จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bo Zii โพสต์เหตุการณ์ที่เพื่อนสาวไม่ได้สติลักษณะคล้ายถูกมอมยาเสียสาว จนเกือบเอาตัวไม่รอด โดยระบุ “จะหยอดยากันทำเ-ี้ยอะไร สงสารผญไหม ถ้ามันไม่โทรหากุคนแรกจะเกิดอะไรขึ้น ร้องร้อน จะแก้ผ้า อ้วก กอดขาไม่ได้สติไม่รู้ด้วยว่าอยู่ไหน”
วันที่ 22 พ.ย. 61 รายการต่างคนต่างคิด ตอน เปิดใจเหยื่อ โดนยาเสียสาวหวิดเสียตัว ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. ได้เชิญ คุณแพรว (นามสมมติ) ผู้เสียหาย, คุณโบว์ (นามสมมติ) เพื่อนของผู้เสียหาย, คุณพงษ์ศักดิ์ สง่าศรี เภสัชกร ในฐานะที่ปรึกษาด้านสุขภาพ และคุณนิติธร แก้วโต หรือทนายเจมส์ มาร่วมพูดคุยในรายการ
คุณแพรว เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนมีอาชีพเอนเตอร์เทน (PR) ลูกค้า ในวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 20 พ.ย. วันนั้นตนนั่งบริการลูกค้าตามปกติ โดยมีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งตามลักษณะของงานแล้ว ตนจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งทางร้านเปิดให้ ในลักษณะเป็นช็อต วันดังกล่าวตนดื่มไปหลายช็อต ก็รู้สึกว่าตัวเองเมาบ้าง แต่สิ่งที่ผิดปกติ คือ รู้สึกว่าตัวเองเมากว่าปกติ จึงบ่ายเบี่ยงลูกค้าและปลีกตัวเพื่อกลับบ้าน เวลาประมาณ เวลา 02.00 น. จากนั้นตนจึงเรียกแท็กซี่และโทรศัพท์หาเพื่อน ซึ่งขณะนั้นก็เริ่มจะจำอะไรไม่ได้แล้ว
ระยะเวลาจากร้านที่ตนทำงานถึงคอนโดของเพื่อน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยเพื่อนของตนแจ้งว่า หลังจากที่ตนเดินทางมาถึงคอนโดแล้ว สภาพขณะนั้นเมามาก บอกว่าร้อนและต้องการแก้ผ้า ซึ่งผิดจากสภาพอาการเมาปกติของตน กระทั่งฟื้นขึ้นมาอีกวันหนึ่ง (21 พ.ย.) ซึ่งตนก็จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนเมื่อเพื่อนเปิดรูปภาพและคลิปวิดีโอให้ดูก็รู้สึกตกใจมาก
และ
คุณโบว์ กล่าวว่า สภาพแพรวตอนที่ตนเจอครั้งแรกนั้น ตนยังเห็นว่าเพื่อนเมาเหล้า โดยเพื่อนมีอาการมึน ถามตนว่าเป็นใคร และพูดบ่นว่า "ร้อน" ซึ่งอาการเริ่มเป็นหนักขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่ตนพาเพื่อนเข้ามาในห้อง คือ แพรวทั้งแก้ผ้าและร้องครวญคราง คล้ายคนมีอารมณ์ทางเพศ ตนจึงตัดสินใจผลักเพื่อนเข้าไปในห้องน้ำและใช้ฝักบัวฉีดน้ำ เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว
ตนรู้ว่าเพื่อนถูกยาเสียสาวแน่ เนื่องจากตนทราบว่า เคยมีรุ่นน้องของตนถูกยาดังกล่าวและมีอาการคล้ายกัน คือ มึนหัว รู้สึกร้อนมากกระทั่งอยากแก้ผ้า และจำอะไรไม่ได้ แต่กรณีของรุ่นน้องตนนั้น ถูกอีกฝ่ายข่มขืน
คุณโบว์ กล่าวอีกว่า ที่ตนตัดสินใจใช้น้ำราดเพื่อรักษาอาการของเพื่อน เพราะดูจากหนังจีน หากถูกพิษก็มักจะมีการแช่น้ำเพื่อล้างพิษ โดยขณะนั้นตนใช้ฝักบัวฉีดเพื่อนอยู่ประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง
และ
คุณแพรว กล่าวเพิ่มเติมว่า ลักษณะการดื่มของที่ร้านจะเป็นแก้วช็อตวางเรียงหลายแก้ว และลูกค้าจะเป็นผู้เทเหล้าให้กับพนักงาน ส่วนลูกค้าจะมีแก้วของตัวเองต่างหาก ซึ่งขณะนั้นก็มีพนักงานคนอื่นอยู่ด้วย แต่ตนไม่ได้สอบถามและพูดคุยเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ตนไม่รู้ว่าลูกค้าคนใดเป็นคนวางยา เนื่องจากในวันดังกล่าวตนนั่งอยู่กับลูกค้าจำนวนมาก และขอกลับบ้านก่อน และจำไม่ได้ว่ามีลูกค้าตื้อขอไม่ให้ตนกลับหรือไม่ ขณะนี้ร่างกายก็ยังรู้สึกไม่ปกติ เนื่องจากยังรู้สึกเพลีย หายใจไม่สะดวก
จากนั้น
คุณพงษ์ศักดิ์ แสดงความคิดเห็นว่า เมื่อสังเกตจากอาการของผู้เสียหาย คาดว่าอาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากแอลกอฮอล์ เนื่องจากผ่านมากว่า 3 วันแล้ว ร่างกายควรจะขับแอลกอฮอล์ออกหมดแล้ว รวมถึงจากอาการที่เพื่อนผู้เสียหายเล่ามาก็มีลักษณะผิดสังเกต
ต่อมา
คุณโบว์ กล่าวว่า สำหรับกรณีของรุ่นน้องตนนั้น เป็นการรับงานเอนเตอร์เทน ซึ่งมีหลายแบบ แต่ลักษณะงานจะคล้ายกับ เป็นเพื่อนไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กินข้าว ดูหนัง หรือกินเหล้า ซึ่งจะไม่มีการขายบริการทางเพศอย่างเด็ดขาด โดยรุ่นน้องของตนรับงานเอนเตอร์เทนจาก ไฮโซหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งจะต้องขึ้นไปดื่มเหล้าที่คอนโดของชายคนนี้ ในวันดังกล่าวมีผู้หญิงที่รับงานอยู่ 2 คน และปรากฏว่าเมื่อดื่มเหล้าได้สักพักก็เกิดอาการอย่างที่แพรวเป็น แต่รุ่นน้องทั้งสองนั้น คนหนึ่งถูกข่มขืน แต่อีกคนต่อสู้ขัดขืนรอดมาได้ และหลังเกิดเรื่องก็ไม่มีใครไปแจ้งความ
สำหรับกรณีของรุ่นน้องตน พบว่า คนร้ายมีวิธีการคล้ายกัน คือ บังคับให้ผู้หญิงกินเหล้าแบบช็อต และเล่นเกมส์ ทั้งนี้ ตนยืนยันว่ารุ่นน้องของตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องและตนโพสต์ในเฟซบุ๊ก ปรากฏว่า มีผู้เสียหายอีกกว่า 30 ราย ติดต่อเข้ามาสอบถามเรื่องดังกล่าว พร้อมส่งใบหน้าของคนร้ายดังกล่าวมาให้ตนดู ปรากฏว่า ผู้เสียหายกว่า 30 คน ส่งภาพของผู้ชายคนเดียวกันมาแทบทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่า ชายคนดังกล่าวมีการจ้างผู้หญิงเอนเตอร์เทนทุกวัน วันละ 3-4 คน อีกด้วย
ซึ่ง ผู้เสียหายคนล่าสุดที่ถูกไฮโซหนุ่มใช้ยาเสียสาวนั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่ง
คุณพงษ์ศักดิ์ อธิบายว่า แท้จริงแล้ว ยาเสียสาว เป็นชื่อที่พูดกันเพื่อความเข้าใจทั่วไป แต่ตัวยาดังกล่าวนั้น เกิดจากการหวังใช้ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เพื่อให้เกิดอาการดังกล่าว โดยยิ่งเมื่อใช้ร่วมกันกับแอลกอฮอล์ ก็ยิ่งทำให้เกิดอาการค้างเคียงที่รุนแรงขึ้น ซึ่งปกติตัวยาดังกล่าวแพทย์จะใช้เพื่อรักษาอาการของผู้ป่วยโดยจำกัดปริมาณ และทยอยให้เพื่อศึกษาผลข้างเคียงเสมอ แต่สำหรับกรณีดังกล่าวนั้นถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะนอกจากอาการเสียสาวข้างต้นแล้ว การได้รับตัวยาดังกล่าวมากเกินไปก็อาจทำให้ ช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้
ผลข้างเคียงของยานั้นสามารถเกิดได้กับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่สำหรับผู้หญิงอาจจะรู้สึกไวกับสิ่งกระตุ้นมากกว่า เนื่องจากฮอร์โมนหรือ สรีระของร่างกาย รวมถึงยานี้ยังมีผลข้างเคียงเรื่องความทรงจำชั่วขณะ ทำให้ผู้เสียไม่สามารถจำเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้
ส่วนวิธีแก้ไขที่เพื่อนผู้เสียหายทำก็ถือว่าเป็นการบรรเทาอาการอย่างหนึ่ง แต่อาจต้องเปลี่ยนไปใช้เป็นน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาแทนน้ำเย็น แต่ทางที่ดีที่สุดคือการพาตัวผู้เสียหายไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด
ซึ่ง
ทนายเจมส์ กล่าวว่า หากผู้เสียหายรู้ตัวหรือสงสัยว่าถูกข่มขืน ให้รีบเข้ารับการตรวจร่างกายและแจ้งตำรวจ เพื่อรวบรวมหลักฐานให้เร็วที่สุด เนื่องจากคดีข่มขืนมีอายุรับแจ้งความ 3 เดือน และหากยิ่งปล่อยเวลาให้ผ่านไปหลักฐานต่าง ๆ ก็จะสลายไป ซึ่งหลักฐานเหล่านี้สำคัญมาก เพราะการต่อสู้คดีข่มขืนในศาลนั้นจะซักละเอียด และต้องการหลักฐานที่เห็นได้ชัด เช่น คราบอสุจิ ร่องรอยของการถูกทำร้าย ลักษณะของสารเคมีที่ผู้เสียหายได้รับ
นอกจากนี้
คุณแพรว กล่าวว่า สุดท้ายแล้ว ตนต้องการฝากเตือนผู้หญิงที่ทำงานอย่างนี้ว่า หากรู้สึกว่าไม่ไหว หรือพะอืดพะอม ก็ให้รีบถอยตัวออกมาให้เร็วที่สุด และต่อจากนี้ตนก็คงจะทำงานด้านนี้ต่อไป ไม่คิดเลิกเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น