สาวดิ่งสะพานทิ้งลูก 3 ขวบคารถ แม่เผยซึมเศร้าเครียดห่างผัวอาละวาดพังบ้าน

กรณีเมื่อคืนวันที่ 15 พ.ย. 64 เวลา 00.40 น. ได้รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบเหตุรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา หมายเลขทะเบียน 2 กฒ 6659 จอดอยู่ริมถนนมอเตอร์เวย์ (ทล.7) ฝั่งขาออก ช่วง กม.28 บริเวณสะพานคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต โดยที่เกิดเหตุไม่พบผู้ขับ มีเพียงเด็กน้อยอายุ 3 ขวบ นอนหลับภายในรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนขับกระโดดลงคลองไป

ต่อมาทราบชื่อคนขับรถยนต์เก๋งชื่อ นางสาวณิชชา เขมกรสุขจิตร อายุ 34 ปี มากับ ด.ญ.ดาริณ อายุ 3 ปี ลูกสาว จุดเกิดเหตุช่วงสะพานข้ามคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ถนนมอเตอร์เวย์ กม.28+900 หมู่ 11 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

นางกิตติยา ฉุดพิมาย ชาวบ้าน ล่าว่า เวลาประมาณ 04.00 น. ตนเองเปิดประตูออกมาเห็นว่ามีรถกู้ภัยมากันหลายคัน เมื่อสอบถาม ทราบว่ามีคนกระโดดน้ำตาย ตนเองก็ไม่ทราบเหตุการณ์ก่อนหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากหลับอยู่ ตนเองไม่ได้ยินเสียงช่วงเวลาที่เกิดเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ 02.00 เป็นต้นไป มีการค้นหากันนานหลายชั่วโมง ส่วนคนที่กระโดดน้ำนั้นตนเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นใคร ตั้งแต่อยู่มาก็ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ น่าจะเป็นครั้งแรกที่มีคนคิดสั้นกระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตาย

วันที่ 16 พ.ย. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ สะพานข้ามคลอง ห่างจากคลองความยาวประมาณ 5 เมตร บริเวณรอบ ๆ มีผักตบชวาขึ้นอย่างหนาแน่น

นายธรรมรส นุชสายสวาท อายุ 43 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดสภ.เปร็ง เล่าว่า ตนได้รับแจ้งรับแจ้งเรื่องเวลาประมาณ 01.40 น. ที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยอีกคนโทรมาแจ้งว่ามีคนโดดสะพาน ถึงที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยและคนหาปลาอยู่ 2 คน คนหาปลาแจ้งว่าระหว่างตกปลา เห็นรถมาจอดที่สะพานประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นได้ยินเสียงคนกระโดดลงน้ำ บนรถมีเด็กอยู่อายุประมาณ 3-4 ขวบอยู่

ทีมกู้ภัยทางน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู และทีมอื่น ๆ มาช่วยกันลงค้นหา ค้นหาประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง จนเวลาประมาณ 04.30 น. จึงเลิกค้นหา เพราะกระแสน้ำที่แรง ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบร่าง ด้วยกระแสน้ำที่แรงมาก ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าน้ำจะพัดร่างไปทางไหน รวมถึงใต้น้ำมีตอไม้เยอะ ผักตบชวาขึ้นโดยรอบจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคในการค้นหา

การค้นหาเมื่อวานเป็นช่วงกลางคืนใช้เจ้าหน้าที่ชุดนที กู้ภัยทางน้ำ มาช่วยดันระงมหาร่างกัน 10 นาย ปูพรมค้นหาระยะรัศมีกว้างประมาณ 100 เมตร น้ำลึกประมาณเกือบ 3 เมตรแต่ไม่พบร่าง จากที่ปฏิบัติหน้าที่มาคาดว่าไม่เกิน 2 วัน อาจจะพบร่างที่ลอยขึ้นมา หรือ หากร่างที่ตกไปนั้นครบเวลา 24 ชั่วโมง อาจจะลอยขึ้นมาให้เห็น แต่อุปสรรคอีกอย่างที่พบคือผักโป่ง และหญ้าวาที่ขึ้นเยอะ ตนกลัวว่าศพที่ลอยขึ้นอาจจะติดใต้ผักโป่งหรือหญ้าวาได้ อาจทำให้พบร่างได้ยากขึ้น ด้วยกระแสน้ำที่แรงมากอาจผลัดร่างให้ไหลไปเรื่อย ๆ ซึ่งคลองให้นี้น้ำจะไหลไปบรรจบที่คลองสำโรง

