เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 64 เวลา 12.00 น. ตำรวจ สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รับแจ้งจาก นางสาวมิว อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ว่าถูกกลุ่มของนางสาวอ้อม อายุ 33 ปี คู่กรณี เป็นอดีตแฟนเก่าของฝ่ายชายที่กำลังคบหา ขนพวกมา 4 คน หนึ่งในนั้นมีสาวทอมตามมาร่วมก่อเหตุด้วย บุกมาที่บ้านอาสาพัฒนา ใน ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
โดยกลุ่มคนดังกล่าว ไม่พูดพร่ำทำเพลงได้เข้าตะลุมบอน ทั้งต่อยกระชากผม และลากคอออกมาที่ถนนหน้าบ้าน ทำร้ายร่างกาย น.ส.มิว จนน่วมไปทั้งตัว และดั้งหัก ก่อนหลบหนีได้บอกด้วยว่า "นี่แค่เตือนนะ"
ล่าสุด วันที่ 17 พ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านจุดเกิดเหตุ ซอยชุมชนบ้านอาสาพัฒนา ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เป็นลักษณะบ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นกระจก ส่วนชั้นบนเป็นไม้ นางสาวมิว ผู้เสียหาย มีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดที่บ้านแล้ว เพราะห่วงเรื่องของความปลอดภัย
ล่าสุด นางสาวมิว มีอาการได้รับบาดเจ็บบริเวณดั้งจมูก เปิดใจว่า ตนเองยอมรับว่าเพิ่งจะเริ่มพูดคุยกับนายไก่ ฝ่ายชาย ได้ประมาณ 1 เดือน โดยได้รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ฝ่ายชายอ้างว่ามีการเลิกลากับนางสาวอ้อมไปนานกว่า 1 ปี ตนเองจึงได้มีการพูดคุยกัน แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกินเลย ตนเองก็ยังไม่เคยพาผู้ชายเข้าบ้าน ช่วงที่ตนเองเริ่มพูดคุยกับนายไก่ ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อแปลก แต่ตอนนั้นตนเองไม่รู้ว่าเป็นนางสาวอ้อม อดีตแฟนของนายไก่ มีการทักข้อความมาหาทำนองประจานนายไก่ว่าเป็นคนไม่ดี ตนเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมนางสาวอ้อมจึงมีการทักมาพูดด้วยข้อความดังกล่าว จากนั้นก็เริ่มมีการท้าทายกันเกิดขึ้น นางสาวอ้อมก็มีการส่งข้อความทำนองจะเข้ามาบุกที่บ้าน
วันเกิดเหตุ 14 พ.ย. เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าตัวก็พากลุ่มพรรคพวกบุกกันมาที่บ้าน มีนางสาวอ้อมเป็นคนนำทีม และพาพวกมาอีก 4 คน โดยมีสาวทอม 1 คน มาหาเรื่องที่หน้าบ้าน จังหวะที่ฝั่งคู่กรณีมาถึง นางสาวอ้อมก็ได้บุกเข้ามาภายในบ้าน มีการกระชากผมลากออกไปนอกบ้าน เพื่อให้กลุ่มเพื่อนช่วยกันตบตี ฝั่งคู่กรณีไม่ได้มีอาวุธ มีเพียงมือเปล่า แต่มากันหลายคน
โดยลักษณะการตบตีเน้นที่ใบหน้าและหัว จนกระทั่งทำให้ดั้งของตนเองฉีกขาด มีเลือดไหล และคนอื่นก็มีการกระทืบตามตัว ทำให้ช้ำเขียว ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีชาวบ้านซึ่งเป็นคนแก่พยายามเข้ามาระงับเหตุ และห้ามไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงกัน แต่ก็ยังถูกกลุ่มของนางสาวอ้อมทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกัน หลังจากที่มีการรุมทำร้ายเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะขนพวกกลับ มีการหันมาตะโกนข่มขู่อีกว่า "นี่แค่เตือนนะ"
หลังจากที่มีการเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนแล้ว มีการสอบถามสาเหตุเบื้องต้นจากนางสาวอ้อมคู่ กรณี เจ้าตัวบอกกับตำรวจว่า การก่อเหตุไม่ได้เกิดจากปมหึงหวง แต่เป็นเพราะไม่ชอบขี้หน้า ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาไปทำอะไรให้นางสาวอ้อมเกิดความไม่พอใจ ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน
นางสาวอ้อม คู่กรณี เปิดใจว่า ตนเองเพิ่งจะเลิกรากับนายไก่ ได้ประมาณ 1 เดือน ไม่ได้เลิกรากัน 1 ปี ตามที่ฝั่งของนางสาวมิวให้สัมภาษณ์ เหตุผลที่ตนเองตัดสินใจเลิกเป็นเพราะว่าจับได้ว่ามีการนำเงินที่ให้เป็นประจำทุกสัปดาห์ ไปให้กับนางสาวมิว ผู้หญิงคนใหม่ และตนเองยังจับได้ว่ามีการแอบวิดีโอคอลพูดคุยกับนางสาวมิว เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นมานานกว่า 2 เดือน มีการบอกคิดถึง และแอบวิดีโอคอลหากันเป็นประจำ ด้วยหลักฐานเหล่านี้จึงทำให้ตนเองตัดสินใจที่จะบอกเลิกกับนายไก่
ส่วนตัวมีลูกสาววัย 2 ขวบกับฝ่ายชาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจที่มีการเลิกรากัน เพราะที่ผ่านมาตนเองก็เลี้ยงดูลูก ทำมาหากินอยู่ฝ่ายเดียว ผู้ชายไม่ได้ช่วย มากไปกว่านั้นตนเองยังจับได้ว่านายไก่แอบพานางสาวมิว บุกไปที่บ้านของตนเองในจังหวัดอุดรธานี ไปงัดประตูบ้านเพื่อแอบเอาผ้าปูที่นอน แอบเอาเสื้อผ้า และขอใช้ส่วนตัวไปให้นางสาวมิวใช้ นางสาวมิวก็ยังมีการโพสต์ภาพทั้งผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าที่เอาไปใช้เป็นการท้าทาย เพื่อประกาศบอกว่าคือคนใหม่
อีกทั้ง นางสาวมิวยังมีการนั่งรถกระบะสีแดง ซึ่งเป็นรถคันที่ตัวเองผ่อนให้นายไก่ใช้งาน ทุกวันนี้ก็ยังผ่อนอยู่ แต่มีการนำขับไปรับไปส่งและพากันนั่งโดยสาร พร้อมทั้งมีการถ่ายภาพโพสต์ เหตุการณ์ในวันดังกล่าวตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะขนคนไปเพื่อจะหาเรื่องฝั่งของนางสาวมิว แต่ต้องการที่จะขับรถผ่านเพื่อไปกินข้าว และผ่านหน้าบ้านพอดี จึงไปเผชิญหน้ากับนางสาวมิว มีรุ่นน้องในกลุ่มของตนเองเกิดความไม่พอใจ อยากจะเข้าไปถามแทนว่าทำไมถึงมีการโพสต์โอ้อวด ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์บานปลาย ต่างฝ่ายต่างทะเลาะและหาเรื่องกัน จากนั้นก็เริ่มมีเพื่อนบ้านของนางสาวมิว เข้ามาผสมโรง วยกันปกป้องและทำร้ายกลุ่มของตนเอง ตนเองก็ยังถูกยายวัย 71 ปี ใช้เล็บข่วนที่แก้มซ้ายเป็นแผลเลือดออก และยังมีรอยเล็บถูกจิกอยู่ที่บริเวณหน้าอก ถูกผลักล้มจนกระทั่งหัวเข่าซ้ายเป็นแผล
ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้มีการนำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายแล้ว ซึ่งรอผลแพทย์ยืนยันอีกครั้งว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ และได้มีการสอบปากคำฝั่งของผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว มีการออกหมายเรียกให้ฝั่งของนางสาวอ้อมและผู้ที่ร่วมก่อเหตุมาพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ ก่อนที่จะมีความเห็นแจ้งความดำเนินคดี
