จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊กโพสต์เรื่องราว ระบุว่า ช่างภาพรายหนึ่งมีพฤติกรรมทักเฟซบุ๊กหญิงสาว ติดต่อถ่ายแบบใส่ บิกินี แต่เมื่อไปถ่ายจริง ได้ให้นางแบบถ่ายในอ่างอาบน้ำ พูดหว่านล้อมให้ถอดเสื้อผ้าปกปิดผิวกายออก ไม่เหมือนที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก
วันที่ 26 พ.ย. 61
น.ส.แตงโม (นามสมมติ) นางแบบอิสระ อ้างว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ช่างภาพคนดังกล่าวใช้ชื่อว่า แก้ว และติดต่อตนผ่านเฟซบุ๊กมาเมื่อประมาณเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โดยทักมาว่าอยากถ่ายรูปตน หากสนใจให้ติดต่อกลับไป ซึ่งเมื่อตนเข้าไปดูโปรไฟล์ก็เห็นว่าช่างภาพคนนี้ถ่ายภาพแนวไม่วาบหวิบมาก ตนจึงทักไปสอบถาม ซึ่งช่างภาพรายนี้ก็ส่งภาพตัวอย่างมาให้ดู พร้อมแจ้งว่า ถ่ายเซ็กซี่เท่านั้น และต้องมีการป้องกันเรือนร่าง อย่างการปิดหัวนม เพราะปกติตนจะไม่รับงานถอดเสื้อผ้าทั้งหมด หรือถอดเสื้อใน ซึ่งช่างภาพตกลงทุกอย่าง จึงถึงนัดถ่ายแบบโดยคิดค่าตัว 3,000 บาท
น.ส.แตงโม กล่าวอีกว่า ปกติตนถ่ายงานลักษณะนี้อยู่แล้ว ซึ่งก่อนถึงวันถ่ายแบบตนยังทักไปสอบถามเพื่อน ๆ นางแบบที่เคยไปถ่ายกับช่างภาพคนนี้ ให้ข้อมูลกับตนว่า ช่างภาพคนนี้ถ่ายภาพสวย เป็นหมอ แต่ให้ระวังตัวหน่อย เพราะเขาคารมดี โน้มน้าวเก่ง ซึ่งตนไม่ได้เอะใจใด ๆ และเดินทางไปถึงสถานที่นัดหมายตามปกติ และเมื่อได้เจอกัน ตนสังเกตว่า ช่างภาพรายนี้สุภาพ เป็นหมอ จึงไม่ได้คิดแปลกใจ ใช้เวลาถ่ายแบบราว 3 ชั่วโมง
เมื่อไปถึงห้องช่างภาพรายนี้เริ่มขอดูชุดที่เตรียมไป ซึ่งตนเตรียมไปหลายแบบ ปรากฎว่าชุดที่ช่างภาพเลือกเป็นชุดบีกินีทั้งหมด เริ่มต้นถ่ายจากชุดชั้นใน และสั่งให้ตนห้ามปิดหัวนม โดยอ้างว่ารีทัชยาก ซึ่งตนก็พยายามบอกว่าที่ตกลงกันมามันต้องปิดหัวนม แต่ช่างภาพก็ยืนยันว่าไม่เป็นปัญหา สามารถรีทัชได้ ส่วนตัวเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี
จากนั้นเมื่อเริ่มถ่าย มีชุดหนึ่งที่สายเสื้อในหลุดลงมา แล้วตนจับสายเสื้อในขึ้น ช่างภาพรายนี้ก็บอกต่อว่า ไม่เป็นไรไม่ต้องจับ ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ จากนั้นช่างภาพพูดต่อว่าให้ถอดเลยดีกว่า ซึ่งตนก็เถียงไปว่าที่ตกลงกันมาไม่มีแบบนี้ ตนไม่ถ่ายแบบโนบรา จึงบอกว่าหากให้ถอดต้องจ่ายเพิ่ม ซึ่งช่างภาพก็ไม่ได้บอกจะจ่ายหรือไม่ ด้วยขณะนั้นตนกลัวว่าช่างภาพจะเอาเรื่องของตนไปบอกต่อ ๆ กัน แล้วทำให้ตนเสียงงาน จึงยอมทำไป อีกทั้งตนก็ไม่กล้าขัด เนื่องจากกลัวถูกทำร้าย
ตลอดการถ่ายทำช่างภาพก็จะนำมือมาจับผมตน เอามาปิดหน้าอก เอามาบัง พยายามโดนเนื้อโดนตัว แต่ที่ตนไม่ขอกลับบ้านก่อน เพราะกลัวช่างภาพจะมองว่าตนไม่มืออาชีพ
นอกจากนี้ ช่างภาพคนดังกล่าวให้ตนลงไปถ่ายในอ่างน้ำที่ผสมน้ำนม และดอกไม้ พร้อมพยายามบอกให้ตนทำหน้าเซ็กซี่เหมือนกำลังช่วยตัวเอง ตอนนั้นสีหน้าตนแสดงออกว่าไม่พอใจมาก และไม่ยอมทำตาม เพราะกลัวภาพหลุด จากนั้นตนจึงอ้างว่าหนาวแล้ว ช่างภาพจึงหยุดถ่ายแล้วบอกให้ตนอาบน้ำ แต่ก่อนอาบน้ำช่างภาพรายนี้ขอเข้าห้องน้ำก่อน ซึ่งตนไม่ได้คิดว่าเขาจะแอบถ่ายในห้องน้ำ ตนก็อาบน้ำตามปกติ แต่สิ่งที่แปลกใจอย่างหนึ่ง คือช่างภาพรายนี้นำอุปกรณ์กล้องทั้งกระเป๋าไว้ในห้องน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องแปลก เพราะห้องน้ำมีความชื้น ไม่ควรนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปไว้ในด้านใน อีกทั้งเมื่อเกิดเรื่องจนเป็นข่าว กลุ่มนางแบบคุยกันว่าถูกพฤติกรรมเดียวกัน คือนางแบบที่ไปถ่ายเกือบทุกคนต้องถูกให้อาบน้ำ จึงคิดว่าอาจจะถูกแอบถ่ายเหมือน ๆ กัน
หลังเป็นข่าว นายแก้วส่งข้อความทางเฟซบุ๊กไปหาเพื่อนนางแบบหลายคน ระบุประมาณว่า “พี่แพ้แล่ว น้องชนะ ขอให้จบเรื่องนี้ และข้อมูลในข่าวไม่เป็นจริง กลัวครอบครัวเดือนร้อน ขอให้จบ” แต่ตนเองต้องการบอกกับนายแก้วว่า เหตุใดจึงไม่คิดถึงครอบครัวของผู้เสียหายบ้าง ทุกคนเพียงต้องการให้นายแก้วหยุดการกระทำแบบนี้ เพราะผู้เสียหายไม่ได้มีใครต้องการได้เงิน แต่ห่วงเพียงว่าเรื่องดังกล่าวนี้จะทำให้วงการช่างภาพ นางแบบ ขาดความน่าไว้ใจเท่านั้น