นางปราณี มนตรี อายุ 61 แม่ของผู้สูญหาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้นางสาวณิชชา มีปัญหาครอบครัวทะเลาะกับสามีบ่อย สามีของลูกสาวเป็นคนจีน ทำงานอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ปกติลูกสาวและหลานอายุ 3 ขวบ เทียวไปเทียวมาเพื่อหาลูกเขย แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทั้งลูกสาวไม่ได้เจอหน้าลูกเขยมาตั้งแต่ปี 2561 ทำได้เพียงคุยทางโทรศัพท์ คอลวิดีโอคอลกันเท่านั้น

ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ลูกสาวของตนมีอารมณ์โมโหรุนแรง เนื่องจากมีปัญหากับลูกเขย ลูกสาวของตนอยากซื้อบ้านใหม่ ราคาค่อนข้างสูง ลูกเขยบอกจะซื้อให้ แต่รอให้สถานการณ์ดีก่อน ลูกสาวจึงเอาตัวหลานสาวมาอยู่ด้วย จากนั้นลูกสาวได้ขับรถตามมาที่บ้าน เมื่อวาน 15 พ.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. ขับรถมาที่บ้านของตน ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ ลูกสาวเปิดประตูเข้ามาด้วยความเครียดและโมโห จึงหยิบลำโพง เตาแก๊ส ปาใส่กระจกหน้าบ้านให้แตก จากนั้นออกไปรอที่หน้าบ้าน

เมื่อตน สามี และหลานสาวกลับมาถึงบ้าน จึงได้จอดรถเทียบกับรถของลูกสาว ลูกสาวลงมาจากรถด้วยสีหน้าหงุดหงิด บอกว่าจะเอาหลานสาวไป และเดินมาอุ้มหลานไปจากรถตนมาไว้ที่รถของลูกสาวด้านข้างคนขับ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้เดินตามมานั่งที่รถลูกสาว ด้านหลังขวาฝั่งคนขับ แต่ลูกสาวไล่ตนลงรถ และบอกกับตนว่า "แม่ไม่ต้องไป หนูจะไปกับลูก 2 คน" แล้วขับรถออกไป

ต่อมาเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาแจ้งว่าพบเด็กอยู่บนรถ เจ้าหน้าที่เปิดประตูเอาพบว่ารถยังติดเครื่องอยู่ และกระจกเลื่อนลงมาให้มีอากาศถ่ายเทได้ ภายในรถพบเด็กหญิงวัยประมาณ 3 ขวบ นอนกอดตุ๊กตาหลับอยู่ที่เบาะผู้โดยสารข้างคนขับ แต่ไม่พบคนขับ เมื่อตนและครอบครัวไปถึงพบเจ้าหน้าที่กำลังอุ้มหลานสาวอยู่

สาเหตุที่ลูกสาวของตนทำนั้น อาจเกิดจากความเครียดสะสม และปัญหาที่ทะเลาะกับลูกเขย จึงทำให้เกิดการประชดประชัน และลูกสาวของตนยังมีอาการป่วยทางจิตเวช โรคซึมเศร้า รักษาตัวมา 7 ปี และกินนาต่อเนื่องทุกวัน ปกติแล้วลูกสาวของตนเป็นคนจิตใจดี ร่าเริง แต่หากอาการของโรคกำเริบหรือเครียดหรือโมโห จะโมโหรุนแรง ตนอยากบอกกับลูกสาวว่าอยากเจอลูกสาวแบบสภาพปกติ เจอแบบดี ๆ หากเกิดอะไรขึ้น ตนและสามีจะดูแลหลานสาวเอง ส่วนลูกเขยตอนนี้ทราบเรื่องแล้ว