เดือด! “กวาง กมลชนก” ถูกปิดปากด้วยเงิน 5 แสน โร่แจ้งความ (คลิป)

23 พ.ย. 61
วันนี้ (22 พ.ย. 61) นักแสดงสาวชื่อดัง กวาง กมลชนก ได้เดินทางมาที่ สน.โคกคราม เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กรณีถูกละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับโฆษณาเพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่รับอนุญาตในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ หลังจากแจ้วความเรียบร้อยแล้ว คุณกวางก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า ตนได้ไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับครีมของ คอสโม แคร์ โดยมีการเซ็นสัญญา 1 ปี และกำลังจะหมดในเดือนนี้ แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาพบว่า บริษัทนี้เอาภาพที่เธอเคยถ่ายเพื่อใช้โฆษณาครีม ไปใช้โฆษณาในผลิตภัณฑ์อื่นๆในเครือ อีก 4 ตัว คือ อาหารเสริม  ครีมกันแดด เซรั่ม และสบู่ ยอมรับเลยว่าพอเห็นแล้วถึงกับโกรธมาก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยรับรีวิวในอินสตาแกรมเลย เรียกได้ว่าค่อนข้างจะซีเรียสในการรับงานโฆษณามาก ไม่รับอะไรมั่วซั่ว ได้เงินแล้วรับหมด นั่นไม่ใช่กวาง กมลชนก อย่างตัวนี้ตนก็ได้ทดลองใช้จริงก่อนแล้ว และเห็นว่ามีแพทย์รองรับ จึงตกลงรับ จากนั้นตนจึงให้คุณแม่โทรไปคุยว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง คู่กรณีก็ตอบกลับมาว่า ขอโทษ ไม่รู้ว่าทำไม่ได้ ตนจึงไปเปิดสัญญาที่เซ็นไป ก็มีการระบุชัดเจนว่า ใช้ได้เฉพาะครีมที่รับแค่ตัวเดียวเท่านั้น จึงได้มีการเจรจากัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ และที่ตนรับไม่ได้เลยก็คือ ทางคู่กรณีได้นำเช็คเงินสดจำนวน 5 แสนบาทมาให้โดยที่ไม่ถามว่าตนต้องการค่าเสียหายเท่าไหร่ ทำแบบนี้เหมือนเป็นการดูถูกตน ว่าดาราได้เงินก็จบเรื่อง เรียกว่าเป็นค่าปิดปากให้เรื่องจบ แถมยังมีเอกสารให้เซ็นอีกว่ารับเงินไปแล้วจะไม่ฟ้องร้อง คุณกวาง บอกต่ออีกว่าค่าตัวพรีเซนเตอร์ของตนสูงกว่าเงินที่ให้มา แล้วคู่กรณียังนำไปใช้กับสินค้าอีกถึง 4 ตัว แบบนี้จึงไม่สมเหตุสมผล อีกทั้งค่าเสียหายกับชื่อเสียงที่ต้องเสียไปอีก เพราะสินค้าที่เหลือตนยังไม่ได้ทดลองใช้ หากมีปัญหาขึ้นมา คนก็ต้องคิดแล้วว่าก็ตนเป็นพรีเซนเตอร์ รวมไปถึงเมื่อย้อนไปดูเขาทำแบบนี้มากว่าครึ่งปีแล้ว ทำให้ตนต้องพลาดโอกาสในการรับงาน เพราะคนอื่นก็จะคิดว่าตนเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับทั้ง 4 ผลิตภัณฑ์แล้ว โดยจากการที่คุยกันในตอนแรก ตนเรียกร้องไปไม่ใช่ราคาเต็มที่ตนควรจะได้ด้วยซ้ำ แต่เขาก็ตอบกลับมาว่าเขามีเงินแค่เท่านี้ ตนก็ไม่รู้แต่ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ วันนี้จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันว่าเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้น เผื่อมีคนใช้สินค้าแล้วมีปัญหา จะได้รู้ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและรับผิดชอบกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ยกเว้นตัวที่ตนโฆษณาเท่านั้น จากนี้ตนก็จะให้โอกาสทางคู่กรณี โดยจะดำเนินการแค่ทางแพ่ง แต่ถ้าไม่สำนึกก็จะดำเนินการทางอาญา เพราะเขาผิดสัญญาชัดเจน จึงสามารถกระทำได้ โดยความจริงแล้วไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่ต้องการให้เป็นตัวอย่างกับสังคมว่าไม่ควรจะเอาเปรียบและฉวยโอกาสขนาดนี้ สุดท้ายก็อยากจะฝากบอกถึงคู่กรณีว่า ควรจะสำนึกแล้วก็อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ชื่อเสียงของตนต้องไปแขวนไว้กับสินค้าที่ตนไม่ได้การันตี

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส