วันที่ 23 พ.ย.64 โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ สั่งหยุดเรียนออนไซต์ 4 วัน เร่งทำความสะอาดสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครอง หลังพบนักเรียน-ผู้ปกครองติดเชื้อโควิด-19 รวม 19 ราย โดยเจ้าหน้าที่กูภัยเทศบาลตำบลบ้านเกาะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 ต่างระดมแรงช่วยกันฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิดที่โต๊ะอาหาร ในห้องเรียน สระว่ายน้ำ พร้อมทั้งทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนทั้งในและนอกอาคารเรียนทั้งหมด
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21-22 พ.ย.64 ที่ผ่านมา พบเด็กนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 16 คน แบ่งได้ 1.นักเรียนชั้น ป.2 จำนวน 7 คน 2.นักเรียนชั้น ป.3 จำนวน 6 คน 3.นักเรียนชั้น ป.5 จำนวน 2 คน 4.นักเรียนชั้นป.6 จำนวน 1 คน
นายศักดิ์สิทธิ์ สิงห์ทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงเรียน หลังจากทราบข่าวได้นำผู้ติดเชื้อทั้งหมดส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าเกิดจากรถรับส่งนักเรียนโซนท่าปลา ซึ่งโรงเรียนเปิดเมื่อวันที่ 1พ.ย.64 ซึ่งก่อนหน้าก็ไม่พบผู้ติดเชื้อ จนกระทั่งเข้าสัปดาห์ที่ 3 เนื่องจาก จากจุดคลัสเตอร์เสี่ยงในโรงเรียนห้องเรียน 2 ภาษา หลังแพทย์แจ้งว่าเด็กบางคนบ้างก็ติดมาจากภายในครอบครัว
จากการตรวจของแพทย์กลุ่มแรกมาจากตึกอาคาร 2 ภาษา จากนั้นได้นำเด็กมาตรวจทั้งหมดกว่า 200 คน รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาครูพี่เลี้ยงคนงานต่างๆ ไม่พบเชื้อ โดยทางโรงเรียนได้เสนอกับผู้ปกครองให้เด็กแต่ละคนนำสิ่งของเครื่องใช้มาส่วนตัว นำอาหาร แก้วน้ำ ฯลฯ เอามาเอง เวลาเรียนก็สวมแมสก์ 100% ส่วนการฉีดวัคซีนในโรงเรียน ขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนให้เด็กที่มีอายุถึงกำหนด เช่น นักเรียนชั้น ป.6 บางส่วน
ด้านนายศุภมิตร ปาณธูป รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า หลังพบนักเรียนโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์แห่งที่ 1 ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 21พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด (23 พ.ย.64) พบนักเรียนและผู้ปกครองติดเชื้อฯ ทั้งหมด 19 ราย มาจากหลายสาเหตุแต่จุดที่พบเชื้อ อยู่ในอาคารและสภาพแวดล้อมเดียวกัน คือเป็นอาคารเรียนสองภาษา ซึ่งจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่พบว่า อาคารเรียนที่พบการติดเชื้อ ในห้องเรียนมีการเว้นระยะห่างของโต๊ะและเก้าอี้ไม่ถึง 1 เมตร และมีนักเรียนเต็มห้อง ทำให้มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ จุดที่เป็นข้อสังเกตอีกอย่างในอาคารเรียนมีจุดที่สัมผัสร่วมของนักเรียน คือ ราวบันได ประตูห้องเรียนที่เป็นแบบกระจกบานเลื่อน ตู้ทำน้ำเย็น ซึ่งต้องมีการทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง และต้องให้เด็กล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์เป็นประจำ
นอกจากนี้ คลัสเตอร์โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ แห่งที่ 1 ยังพบกลุ่มเสี่ยงสูงต้องกักตัว 14 วันมากถึง 438 ราย ขณะเดียวกันโรงเรียนได้ประกาศหยุดเรียนกรณีพิเศษ 3 วัน ซึ่งทางคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด กำลังพิจารณาอาจขอขยายเป็น 14 วัน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนและกลุ่มเสี่ยงสูงมีจำนวนมาก ประกอบกับเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่มีนักเรียนรวมบุคลากรมากกว่า 2,700 คน
รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ภาพโดยรวมตั้งแต่เปิดภาคเรียนที่ 2 วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา พบนักเรียนนักศึกษาติดเชื้อแล้ว 45 ราย กระจายใน 5 อำเภอ คือ เมือง ลับแล น้ำปาด ท่าปลา และ บ้านโคก โดยมีเด็กติดเชื้อแล้วมาเรียนในโรงเรียน ซึ่งทำให้เกิดในคลัสเตอร์โรงเรียน 2 แห่ง คือ โรงเรียนชุมชนไผ่ล้อมวิทยา อ.ลับแล และ โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์แห่งที่ 1
ทั้งนี้ การคัดกรองด้วยเครื่องเทอโมสแกน ที่ใช้ตามจุดเข้าออกสถานที่ต่างๆนั้น ใช้เพื่อสแกนอุณหภูมิร่างกายเป็นการคัดกรองได้ระดับหนึ่งเท่านั้น ถ้าเด็กไม่มีไข้ ก็ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า เป็นป่วย ซึ่งการติดเชื้อในระยะหลังผู้ติดเชื้อมักไม่มีไข้ แต่การคัดกรองที่สำคัญคือ การประเมินอาการเสี่ยงของนักเรียนทุกวันโดยการซักถามก่อนเข้าห้องเรียนหรือโรงเรียน และติดตามเมื่อนักเรียนหยุดเรียน เน้นมาตรการป้องกัน 44 ข้ออย่างสม่ำเสมอ
ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วน - สวท.อุตรดิตถ์ กรมประชาสัมพันธ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ครูโคราชรับมือถือนักเรียนมาคุย แล้วติดโควิดทั้งคู่ สั่งปิดโรงเรียนทันที 14 วัน
- On site ได้ 3 วัน สระแก้วสั่งปิดแล้ว 3 โรงเรียน พบครู-นร.ติดเชื้อ สั่งกักตัว 50 ราย
- โรงเรียน กทม. On Site 15 พ.ย. นี้ เตรียม ATK ตรวจโควิดเด็กนักเรียนในสังกัดทุกคน
Advertisement