จากกรณี วันที่ 24 พ.ย. 61 นายปิยพงษ์ บุตรโส เจ้าของบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ร้องเรียนว่า ผู้เช่าบ้าน หรือนางสาวสุดารัตน์ พงษ์สมศรี ค้างชำระค่าบ้านเช่าจำนวน 1 เดือน และเมื่อตนเดินทางมาดูที่บ้านเช่าดังกล่าวรู้สึกตกใจ เนื่องจากสภาพของบ้าน พังเสียหาย มีต้นหญ้าขนปกคลุมจำนวนมาก ลักษณะคล้ายบ้านร้าง อีกทั้งยังพบว่า มีเห็บหมัดจำนวนมาก อยู่ภายในทุกซอกทุกมุมของบ้าน
ซึ่งแม้ว่าช่างรับเหมาที่มาซ่อมแซมจะใช้ยาฆ่าเห็บหมัดโรยตามจุดที่มีเห็บหมาอยู่ แต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้ทั้งหมด เนื่องจากมีจำนวนมาก กระทั่งช่างผู้รับเหมาซ่อมแซมต้องเดินออกมาปัดเป่าเสื้อผ้าของตนเองอยู่เป็นระยะ เพราะกลัวว่าเห็บหมาจะไต่ขึ้นบนเสื้อผ้าและเข้าไปในหูหรือบนศีรษะนั้น
วันที่ 26 พ.ย. 61 นายปิยพงษ์ บุตรโส เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ตนให้ช่างรับเหมาซ่อมแซมบ้านต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แล้ว หลังจากที่เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ตนให้แม่บ้านเข้ามาขนย้ายสิ่งปฏิกูลที่ผู้เช่าทิ้งไว้ออกจากบ้าน ซึ่งพบว่า ระหว่างที่ช่างรื้อพื้นบ้านชั้น 2 มีเห็บหมาจำนวนมากไต่ออกมา รวมถึงอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ กระทั่งช่างต้องนำยาฆ่าเห็บหมัดมาโรย และใช้สเปรย์กำจัดเห็บหมัดฉีดตามซอกมุมต่าง ๆ
ขณะเดียวกัน ช่างได้ขึ้นไปตรวจสอบบริเวณบนช่องเพดานบ้าน พบว่า มีลักษณะคล้ายการนำแผ่นไม่ขึ้นไปวาง และมีแผ่นกระเบื้องหลังคาถูกถอดออก คล้ายกับจงใจให้เกิดความเสียหายกับตัวบ้าน ซึ่งจากความเสียหายที่เกิดขึ้น ตนต้องเสียค่าซ่อมแซมบ้านไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท
ส่วนเรื่องคดีความ ขณะนี้ตนได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนแล้วว่า ได้มีการออกหมายเรียกผู้เช่ารายนี้มาสอบสวนแล้วซึ่งตนก็ต้องการให้ผู้เช่ามาชี้แจงเหตุผลว่า เหตุใดจึงปล่อยให้บ้านของตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้
ด้าน
นางทอง(นามสมมติ) เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ในช่วงที่ผู้เช่ามาเช่าบ้านหลังนี้ ได้นำสุนัขมาเลี้ยงไว้หลายตัว โดยผู้เช่าซึ่งเป็นผู้หญิงและผู้ชายรายนี้มาอาศัยอยู่ มักจะไม่มาคลุกคลีกคลีกับเพื่อนบ้านมากนัก แต่จะเก็บตัวเงียบและอาศัยอยู่ในบ้านกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ ซึ่งในบางวัน เพื่อนบ้านมักจะได้ยินเสียงคล้ายการรื้อข้าวของ และทั้งคู่มักจะส่งเสียงดังคล้ายกับคนทะเลาะกัน รวมทั้งเสียงเห่าของสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
ตนคาดว่าผู้เช่าทั้งสอง อาจจะนำสุนัขขึ้นไปเลี้ยงบนชั้น 2 ของบ้านด้วย ซึ่งตนและชาวบ้านก็ไม่กล้าไปเตือน เพราะหวาดกลัวสุนัขที่ผู้เช่าเลี้ยงไว้ รวมทั้งพฤติกรรมเก็บตัวเงียบของสามีผู้เช่าด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่สอบปากคำเจ้าของบ้านและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเพิ่มเติมแล้ว ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นได้ออกหมายเรียก นางสาวสุดารัตน์ พงษ์สมศรี ผู้เช่า เข้ามาให้ปากคำแล้ว ซึ่งหากไม่มาตามหมายเรียก เจ้าหน้าที่ก็จะออกหมายจับต่อไป โดยเบื้องต้น ผู้เช่ารายนี้มีโอกาสเข้าข่ายความผิดข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ส่วนจะมีความผิดหรือข้อกล่าวหาอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ จะต้องรอให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาให้ปากคำก่อน