กรณี เสี่ยโจ้ ถูกปล่อยตัวหลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีฟอกเงิน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) ชี้แจงกรณีนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานี ถูกปล่อยตัว หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง ในคดี พ.ร.บ.ฟอกเงิน เมื่อปี2558 โดยตำรวจมีความเห็นแย้งเรื่องที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องส่งเรื่องต่อให้กับอัยการสูงสุด ในการพิจารณาสั่งฟ้อง ส่วนเรื่องเหตุผลของการเห็นแย้ง ต้องให้ทางคณะกรรมการเป็นผู้ชี้แจงในประเด็นดังกล่าว ต่อไป
ทั้งนี้ ประเด็นที่นายสหชัย ยังมีคดีค้างเก่าที่ศาลปัตตานี และศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน แต่ไม่ได้ถูกอายัดตัวนั้น พล.ต.ท.จิรภพ เห็นว่า ตำรวจทำงานเต็มที่ และได้มีการสอบถามไปยังศาลจังหวัดปัตตานี ให้ตรวจสอบหมายจับของเสี่ยโจ้แล้ว แต่ทางศาลแจ้งว่าไม่มีหมายจับในระบบ ตำรวจกองปราบต้องควบคุมตัวเสี่ยโจ้ ส่งศาลจังหวัดสงขลา และ ยังทำเอกสารไปยังศาล จ.ปัตตานี เพื่อขอให้ตรวจสอบเอกสารหมายจับอีกครั้ง จนในที่สุดทางศาลปัตตานี ได้หาจนพบหมายจับคดีที่มีพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน จึงส่งให้กับกองปราบ ในช่วงเย็นของวันเสาร์ ที่ 6 พ.ย. จนนำไปสู่การค้นบ้านพักเสี่ยโจ้ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม จากกรณีตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับกุม "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" หรือนายสหชัย เจียรเสริมสิน ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินค้าน้ำมันเถื่อน ได้เมื่อวันที่่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นนำตัวส่งพนักงานอัยการจังหวัดสงขลา พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ตำรวจกองปราบอ้างว่าตรวจสอบหมายจับ คดีหนีศาลที่ปัตตานี ไม่พบหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ในสารบบ
ด้าน ศาลจังหวัดปัตตานี ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏข่าวเผยแพร่ตามสื่อมวลชนต่าง ๆ กรณีนายสหชัย หรือโจ้ เจียรเสริมสิน ได้รับการปล่อยตัวไปหลังจากพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
โดยมีการให้ข้อมูลว่า เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมนายสหชัย หรือโจ้ ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่60/2564 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน แต่เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจส่งตัวนายสหชัย หรือโจ้ แก่พนักงานอัยการแล้ว นายสหชัย หรือโจ้ได้รับการปล่อยตัวไป โดยที่ไม่ได้ส่งตัวนายสหชัยหรือโจ้ เพื่อไปบังคับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดปัตตานี ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ความผิดเกี่ยวกับดวงตรา
เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจตรวจสอบในสารบบแล้วพบว่ามีหมายจับนายสหชัยหรือโจ้ ของศาลจังหวัดสงขลาเพียงหมายจับเดียว โดยไม่พบหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี เจ้าพนักงานตำรวจจึงมิได้นำตัวนายสหชัย หรือโจ้ส่ง ไปยังศาลจังหวัดปัตตานี นั้น
สำนักงานศาลยุติธรรมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่าศาลจังหวัดปัตตานีมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่2777/2557 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2557 ให้ลงโทษจำคุกนายสหชัย หรือโจ้ มีกำหนด 1 ปี 9 เดือน ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ความผิดเกี่ยวกับดวงตราฯ แต่นายสหชัย หรือโจ้ หลบหนีจากการควบคุมของเจ้าพนักงานไปในวันดังกล่าว
ศาลจังหวัดปัตตานีจึงได้ออกหมายจับ ที่ 223/2557 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2557
และส่งหมายจับฉบับดังกล่าวให้แก่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านแหลม แล้ว ตามหนังสือศาลจังหวัดปัตตานี ที่ ศย.309.007/8711 และ ศย.309.007/8712 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2557 ตามลำดับ
ทั้งเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว โดยพิพากษายืน ศาลจังหวัดปัตตานีก็ได้ออกหมายจับ ที่ 68/2558 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม2558 เพื่อจับนายสหชัยหรือโจ้ มารับโทษตามคำพิพากษาด้วยแล้ว
และได้ส่งหมายจับฉบับใหม่นี้ให้แก่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านแหลม แล้วเช่นกัน ตามหนังสือศาลจังหวัดปัตตานี ที่ ศย.309.007/4128 และ ศย.309.007/4129 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 ตามลำดับ จึงชี้แจงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กองปราบ แถลงจับ เสี่ยโจ้ เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน ภาคใต้
- หอการค้าไทย เผย ราคานํ้ามัน สูงถึงปีหน้า ทำใจสินค้าขึ้นราคาตาม
- กบง. มีมติใช้เงินกองทุนกด ราคานํ้ามัน ดีเซล ให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร