11 นักโทษ เรือนจำนครสวรรค์ แหกคุกหนี อ้างคิดถึงเมีย เป็นห่วงพ่อแม่

11 นักโทษ เรือนจำนครสวรรค์ แหกคุกหนี งัดฝ้าเพดานห้องขณะรอตรวจโควิด อ้างคิดถึงเมีย เป็นห่วงพ่อแม่

เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับการประสานแจ้งจากนายศุภโชค ควรฦาชัย ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.นครสวรรค์ ว่ามีนักโทษซึ่งเป็นผู้ต้องขังใหม่ที่อยู่ระหว่างการคัดกรองโควิด เพื่อรอการส่งเข้าเรือนจำจังหวัดนครสวรรค์ สามารถหลบหนีออกมาจากเรือนจำชั่วคราวคลองโพธิ์ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ได้ถึง 11 คน เป็นนักโทษสัญชาติไทย 10 คน และสัญชาติพม่าอีก 1 คน โดยมีรายงานว่า นักโทษทั้งหมดได้แอบหลบหนีออกมาตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา ทางตำรวจจึงได้จัดกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจชุดสายตรวจ ร่วมผนึกกำลังกับฝ่ายปกครอง ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งพื้นที่ ต.นครสวรรค์ตก ต.บ้านแก่ง และพื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมืองนครสวรรค์ ในการติดตามไล่ล่าตัวนักโทษที่กำลังหลบหนี

นักโทษชายที่หลบหนีไปได้ทั้ง 11 คน นั้นส่วนใหญ่เป็นนักโทษในคดียาเสพติด ประกอบด้วย นายกรรชัย สาครสิทธิ์ อายุ 24 ปี ชนายคมกริช มูลโมก อายุ 26 ปี นายณัฐพงษ์ ประสาทกสิกรณ์ อายุ 25 ปี นายธาดา ศรีเงิน อายุ 30 ปี นายปรีชา บุญมี อายุ 38 ปี นายลัทธพล ดิสา อายุ 21 ปี นายวรายุทธ ฉ่ำผล นายประจักษ์ มะลิวงศ์ อายุ 25 ปี นายวุธ พุทธรักษา อายุ 27 ปี นายธนาธิป อันพา อายุ 32 ปี และนายอุทัย ศรีสะอาด ชายสัญชาติพม่า

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้มีการกระจายกำลังกัน พร้อมกับมีการประกาศแจ้งเตือน และขอความร่วมมือจากประชาชนให้เฝ้าระวัง รวมถึงหากพบเห็นกลุ่มบุคคลที่น่าสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจทันที ซึ่งผลปรากฏว่า เวลาผ่านไปราว 2 ชั่วโมงเศษ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในที่ต่างๆ จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องขังสัญชาติไทย ที่แหกเรือนจำชั่วคราวคลองโพธ์กลับมาได้ 9 คนแล้ว โดยมีรายงานว่า แต่ละคนที่หลบหนีออกมาจากเรือนจำ ระบุ อยากกลับบ้าน เพราะมีความเป็นห่วงพ่อแม่ และแฟน จึงอาศัยในช่วงระหว่างที่ถูกกักตัวเพื่อคัดกรองโรคอยู่ในห้องรวมภายในเรือนจำ ร่วมกันงัดฝ้าเพดานห้องจนทะลุก่อนจะพากันแยกย้ายหลบหนี ยังอยู่ในระหว่างติดตามตัวผู้ต้องขังที่เหลืออีก 2 คน คือนายณัฐพงษ์ ชาวไทย และนายอุทัย ชาวพม่า

ล่าสุด ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายณัฐพงษ์ และนายอุทัย ได้อีก 2 คน ซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตามตัวผู้ต้องขังกลับมาได้ครบแล้วทั้ง 11 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมตัวอย่างเคร่งครัด