สูญครึ่งล้าน! หนุ่มสมองพิการเปย์สาวพึ่งหมอผีทำเสน่ห์ สาวฉะถูกตื๊อให้มาก็รับ ขอคืนเงิน 40 ปี (คลิป)

จากกรณีที่หญิงคนหนึ่งส่งเรื่องร้องเรียนกับทนายโนบิตะและหมอปลาว่าเรื่องราวของปัญหาและความเดือดร้อนของครอบครัว มีอยู่ว่า น้องชายชื่อสไปร์ท เป็นเด็ก CP หรือ Cerebral Palsy พิการแต่กำเนิด กินข้าวเองไม่ได้ อาบน้ำเองไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองเกี่ยวกับเรื่องกิจวัตรประจำวันของตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนป้อนข้าว อาบน้ำ อุ้มนอน ทุกอย่าง

แต่สิ่งที่เขาทำได้คือเขาเล่นโทรศัพท์ ด้วยความพิการครอบครัวเลยสงสารอยากได้อะไรก็พยายามหาให้เพื่อทดแทนสิ่งที่ขาด จนสไปร์ทได้พบกับหญิงที่ชื่อ น.ส.ป๊อป อายุ 23 ปี หลอกให้รัก และให้น้องชายของตนโอนเงินกว่า 5 แสนบาทแล้วนั้น

วันที่ 9 พ.ย.64 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ ซ.เอกชัย 131 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เป็นอู่ทำสีรถยนต์ พบกับนางสุภาภรณ์ โตงาม อายุ 57 ปี แม่ของสไปร์ท เล่าว่า น้องสไปร์ท อายุ 27 ปี รู้จักกับ น.ส.ป๊อป อายุ 23 ปี ตั้งแต่สมัยที่ตนอยู่บ้างหลังเก่า แถวกำนันแม้น ซ.5 วัดวิสุทธารัตนาราม จากนั้น ตนและครอบครัวได้ย้ายที่อยู่ที่ ซ.เอกชัย 131 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ ได้ประมาน 8-9 ปี ช่วงนั้นลูกชายของตนขาดการติดต่อกับ น.ส.ป๊อป จนกระทั่งตนได้มารู้ว่าลูกชายได้ติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก

ซึ่งลูกชายของตนเป็นคนพิการตั้งแต่กำเนิด ลูกชายไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เล่นโทรศัพท์มือถือได้เพียงอย่างเดียว ครอบครัวของตนพอมีฐานะจากการทำธุระกิจ ตนจะให้เงินเดือนลูกชายเดือนละประมาณ 15,000 บาท เพื่อให้ลูกชายได้เก็บไว้ใช้จากการสั่งของในออนไลน์

ตนให้เงินเดือนลูกชายได้ประมาณ 2 ปี ตนเริ่มรู้สึกระแคะระคาย จากที่ลูกน้องคนที่คอยดูแลลูกชาย บอกกับตนว่าลูกชายแอบโอนเงินให้ผู้หญิงที่ชื่อ น.ส.ป๊อป ตนจึงถามว่าโอนไปเท่าไร ลูกน้องบอกกับตนว่าลูกชายโอนเงินไปให้ผู้หญิงเป็นหมื่น ตนจึงไปปรึกษากับนายโทมัส อายุ 26 ปี ลูกชายคนเล็ก ลูกชายคนเล็กจึงบอกว่าให้แอบเช็กโทรศัพท์ พบว่าลูกชายของตนโอนเงินให้สาวตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 3 ปี

ตนมีหลักฐานสลิปการโอนเงิน ตั้งแต่ช่วงปี 62-63 รวมแล้ว 441,400 บาท ไม่รวมก่อนหน้าที่ตนไม่รู้เรื่อง และมียอดปัจจุบันปี 2564 ที่ตนไม่สามารถขอสเตตเมนต์ได้ แต่ตนมีหลักฐานเป็นแชตเฟซบุ๊กระหว่างลูกชายของตน คุยกับ น.สป๊อป ซึ่งทักมาขอให้ลูกชายของตนโอนเงินให้เรื่อย ๆ พอได้ช้าก็จะทวง จะด่าลูกชายตน แต่ถ้าได้ก็จะคุยดี ๆ

ที่ผ่านมาตนและครอบครัวได้ติดต่อฝ่ายหญิงมาแล้วหลายรอบ อีกฝ่ายบอกว่าไม่ได้เป็นคนบอกว่าให้ลูกชายโอน แต่ลูกชายของตนโอนให้เอง ตนจึงขอว่าถ้าหากลูกชายของตนโอนเงินให้ กรุณาระงับบัญชีได้ไหม หรือโอนเงินมาคืนที่บัญชีของตนก็ได้ ตนให้ทั้งเบอร์ทั้งเลขบัญชีไป เขาก็รักปากว่า "ได้ค่ะ" แต่สุดท้ายก็ไม่เคยโอนเงินคืน

จนกระทั่งตนบอกให้ลูกชายคนเล็กปรินต์สเตตเมนต์การเดินบัญชีของนายสไปร์ทเพื่อจะนำไปแจ้งความ แต่ไม่สามารถแจ้งความได้ ต้องไปยื่นเรื่องเป็นผู้อนุบาล เพื่อเป็นผู้ปกครองนายสไปร์ทที่ศาลก่อน เพราะนายสไปร์ทถือเป็นบุคคลไร้ความสามารถ ตนจึงไปติดต่อทนายความ ทนายบอกกับตนว่าอาจจะให้เป็นทนายในกรณีนี้ให้ ต้องเสียค่าจ้างทนาย 100,000 บาท ซึ่งตนไม่มีให้

ก่อนตอนที่ลูกชายยังไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามา ลูกชายเป็นปกติ ไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง ไม่ทำร้ายข้าวของ แต่ตั้งแต่มีเรื่องเวลาที่ตนไม่ให้เงินเพราะกลัวว่าจะเอาเงินไปให้ผู้หญิง ลูกชายตนมักจะด่าทอ ทำท่าทางไม่พอใจ และชอบบังคับรถวิลแชร์มากระแทกที่ขาตน จนเป็นรอยฟกช้ำ

ต่อมาพักหลังลูกชายของตนชอบสั่งของเกี่ยวกับการทำเสน่ห์จากเฟซบุ๊ก ซึ่งลูกชายของตนเป็นคนค้นหาข้อมูลมาเอง เมื่อสั่งของมาแล้ว จะสั่งให้คนดูแลจุดธูป นำมาปักที่หน้าห้อง ตนจึงถามลูกชายว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ลูกชายเล่าว่าผู้หญิงมีมือที่สาม ลูกชายของตนไม่เคยบอกหรือให้ข้อมูลอะไรเลย ยิ่งตอนนี้แม้แต่โทรศัพท์ของลูกชายตนก็จับไม่ได้ เพราะลูกชายจะแสดงท่าทีอาวะวาด โวยวายตลอด จนตนคิดว่าลูกชายของตนอาจจะโดนของจากที่สั่งมาทำเสน่ห์ เพื่อหวังให้ผู้หญิงรักและหลง ตนอยากวอนหมอปลามาช่วยดูพฤติกรรมลูกชายของตนว่าโดนคุณไสยหรือไม่ และจะดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างไรบ้าง ตนไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว

นางสาวเกศณัฐกุล กิตติ์เดชาปิติวัชร หรือ นัท อายุ 45 ปี เผยว่า ตนเป็นผู้ดูแลของสไปร์ท ที่ขอความช่วยเหลือไปทางทนายโนบิตะและหมอปลา เพราะเดิมทีตนเป็นพยาบาล และสามารถอ่านภาษามือสื่อสารกับสไปร์ทได้ ที่ต้องร้องเรียนไปทางทนายกัยหมอปลาเพราะว่าเคยไปแจ้งความที่ สน.แสมดำแล้ว ไม่รับแจ้ง เจ้าหน้าที่บอกว่าตนไม่ใช่ผู้อนุบาลตามกฎหมาย ต้องมีคำสั่งจากศาลถึงดำเนินตามกฎหมายได้ ทางสไปร์ทมีบัตรคนพิการและมีชื่อแม่เป็นผู้ดูแลอยู่ ตนเป็นห่วงแม่ของสไปร์ทและเห็นใจ ทางด้านการเงิน สไปร์ทมาขอเงินแม่ทุกวันตั้งแต่ 50-300 บาท แรก ๆ โอนผ่านออนไลน์ พอโดนจับได้ก็ไปโอนที่ร้านสะดวกซื้อหน้าบ้าน จนพนักงานจำชื่อได้

ล่าสุด แม่บ้านที่ดูแลได้เล่าให้ฟังว่าสไปร์ทกดโทรศัพท์ให้แม่บ้านคุยกับผู้หญิงคนนั้นว่าตอนนี้ตนเองโอนเงินไม่ได้ เพราะโทรศัพท์พัง ซึ่งจริง ๆ แล้วสาเหตุคือไม่ได้เงินจากแม่ แต่ต้องให้แม่บ้านพูดโกหก ก่อนหน้านี้สไปร์ทใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่มีพฤติกรรมโวยวาย เริ่มมีปัญหาตั้งแต่ตอนที่จับได้ว่าสไปร์ทโอนเงินแล้วแม่ไม่ให้เงิน หลังจากนั้นพฤติกรรมของสไปซ์ก็เปลี่ยนไป

ตนได้อยากให้หมอปลาเข้ามาช่วย เพราะว่าสไปร์ทมีการค้นคว้าการทำเสน่ห์ยาแฝด ตนมีหลักฐานอยู่ในไลน์ เพราะว่าทางสำนักทำเสน่ห์ได้โทรมาและสไปร์ทคุยกับเขาไม่ได้ จึงให้ตนเองนั้นคุยแทน บางสำนักโทรมาว่าสไปซ์ได้โทรไปทางสำนักเป็น 10 รอบ เพื่ออยากทำเสน่ห์ หวังจะให้ น.ส.ป๊อป รักหลงและยอมมาอยู่ด้วย ตนคิดว่าคนที่พูดไม่ได้และทำเสน่ห์นั้นกลัวว่าของจะเข้าตัว ทางสไปร์ทไม่สามารถท่องคาถาเองได้ จึงขอให้ผู้ดูแลช่วยท่อง เสร็จแล้วนำไปฝังที่ใต้ดินแล้วจุดทุกวันพุธ ล่าสุด ไปเดินห้างสรรพสินค้าก็ร้องโหยหวนจะขอเงินแม่ 2,000 บาท เพื่อโอนเงินให้สาว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ป๊อป ทางโทรศัพท์ เล่าว่า ตนได้รู้จักกับสไปร์ทตั้งแต่เด็ก และได้แยกย้ายกันไป จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว สไปร์ทได้แอดเฟซบุ๊กของตนมาพูดคุยกันวิดีโอคอลกัน นายสไปร์ทเห็นหน้าตาตนปกติ และตนยังได้บอกนายสไปร์ทว่าตนเคยมีครอบครัวมาแล้ว มีลูกแล้ว 2 คน นายสไปร์ทรับรู้ทุกอย่าง บอกว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูตน ซึ่งตนไม่ได้คบกับนายสไปร์ทในฐานะแฟน เพราะตนเคยคุยกับนายสไปร์ททุกครั้งบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกับสไปร์ท ตนอยากมีชีวิตที่อิสระ

นายสไปร์ทเคยโทรมาหาตนเวลาทำงาน ตนจึงบอกนายสไปร์ทไปว่าตนไม่สะดวกคุย นายสไปร์ทโทรหาตนแทบจะทุกเวลา ทำให้ตนเสียการเสียงาน จนหัวหน้าด่าทอตน ยึดโทรศัพท์ ตำหนิ ซึ่งตนพูดกับนายสไปร์ทว่าหากทำแบบนี้ตนจะไม่คุย นายสไปร์ทจึงถามตนว่าทำไมต้องทำงานตลอด ไม่ต้องทำก็ได้ เดี๋ยวโอนเงินให้เดือนละ 20,000-30,000 บาท นายสไปร์ทจะคอยถามว่าค่ารถส่งเท่าไร ค่าห้องส่งเท่าไร ค่าโทรศัพท์เท่าไร ซึ่งตนเคยขอยืมเงินนายสไปร์ทมาจ่ายค่างวดรถเพียงครั้งเดียว หากเงินเดือนออกตนจะโอนคืนให้ พอถึงเวลาตนจะโอนเงินคืน ตนบอกให้นายสไปร์ททิ้งเลขบัญชีไว้ให้ แต่ตนไม่เคยได้เลขบัญชีเลย

ทั้งนี้ เวลานายสไปร์ทวิดีโอคอลมาทำท่าทาภาษามือ ตนแปลออกบ้างไม่ออกบ้าง นายสไปร์ทห้ามตนพิมพ์แชตเฟซบุ๊กว่าไม่ต้องคืน เอาเงินไปเลย จะรับผิดชอบค่าใช่จ่ายให้ตนเองทุกอย่าง ตนบอกกับนายสไปร์ทว่าไม่ต้องให้เงินตนแล้ว

ในบางครั้งตนรู้สึกเสียเวลาชีวิต แต่ตนก็คิดว่าอย่างน้อยคุยเป็นเพื่อนนายสไปร์ทไป ก่อนหน้านี้คนที่ดูและนายสไปร์ท ได้โทรมาบอกตนว่า อย่าทำแบบนี้กับสไปร์ทเลย เดี๋ยวเครียดคิดมาก น่าสงสาร และบอกว่าสไปร์ทขู่จะฆ่าตัวตาย ตนยืนยันว่าตอนนี้ตนโสด ไม่มีใคร และตนยังอยากทำงาน ไม่อยากใช้ชีวิตผูกมัดกับใคร ตนมีลูกและมีภาระที่ต้องดูแล หากทางบ้านของนายสไปร์อยากให้ตนรับผิดชอบ ตนคงไม่สามารถใช้เป็นเงินก้อนได้ ตนทยอยคืนเดือนละ 1,000-2,000 บาทได้ แต่แม่ของนายสไปร์ยบอกว่าไม่ต้องการ และด่าทอตนด้วยคำหยาบ

สุดท้ายตนอยากบอกกับทางครอบครัวนายสไปร์ทว่าหากจะแก้ไขเรื่องทั้งหมด ให้แก้ที่ต้นเหตุ ให้แก้ที่ลูกชายตัวเองก่อน เพราะตนรู้มาว่านายสไปร์ทไม่ได้มีพฤติกรรมให้เงินหญิงเป็นครั้งแรก มีมาก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 คนแล้ว และตอนนี้ก็ก็มั่นใจว่าไม่ใช่ตนคนเดียว ถ้าไม่ใช่ตนก็ต้องเป็นคนอื่นอยู่ดี ซึ่งตนคิดว่าตนเป็นคนพิเศษสำหรับนายสไปร์ท แต่สุดท้ายไม่ได้พิเศษกว่าใครเลย ตนไม่ได้คิดจะหลอกลวง ตนบริสุทธิ์ใจ แต่นายสไปร์ทเองที่เต็มใจให้ส่งเสียเลี้ยงดูตนเอง