จากกรณีนายน้อย หรือนายโกมินทร์ อายุ 45 ปี ผู้เสียหาย ถูกคู่อริ 2 พี่น้องขาโจ๋ ประจำตลาดบางแค ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลางตลาด ทำให้ได้รับบาดเจ็บ สาเหตุมาจากไม่พอใจที่ผู้เสียหายขอให้ช่วยเลื่อนรถจักรยานยนต์ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 22 พ.ย. 64
จากหลักฐานกล้องวงจรปิด จับภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุ 2 คน เดินไล่ตามผู้เสียหาย ที่มีการด่าทอเป็นระยะ ก่อนชักอาวุธปืนยิงใส่ 3 นัด จนได้รับบาดเจ็บ และถูกนำส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นตลาดสด เปิดช่วงเช้า ตลาดกิตติ ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรเกษม แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ จุดที่ผู้เสียหายถูกยิงคือบริเวณ หน้าห้องน้ำ
นายน้อย อายุ 45 ปี มีบาดแผลที่หูซ้าย เย็บ 3 เข็ม และเท้าซ้าย ถูกกระสุนทะลุ กระดูกแตก เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องช่วงเช้ามืดของวันที่ 21 พ.ค. 64 ขณะที่ตนเองกำลังทำงานอยู่ในตลาด และขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง แต่มีรถจักรยานยนต์ของนายอุ้มจอดขวางอยู่ ตนเองจึงบอกว่าให้ขยับรถแต่นายอุ้มเกิดความไม่พอใจ และบอกว่า "วันนี้กูพร้อมมีเรื่อง" ในลักษณะเมามาก จึงเกิดมีปากเสียงกับตนเองขึ้น จากนั้นนายอุ้มยังบอกอีกว่าจะเอาเรื่องตนเอง แต่ระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์รับจ้างมาห้ามเอาไว้ นายอุ้มจึงบอกว่าโชคดีที่พี่วินขอไว้ "วันนี้ไม่ทำ แต่พรุ่งนี้ไม่แน่" และยังบอกไว้ว่า "เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะกลับมา"
กระทั่งเมื่อช่วง 02.00 น. ของวันที่ 22 พ.ย. 64 ตนเองกำลังเตรียมทำงานตามปกติที่บริเวณตลาดที่เกิดเหตุ ช่วงแรกนายอุ้มขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าตลาด ตัวเองกำลังจะเดินไปพูดคุย แต่หลังจากนั้นไม่นานนายเอสได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มีชายอีกคนหนึ่งเป็นคนขับ และเมื่อลงมาจึงโวยวายเสียงดังบอกว่า "กูคือเอส บางแค" และบอกว่า "มึงทำอะไรน้องกู" จากนั้นมีการยิงปืนหนึ่งนัด แต่ไม่โดน และมีการถามตัวเองว่า "กูให้มึงเลือก มึงจะเอาหัวหรือจะเอาเท้า" จากนั้นนายเอสก็ยิงปืนนัดที่ 2 กระสุนถูกนิวก้อยซ้ายของตนเอง ขณะนั้นเริ่มรู้สึกเจ็บ และหลังจากนั้นนายเอสก็ยิงนัดที่ 3 แต่ตนเองหลบได้ จากนั้นนายเอสได้เข้ามาบังคับให้ตนเองไหว้ขอโทษนายอุ้ม แต่ตนเองไม่ทำ เพราะนายอุ้มอายุน้อยกว่า นายเอสจึงใช้ปืนตบเข้าที่หูด้านซ้ายของตนเองจนบาดเจ็บ ก่อนที่จะหลบหนีไป ก็พูดอีกครั้งว่า "กูคือเอส บางแค กูไม่กลัวใครกระทั่งตำรวจ"
ตนเองยืนยันว่าตนเองกับนายเอสไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหากันมาก่อน ส่วนนายอุ้ม ตนเองเคยเห็นว่ามานั่งรับประทานอาหารที่ตลาดบ่อย แต่ไม่เคยมีปัญหากัน เคยมีปัญหาเรื่องขอให้ขยับรถให้เท่านั้น หลังจากที่เกิดเรื่อง ตนเองก็ไปสอบปากคำที่ สน.เพชรเกษม โดยตนเองยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ ระหว่างจะยอมความหรือจะเอาเรื่องถึงที่สุด เพราะกังวลในความปลอดภัย ตนเองก็มีภรรยา มีลูกที่ต้องรับผิดชอบดูแล
นายสำราญ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อคืนเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 02.00 น. ขณะที่ตนเองกำลังนั่งเก็บเงินอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ จากนั้นคนที่บาดเจ็บคือนายน้อย มีการทำงานตามปกติ คือเข็นผักในตลาด ต่อมากลุ่มชายที่ก่อเหตุจำนวน 2 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณด้านหน้าตลาด และมีการลงมามีปากเสียงกับนายน้อย ก่อนที่จะยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวน 2 นัด
หลังจากนั้นนายเอส บางแค มีการด่าทอและโวยวายนายน้อยมาจนถึงกระทั่งจุดที่ตนเองนั่งอยู่ และมีการยิงที่พื้นใส่นายน้อยอีก 1 นัด รวมทั้งหมดเป็น 3 นัด จากนั้นมีการบังคับให้ในน้อยขอโทษ โดยในน้อยก็ได้ขอโทษ และมีการใช้กระบอกปืนตบที่บ้องหูด้านขวาของนายน้อยด้วย หลังจากนั้นกลุ่มคนก่อเหตุก็ได้หลบหนีออกจากตลาดไป จากนั้นตนเองได้เดินไปดูอาการของนายน้อย ซึ่งเห็นว่าได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเท้าด้านซ้ายถูกกระสุน บริเวณหูด้านขวาฉีกขาด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไวและอุกอาจมาก
ตนเองรู้จักกับนายน้อย ซึ่งทำงานอยู่ที่ตลาดแห่งนี้มานานหลาย 10 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นนายน้อยมีปัญหากับใคร นิสัยดีมาก ตั้งใจทำมาหากินตลอด ส่วนผู้ก่อเหตุ เอส บางแค ตนเองไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน