อมรินทร์ ทีวี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติของนายศรายุธ พุตตาแต้ ชาวบ้านดอนมัน ตำบลโคกกลาง อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา และญาติได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านดอนมัน ตำบลโคกกลาง
โดยนางสาวสุนิภา พุตตาแต้ น้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าในคืนวันเกิดเหตุ ก่อนที่ผู้ตายจะออกไปข้างนอกบ้าน ได้บอกกับที่บ้านว่าจะออกไปเคลียร์กับคนที่ชื่อ "น้ามาศ" จากนั้นทางบ้านก็ไม่สามารถติดต่อพี่ชายได้อีก และต่อมาตนได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลประทายว่าพี่ชายเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ริมถนนสายประทาย-ชุมพวง
จากการตรวจสอบโดยละเอียด พบว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นของผู้ตาย ไม่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับได้จอดนิ่งอยู่ริมถนน ตรงจุดที่ผู้ตายนอนเสียชีวิต ไม่มีร่องรอยของการเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด รวมทั้งร่างกายผู้ตายก็มีบาดแผลที่ศีรษะ ตรงหว่างคิ้ว และมีรอยฟกช้ำ แขนหัก แต่กลับไม่มีร่องรอยบาดแผลการล้มไถลไปกับพื้นจากการเกิดอุบัติเหตุ คล้ายเป็นการจัดฉากให้เหมือนเกิดอุบัติเหตุหรือไม่
ซึ่งญาติผู้ตายยังติดใจกับสาเหตุของการเสียชีวิตว่าน่าจะเกิดจากการฆาตกรรมมากกว่าเกิดอุบัติเหตุ และเวลาผ่านมามากกว่า 20 วันแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าจากพนักงานสอบสวน จึงตัดสินใจเก็บศพผู้ตายไว้จนกว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้าย หรือสามารถสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ จากนั้นญาติจึงจะนำศพไปฌาปนกิจทางศาสนา
ทีมข่าวได้ไปตามหากล้องวงจรปิดตามเส้นทางช่วงเวลาก่อนจะพบศพผู้ตาย เป็นเส้นทางไปกลับบ้านผู้ตายไปยังบ้าน จุดที่ 1 จะเป็นเส้นทางที่ผู้ตาย ขี่รถจยย.กลับบ้าน ผ่านหน้ากล้องไปในเวลา 00.13 น. เพียงคนเดียว จากนั้นก็มีรถกระบะต้องสงสัยขับตามผู้ตายผ่านหน้ากล้องไปใน เวลา 00.25 น. เห็นรถจยย.วัยรุ่น 3 คัน ย้อนศรจากจุดที่ผู้ตายและรถกระบะผ่านไป และรถกระบะคันนั้นเองขับย้อนศรกลับมา ในเวลา 02.21 น. ซึ่งช่วงเวลานี้มีคนพบศพผู้ตายแล้ว
ส่วนกล้องจุดที่ 2 จะจับภาพนาทีที่รถกระบะต้องสงสัย ขับนำหน้ารถผู้ตายผ่านกล้องไปในเวลา 00.38 น. และจะเห็นรถจยย.ของผู้ตายขี่ผ่านหน้ากล้องไปในเวลา 00.39 น. จุดนี้ห่างจากจุดที่พบศพผู้ตายแค่ 1 กิโลเมตร จุดที่พบศพเป็นทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและไม่มีไฟส่องสว่าง
ล่าสุดวันที่ 12 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ที่บ้านของผู้ตาย ในหมู่ 7 บ้านดอนมัน ตำบลโคกกลาง อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา โดยบรรยากาศที่บ้านเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพ่อกับแม่ ก็ยังคงเฝ้าศพลูกชายอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน หาข้าวหาน้ำเคาะโลงศพให้ลูกกินข้าว บอกว่ามีอะไรก็มาบอกกันนะลูก พี่เขามาช่วยเรื่องคดีแล้ว
นางแพงศรี นายทองสุข แม่และพ่อของผู้ตาย กล่าวว่า ที่ต้องเอาศพลูกชายมาไว้ที่ใต้ถุนบ้านโดยไม่เผา ก็เพราะว่าอยากจะได้ความเป็นธรรมและความชัดเจนว่าลูกชายตายอย่างไร ซึ่งตอนนี้ตำรวจก็สรุปไม่ได้ว่าลูกชายตายเพราะอุบัติเหตุหรือถูกฆาตกรรม
ส่วนไทม์ไลน์ของลูกชายถึงปมเหตุที่ลูกชายไปตามหาคนชื่อน้ามาศ ก็คือก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุประมาณ 2 เดือน ลูกชายได้คบหากับ น.ส.ฐิ อายุ 50 ปี จากการแนะนำของนายประคองที่เป็นญาติกัน ส่วนตัวคนชื่อน้ามาศ เคยเป็นอดีตน้าเขยของผู้ตาย และเคยพัวพันกับ น.ส.ฐิ ภรรยาของลูกชายมาก่อน ซึ่งก่อนวันเกิดเหตุ 3 วันคือวันที่ 17 ต.ค. 64 น.ส.ฐิ ได้ขอแยกทางกับลูกชายไปทำงานที่กรุงเทพฯ จากนั้นวันที่ 18 ต.ค. ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน น้ามาศได้เข้ามาหาลูกชายที่บ้าน มานั่งคุยกันอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน ด้วยความสงสัยของลูกชายคิดว่าภรรยาที่บอกเลิกจะไปคบหากับน้ามาศ จึงอาศัยช่วงที่น้ามาศเดินเข้าห้องน้ำแล้ววางโทรศัพท์ไว้ตรงหน้าเปิดดูข้อมูลในโทรศัพท์ จนไปพบว่าน้ามาศกับภรรยาที่เพิ่งเลิกกันมีการติดต่อพูดคุยกันตลอดเวลา ซึ่งวันนั้นตัวน้ามาศก็พยายามบ่ายเบี่ยงกับลูกชายว่าไม่ได้คบหากันกับอดีตภรรยาของลูกชาย
จากนั้นลูกชายก็พยายามโทรศัพท์ถามความจริงกับน้ามาศแต่ก็ติดต่อไม่ค่อยได้ จนวันเกิดเหตุลูกชายได้บอกว่าจะออกไปหาน้ามาศ โดยสั่งน้องสาวกับคนที่บ้านเอาไว้ว่า ถ้าไม่กลับมาบ้านให้ไปตามหาที่บ้านน้ามาศ แล้วก็ไปเจอศพลูกชายตายอย่างปริศนาข้างถนน ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ที่ต้องเสียลูกชายไปโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งตัวลูกชายนั้นเป็นเสาหลักและกำลังหลักของครอบครัวในการหาเลี้ยงชีพ ยืนยันว่าจะไม่เผาศพลูกชายจนกว่าจะได้รับความจริง
ทีมข่าวไม่สามารถติดต่อกับคนที่ชื่อน้ามาศได้ ขณะนี้ตำรวจก็ยังตามตัวมาสอบปากคำ และตำรวจคาดว่าจะเชิญตัวน้ามาศ มาสอบปากคำได้ในวันพรุ่งนี้ โดยเหตุการณ์นี้ แพทย์ก็ยังคงลงความเห็นถึงสาเหตุการตายไม่ได้ ส่วนทางตำรวจก็ไม่ได้ตัดประเด็นฆาตกรรมทิ้ง และตอนนี้ตำรวจชุดสืบสวนก็ลงพื้นที่หาหลักฐานทุกวัน
ส่วนทางด้านคดีความ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าชายที่เข้ามาป่วนที่งานศพนั้น เกี่ยวข้องกับผู้ตายและน้ามาศอย่างไร
ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ น.ส.ฐิ อดีตภรรยาของผู้ตาย ที่ทำงานเป็นผู้รับเหมาอยู่ในกรุงเทพฯ เปิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายและคนที่ชื่อน้ามาศ โดย น.ส.ฐิ ให้ข้อมูลเพียงว่าเป็นอดีตภรรยาผู้ตายจริง แต่ได้เลิกกันในวันที่พบศพผู้ตาย ส่วนตัวน้ามาศ รู้จักกัน เพราะเป็นญาติของอดีตสามี และเคยมาดื่มเหล้ากับอดีตสามีที่บ้านเท่านั้น