ล่า ตชด.หัวร้อน ไม้ฟาดลุง 61 ดับคาที่ ลูกร่ำไห้ ถามฉุนปาดหน้าเป็นถึงตำรวจ ทำไมไม่ยั้งสติ (คลิป)

จากกรณีวันที่ 16 พ.ย. ชาวบ้านพบศพชายไม่ทราบชื่อ ถูกทำร้ายด้วยของแข็งมีบาดแผลบริเวณศีรษะ บริเวณริมถนนสาธารณะเลียบคลองลำห้วยกระเสียว ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี

วันที่ 18 พ.ย. 61 ทีมข่าวลงพื้นที่ สภ.หนองหญ้าไซ แต่ไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจของคดี จากการสอบถาม ร.ต.อ.วสันต์ อุบลบาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เผยว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายเสียชีวิตที่บริเวณริมถนนสาธารณะเลียบคันคลองลำห้วยกระเสียว หมู่ 14 ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไซ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชาญ ยางงาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.คมศร ศรีสุวรรณ รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี แพทย์โรงพยาบาลหนองหญ้าไซ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนสาธารณะเลียบคลองลำห้วยกระเสียว พบศพนายเกียรติศักดิ์ แก้วขาว อายุ 61 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้น และนุ่งกางเกงขาสั้นนอนหงายจมกองเลือด ตรวจสอบพบบาดแผลถูกตีด้วยของแข็ง ที่บริเวณกลางศีรษะมีบาดแผล ลึกถึงกะโหลกศีรษะ แขนด้านซ้ายมีรอยช้ำคล้ายถูกของแข็งตี ใกล้ศพพบหมวกตกอยู่ 1 ใบ ห่างออกไปพบรองเท้าแตะสีน้ำเงินตกอยู่ 1 ข้าง และรองเท้าแตะสีดำ ตกอยู่ริมถนนด้านบนอีก 1 ข้าง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พบท่อนไม้เปื้อนเลือดตกอยู่ที่ถนนทางแยกไปฝั่งตรงข้ามประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟสีขาวคาดดำของผู้เสียชีวิต จอดอยู่

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองหญ้าไซ พาทีมข่าวเดินทางมาที่ถนนคันคลองลำห้วยกระเสียว หมู่ 14 ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี โดยจุดที่พบศพคือบริเวณป่ากระถินชายคลอง บริเวณถนนพบคราบเลือดของนายเกียรติศักดิ์ แก้วขาว ผู้เสียชีวิต เมื่อเดินลงไปตรงป่ากระถิน ก็จะพบว่ามีธูปปักอยู่ แล้วเมื่อเดินถัดมาอีกฝั่งของถนนก็จะจอดอยู่อีกฝั่งถนน

หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของ ด.ต.เดิม กาฬภักดี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 70 เมตร เมื่อไปถึง พบว่า มีคนอยู่ในบ้าน 2 คน หนึ่งในนั้นคือภรรยาของคนก่อเหตุ แต่ไม่มีบุคคลใดให้สัมภาษณ์

จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตนั่งดื่มสุรากับเพื่อน จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างทางพบกับ ด.ต.เดิม กาฬภักดี อายุ 44 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากดื่มสุราเช่นกัน คาดว่า นายเกียรติศักดิ์ น่าจะมีอาการเมา แล้วขี่รถจักรยานยนต์เซไปมา ปาดหน้ารถของด.ต.เดิม หลายครั้ง ทำให้มีปากเสียงกันขึ้น ก่อนที่ด.ต.เดิม จะบันดาลโทสะ ใช้ไม้ฟาดนายเกียรติศักดิ์จนเสียชีวิต

จากนั้นก็โทรศัพท์มาสารภาพกับตำรวจ ก่อนจะหลบหนีไป ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ พร้อมติดต่อผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.เดิม ผู้ก่อเหตุได้รับการประสานว่าจะพาเข้ามอบตัว แต่ยังไม่ทราบวันเวลาแน่ชัด

ด้าน นายมะหันต์ ทองไพวรรณ น้องสะใภ้ของผู้เสียชีวิต เผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ 2 คัน หลังจากนั้นมีเสียงเอะอะโวยวาย แต่ได้ยินไม่ชัด โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 15 นาที เสียงจึงเงียบหายไป กระทั่งมีเสียงรถเจ้าหน้าที่ตำรวจขับมาจึงออกไปดู และพบศพนายเกียรติศักดิ์ นอนหงาย ใกล้กันพบท่อนไม้ยูคาลิปตัส 1 ท่อน และไม้กระดานหนาประมาณ 1 นิ้ว แตกออกเป็นเสี่ยง นายมะหันต์ เผยว่า ปกติแล้วนายเกียรติศักดิ์ ผู้เสียชีวิตดื่มเหล้าเป็นประจำ แต่ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใคร สำหรับเหตุการณ์นี้ถือว่ารุนแรงเกินไป โดยหลังจากนี้ตนก็ต้องดูแลพี่สาวซึ่งเป็นภรรยของนายเกียรติศักดิ์ต่อไป

จากนั้นทีมข่าวเดินทางมาที่วัดราษฎร์บำรุง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดบำเพ็ญกุศลศพนายเกียรติศักดิ์ แก้วขาว ผู้เสียชีวิต พบว่าเจ้าภาพงานคือตำรวจตระเวนชายแดน โดยในวันนี้ พ.ต.อ.อำนาจ หาญไฟฟ้า ผกก.ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หัวหน้างานของด.ต.เดิม ผู้ก่อเหตุได้คุยกับญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งรับปากว่าต้องตามตัวผู้ก่อเหตุให้ได้ และจะไม่เอาไว้

นายสมเกียรติ แก้วขาว ลูกชายของผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อวันเกิดเหตุ (16 พ.ย.) แม่เลี้ยงโทรศัพท์มาบอกว่า พ่อถูกตีเสียชีวิต เมื่อได้ยินหัวอกคนเป็นลูก วินาทีนั้นคิดว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมากระทำกับพ่อตนนั้นถูกหรือไม่ ซึ่งหากผู้ก่อเหตุไปกระทำกับพ่อของตัวเองเองบ้างจะรู้สึกเช่นไร ประกอบกับเท่าที่ทราบคนก่อเหตุก็ดื่มสุรามา แล้วกระทำการลงไปด้วยความขาดสติซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

นายสมเกียรติ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า พ่อเป็นคนดี แต่เวลาดื่มสุราก็ต้องมีอารมณ์โมโหบ้างตามประสาของคนดื่ม แต่การเสียชีวิตของพ่อตนในครั้งนี้คิดว่าไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องการด่าทอ ส่วนในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจหัวหน้างานของผู้ก่อเหตุมาพูดคุย ตนก็รู้สึกอุ่นใจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่า จะไม่นิ่งดูดายกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนจึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว