กรณีหญิงสาวชาวเมียนมา อายุ 21 ปี หายตัวลึกลับไปจากหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังจากกลับจากทำงาน เวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย.64 ที่ผ่านมา พี่สาวหญิงคนดังกล่าวจึงคาดว่า น้องสาวอาจจะถูกลักพาตัว หรือเกิดเหตุอันตรายหรือไม่ เพราะญาติ ๆ ได้ออกตามหามานาน 3 วันแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววและข้อมูลของน้องสาว
ล่าสุดวันที่ 17 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่บ้านเช่าป้าเเจ๋ว บ้านเลขที่ 125 ม.11 บ้านคลองกลาง ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จุดที่นางสาวมิน มิน ข่าง ชาวเมียนมา อายุ 21 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ พบบ้านเช่าเป็นห้องเช่าชั้นเดียว 10 ห้อง โดยห้องเกิดเหตุคือห้องเลขที่ 3 มีเชือกขาวแดงของเจ้าหน้าที่กั้นบริเวณด้านหน้าห้อง
ส่วนห้องเลขที่ 4 เป็นห้องของพี่สาวคนโตของผู้สูญหาย ที่พักอยู่กับสามี โดยในวันนี้บริเวณด้านหน้าห้องเช่า มีพนักงานชาวเมียนมา ประมาณ 30-40 คน รวมตัวอยู่หน้าห้องเช่า จากการสอบถาม คนในละแวกใกล้เคียง พบว่าวันนี้พนักงานโรงงานไม่ทำงาน เพราะรอออกตามหานางสาวมิน มิน ข่าง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพี่สาวคนโตของผู้สูญหาย โดยมีนายซอมิน เป็นล่ามช่วยแปลภาษา เนื่องจากพี่สาวผู้สูญหาย ไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้
นางงิวเส่ง พี่สาวคนโตของผู้สูญหาย เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 พ.ย.64 ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ตนกลับมาจากที่ทำงาน พอเดินเข้ามาที่ห้องเช่า ก็พบว่าประตูห้องของน้องสาวเปิดอยู่ ก็ไม่เจอน้องสาวเเล้ว พอเรียกก็ไม่มีใครตอบรับ จึงเริ่มตกใจ พอเข้าไปในห้องก็เห็นเทปสีเหลืองตกอยู่ในห้องมีเส้นผมติดอยู่ เเละเห็นผ้าห่ม ตกอยู่หน้าห้องน้ำ ข้าวของถูกรื้อค้น พบรอยเลือดอยู่บริเวณแถวหน้าห้องน้ำใกล้กับประตูหลังห้อง
จากนั้นก็โทรศัพท์หาพี่สาวคนกลางในโรงงาน เเต่ไม่รับสาย ตนจึงไปตามที่โรงงาน พอกลับมาที่ห้องพัก เทปสีเหลืองหายไป ส่วนผ้าห่มที่หล่นอยู่ก็กลับขึ้นไปวางบนเตียงนอน กระทั่งมีคนไปพบเทปสีเหลืองดังกล่าวตกอยู่ที่สนามหญ้าในโรงงาน ทั้งนี้ น้องสาวของตนทำงานที่โรงงานเดียวกับตน พวกตนมาอยู่ที่ห้องเช่าได้ 2 ปีกว่าเเล้ว นิสัยปกติของน้องสาวจะเป็นคนยิ้มง่าย เจอใครก็จะยิ้มให้ ร่าเริง และเป็นคนจิตใจดี
ส่วนสาเหตุของการหายไปในครั้งนี้ ตนคิดว่าน้องสาวน่าจะถูกลักพาตัว เพราะน้องสาวของตนไม่เคยออกไปไหน ไม่เคยไปเที่ยวหรือหายตัวไปเฉย ๆ การหายตัวไปครั้งนี้น่าจะมีคนจับตัวไป ส่วนผู้ต้องสงสัยในใจมีเพียงคนเดียว เป็นผู้ชายชาวไทยที่พักอาศัยอยู่ห้องเช่าหมายเลข 5 เพราะในวันที่เกิดเหตุ ตนเห็นว่ารถมอเตอร์ไซต์ของชายคนนี้ยังจอดอยู่ที่บริเวณหน้าห้องพักหมายเลข 5 แต่หลังจากที่ไปตามพี่สาวคนกลางกลับมา รถมอเตอร์ไซค์ก็หายไปแล้ว
"ทำไมถึงสงสัยชายชาวไทยคนนี้ เพราะน้องสาวเคยเล่าให้ฟังว่า เวลาทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน เขาชอบมาด้านหลังห้องพัก เเละคอยมองน้องสาวเป็นประจำ จนตอนนี้เขาก็หายตัวไปเช่นกัน และน้องสาวก็ไม่ได้มีแฟนหรือมีเรื่องบาดหมางกับใคร เชื่อว่าน้องสาวยังมีชีวิตอยู่มากกว่า" พี่สาวคนโตของผู้สูญหาย กล่าว
ทีมข่าวได้พบกับชาวบ้านที่เห็นผู้ชายฉุดกระชากผู้หญิงในสวนปาล์ม ซึ่งตรงกับวันที่นางสาวมิน มิน ข่าง หายตัวไป เล่าให้ฟังว่า ในวันที่ 14 พ.ย.64 เวลาประมาณ 10.00 น. ตนนั่งอยู่ที่ร้าน ก่อนจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง ตอนเเรกตนคิดว่าสุนัขกัดผู้หญิง จึงเดินจากร้านมาหยุดยืนดูบริเวณถนนข้างสวนปาล์ม ที่ห่างจากร้านขายของประมาณ 100 เมตร พอมองไปในสวนปาล์มก็เห็นผู้ชาย 1 คน ผิวสีเข้ม สวมเสื้อสีกรมท่า เเละผู้หญิง 1 คน สวมเสื้อสีคล้าย ๆ กัน กำลังถกเถียงโวยวายกัน
โดยผู้ชายกำลังล็อกคอผู้หญิง ส่วนผู้หญิงก็พูดภาษาพม่า ซึ่งตนก็ฟังไม่เข้าใจ ส่วนผู้ชายก็ไม่พูดอะไร ตอนนั้นตนคิดว่าเป็นคู่สามีภรรยากำลังทะเลาะกัน จึงเดินกลับไปที่ร้าน หลังจากนั้นตนก็ออกไปซื้อของ กลับมาที่ร้านช่วงเวลา 13.00 น. คนงานที่โรงงานก็มาเล่าให้ฟังที่ว่า มีสาวโรงงานชาวเมียนมาหายตัวไปจากห้องพัก
ในวันเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปที่ พื้นที่หมู่ 9 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พบบ้านชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด ประตูด้านหน้าบ้านถูกล็อกปิดตาย เเละไม่มีใครอยู่บ้าน มีเพียงเเค่สุนัขในบ้านเท่านั้น
ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลกับ นายสมภพ ปราตรัย อายุ 48 ปี กำนันตำบลเขาไม้แก้ว เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับครอบครัวของนายราม (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ผู้ต้องสงสัย เมื่อก่อนพ่อของนายราม เคยเป็นผู้ช่วยของตนฯ กระทั่งประมาณ 6-7 ปีก่อน ทั้งพ่อเเละเเม่ของนายราม ได้งานที่โรงงาน ม.11 บ้านคลองกลาง ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ก่อนจะย้ายไปทำงานกันที่นั่น บ้านหลังนี้ส่วนใหญ่คนที่อยู่จะเป็นพ่อกับเเม่ของนายราม หลังจากเลิกงานก็จะมีเเวะเวียนมาที่บ้านบ้าง
สำหรับครอบครัวนี้มีลูก 4 คน โดยที่นายราม เป็นลูกชายคนสุดท้อง เเต่ตนไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอของนายราม เท่าที่เคยได้ยินมา เขาเคยมีประวัติอนาจารผู้หญิงมาก่อน เเต่เหมือนเรื่องจะจบลงด้วยดี มีการเคลียร์ปัญหากับผู้เสียหายเเล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ตนก็ไม่เเน่ใจว่าจะใช่นายรามก่อเหตุจริงหรือไม่ เพราะตอนนี้ยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น เเต่ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ตนไม่เห็นนายรามมาเเถวนี้