิดอารมณ์โมโห ประกอบกับด้วยความที่เป็นเด็ก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะถูกคนโตรังแก และลูกของตนไม่เคยถูกใครทำแบบนี้มาก่อน หลังจากเกิดเหตุ ตนพาลูกชายซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปร้านขายหมูปิ้งหน้าโรงเรียน เพื่อจะได้เคลียร์ปัญหากับนายบรรพต แต่ด้วยความเป็นเด็ก ลูกชายตนจึงกำหมัดใส่ ประกอบกับนายบรรพตดุด่าว่ากล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า "เดี๋ยวมึงจะอยู่หนองรีไม่ได้" จึงทำให้เด็กเกิดอารมณ์โมโหอย่างที่เห็นในคลิป และพูดว่า "ให้กราบตีนกู" เมื่อตนเองได้ยินดังนั้น จึงใช้มือตบปากลูกไปหนึ่งครั้ง และบอกลูกว่าไม่สมควรพูดกับคนโตแบบนี้ ก่อนพาลูกชายกลับบ้าน

หลังจากที่เป็นข่าว และคลิปดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล ทำให้ลูกชายตนตกเป็นจำเลยของสังคม กล่าวหาว่าเด็กมีพฤติกรรมที่รุนแรง พ่อแม่ไม่สั่งสอน ซึ่งไม่มีใครมาสอบถามตนเลยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และนายบรรพตได้กระชากคอเสื้อเด็กจริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้ ตัวเขาเองที่รู้ว่าทำจริงหรือไม่ และเพราะเหตุใดเด็กเกิดอารมณ์โมโหได้ขนาดนี้ หลังจากมีปัญหาดังกล่าว ตนเองตัดสินใจขายบ้านทิ้ง เพื่อให้จบปัญหา เพื่อให้ลูกชาย และนายบรรพตไม่ต้องมาเจอกันอีก ไม่ต้องเกิดปัญหาบานปลาย โดยจากนี้ ตนจะนำลูกย้ายไปเรียนอยู่กับญาติ ที่ จ.พิษณุโลก