จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายนายจักรพงษ์ สมวิลัย อายุ 21 ปี หนุ่มช่างไฟฟ้า พร้อมพวกรวม 4 คน และมีอีก 1 คน ถูกลูกหลงจนได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ซึ่งกรณีนายจักรพงษ์นั้นภาพวงจรปิดจับภาพความรุนแรงได้อย่างชัดเจนจนนำไปสู่การจับกุม ซึ่งเมื่อวานนี้ (19 พ.ย. 61) พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้แถลงผลการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 12 คน เป็นเยาวชนถึง 4 คน และได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดได้รับการปล่อยตัวแล้วนั้น (อ่าน :
ไม่มีมวยล้มแน่นอน! ตร.แจงปล่อยตัว 12 โจ๋ทำร้ายหนุ่มช่างไฟ เพราะผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเอง)
วันที่ 20 พ.ย. 61 นายจักรพงษ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยบริเวณลำตัวมีรอยช้ำเป็นสีม่วงทั่วร่าง มือด้านขวาใส่เฝือกไว้ ขณะที่บริเวณศีรษะมีรอยแผลเป็นจำนวนมาก
นายจักรพงษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังปวดศีรษะ กระดูกนิ้วด้านขวาแตกต้องรอผ่าตัดให้เข้ารูป ซึ่งยังไม่มีกำหนดที่จะออกจากโรงพยาบาล ส่วนตัวกังวลและหวาดระแวงว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้ายอีก หลังจากทราบข่าวว่าผู้ต้องหาบางส่วนได้รับการปล่อยตัว ส่วนที่มีข้อมูลว่าอีกฝ่ายเป็นลูกตำรวจนั้น ตนก็ได้ยินข่าวมาบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ตนเองไม่ทราบว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงเข้ามาทำร้าย แต่ยืนยันว่าไม่ได้ไปทำร้ายกลุ่มผู้ต้องหาก่อน โดยโต๊ะตนกับอีกฝ่ายก็อยู่ใกล้กัน และชนแก้วกันปกติ สักพักก็มีคนมาต่อยหน้าตน ตนได้ขอโทษ สอบถามว่าทำอะไรผิด อีกฝ่ายก็ไม่ฟัง ได้แต่ผลักเพื่อนตน และต่อยเพื่อนตนไปที่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะเกิดการตะลุมบอนกัน จากนั้นการ์ดก็เข้ามาแยก โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ตนสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากกลุ่มผู้หญิงที่อยู่โต๊ะด้านหลัง ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปชนแก้วด้วยอาจจะชอบกัน จึงไม่พอใจกลุ่มตนที่อยู่โต๊ะใกล้ ๆ ซึ่งตนก็ไม่ได้เข้าไปชนแก้วกับกลุ่มผู้หญิงดังกล่าวแต่อย่างใด ตอนนี้เมื่อทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาพยายามฆ่าด้วยนั้น ตนก็สบายใจขึ้น
ด้าน
นางผึ้ง (นามสมมติ) แม่ของนายปราโมทย์ ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนได้ไปเยี่ยมฝ่ายผู้เสียหายมาแล้ว โดยยอมรับว่าลูกตัวเองผิด แต่ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องค่าเสียหาย ส่วนที่กังวลว่าฝ่ายตนเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล กระทั่งได้รับการปล่อยตัวออกมานั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนทราบว่าลูกตัวเองผิดจึงพาเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็แจ้งข้อหา และปล่อยตัวกลับมาก่อน เพราะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ยืนยันว่าตนไม่ได้มีอิทธิพลใด ๆ เพราะตนประกอบอาชีพทำนาหาเช้ากินค่ำ เรื่องทั้งหมดยอมรับผิดทุกอย่าง เพราะไม่เคยสอนให้ลูกเป็นแบบนี้ รวมถึงเข้าใจอีกฝ่ายเพราะเป็นแม่คนเหมือนกัน
ขณะที่
นางดา (นามสมมติ) แม่นายธาราเทพ ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ลูกตนก็สำนึกในสิ่งที่ทำ โดยได้เข้ามอบตัวไปแล้ว ส่วนที่ไปตีอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บเพราะด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ในเมื่อลูกตนสารภาพผิดแล้ว อีกฝ่ายอยากให้คดีถึงที่สุดตนก็อยากถามว่า ที่สุดคือตรงไหน ส่วนเหตุที่ได้รับการปล่อยตัว ก็เพราะรับสารภาพแล้ว จะให้ลูกชายตนติดคุกเพื่ออะไร เพราะทุกวันนี้ชีวิตเจ้าตัวก็ล่มไปแล้ว รับราชการก็ไม่ได้ ต่อไปนี้จะให้ลูกชายตนทำอะไรกิน แล้วจะเอาอะไรกับลูกตนอีก
ส่วนเรื่องค่าเสียหายอีกฝ่ายไม่เคยพูด มีแต่บอกให้คดีถึงที่สุดเพียงอย่างเดียว ซึ่งการจ่ายเงินตนจะต้องจ่ายค่าอะไร ตนเองก็เคยเข้าไปถาม แต่อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาแรง ๆ เช่น "ยังมีหน้ามาเยี่ยมอีกหรือ ลูกชายทำขนาดนี้" ตนอยากถามกลับว่า ทั่วโลกมีคดีลูกตนคนเดียวหรือ ที่ไปทุบตีคนอื่นในสถานที่อโคจร ซึ่งลูกชายตนก็ไม่ได้เจตนา โดยตนก็เจ็บและเสียใจมาก ยืนยันว่าไม่ได้ใช้เส้นสายสามีที่เป็นตำรวจ เพราะสามีเสียชีวิตไปนานแล้ว