จากกรณีนายยาโหด พ่อเหตุ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 บ้านทุ่งพัฒนา ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล พร้อมนายนิธิ หวันสู ส.อบต.ละงู ช่วยกันเกณฑ์ลูกบ้าน ชรบ. เจ้าหน้าที่ อบต.ละงู และมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร ดำน้ำและนำเรือช่วยกันออกตามหาตัวนายอายุทธ ยาบา อายุ 30 ปี ที่หายตัวไปตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 18 พ.ย. 61 ซึ่งชาวบ้านคาดการณ์ว่านายอายุทธอาจจะพลัดตกลงไปในคลองละงู
จากนั้น วันที่ 22 พ.ย. 61 เป็นวันที่ 5 ของการค้นหา มูลนิธิกู้ภัยร่มไทรได้ล่องเรือไปตามลำคลองละงู ห่างจากจุดเกิดเหตุที่คาดว่านายอายุทธ จะพลัดตกน้ำไปประมาณ 800 เมตร กระทั่งพบร่างชายไทยที่เชื่อว่าเป็นร่างของนายอายุทธ นอนคว่ำหน้าติดในกองเศษไม้ผุพังในคลอง สภาพศพขึ้นอืด จึงช่วยกันลากไปที่ฝั่ง ก่อนช่วยกันนำขึ้นจากน้ำ ซึ่งเบื้องต้นพบบาดแผลที่ฝ่าเท้าและศีรษะ จึงนำส่งชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิตต่อไป
ล่าสุดวันที่ 23 พ.ย. 61
นายอดุลย์ ยาบา อายุ 47 ปี พี่ชายของนายอายุทธ กล่าวว่า ตนก็ทราบมาในกลางดึกว่ามีตำรวจในท้องที่ สภ.ละงู บุกเข้ามาภายในบ้านยามวิกาล และมารวบตัวเพื่อนน้องชายไป 2 คน ส่วนน้องชายตนกำลังจะไปสวนยาง และเกิดอาการตกใจวิ่งชนกระจกเลือดอาบหนีไปหลังบ้าน จากนั้นมีชาวบ้านบอกว่า น้องชายตนอาจเห็นดวงไฟของชาวบ้านออกมาตัดยาง แล้วคิดว่าเป็นตำรวจจึงจะวิ่งหนีต่อ และกระโดดน้ำลงคลองละงูไปทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บด้วยความตกใจ กระทั่งพบเป็นศพ
ตนยอมรับว่า น้องชายอาจจะไม่ใช่คนดีเต็มร้อย แต่ก็ไม่ใช่คนเลว ส่วนการเสพยา ตนเชื่อว่าอาจจะมีบ้าง แต่ไม่ได้ค้ายา และไม่เคยมีประวัติต้องคดี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจบุกเข้ามาภายในบ้านยามวิกาล ตนจึงเชื่อว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสาเหตุทำให้น้องต้องตกน้ำเสียชีวิต
นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า ตนขอวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาดูการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ วันนี้ครอบครัวของตนเป็นผู้สูญเสีย แม้ว่าครอบครัวของตนจะไม่ได้ดีเต็มร้อย แต่ก็ไม่ได้เลวถึงขนาดนั้น พวกเราทุกคนในครอบครัวรักกันมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น จึงต้องการให้ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของตน
ด้าน
นายสมใจ หมัดมรรคาเขต เพื่อนบ้าน อายุ 58 ปี เล่าว่า ตนรู้จักนายอายุทธมาตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นทั้งนักกีฬาของหมู่บ้าน และดูแลแม่ที่แก่ชรา โดยมีร้านขายของชำของครอบครัว อีกทั้งเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านจากพี่น้องทั้งหมด 7 คน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ยอมรับว่าตกใจ และเห็นใจทุกคนในครอบครัวมาก เพราะหากเป็นใครก็ตกใจ เมื่อตำรวจจู่โจมมาแบบนี้ เพราะเหมือนบุกเข้ามาปล้นในยามวิกาล
ขณะที่
นายนิธิ หวันสู ส.อบต.ละงู กล่าวว่า ตนต้องการให้ตำรวจทบทวนการทำงานของตัวเอง ว่าการปฏิบัติงานในลักษณะนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะขณะนี้ชาวบ้านมองว่ามีพฤติกรรมเหมือนโจรมาปล้น เพราะการบุกจู่โจมเข้ามาในยามวิกาลแบบนี้ และไม่อยากให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
ส่วนปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน หากมองว่าบ้านไหนต้องสงสัย อยากให้ประสานผู้นำท้องถิ่น เพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมจะดีกว่าหรือไม่
อย่างไรก็ตาม
ร.ต.อ.นพกร วัฒนกิจ พนักงานสอบสวน สภ.ละงู จ.สตูล เปิดเผยว่า ตนรับผิดชอบดูเรื่องการชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิตของผู้ตาย ส่วนรายละเอียดเหตุการณ์วันเกิดเหตุนั้นจะต้องเชิญญาติมาสอบปากคำอีกครั้ง กรณีชุดจับกุมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่สภ.ละงูจริง ซึ่งดำเนินการกับกุมเกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยจับกุมเพื่อนผู้ตายไปก่อนแล้ว 2 คน ในข้อหายาเสพติด แต่ผู้ตายได้หลบหนีไปทางหลังบ้าน และได้หายตัวไป จนกระทั่งพบว่าเสียชีวิต ส่วนกรณีญาติติดใจว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น ร.ต.อ.นพกร ระบุว่า ตนจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง