มาอีก! ฝรั่งเกาะรถง้อแฟน สาวรับขอเลิกฉุนคบซ้อน ปัดเลียนแบบเสี่ยชัชหวังดัง (คลิป)

นาทีระทึก! เพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part1" ออกมาโพสต์คลิปเหตุการณ์ชายหญิงรุ่นใหญ่คู่หนึ่ง เห็นว่าชายสวมเสื้อสีขาวทำท่ากระโดดเกาะหน้ากระโปรงรถที่กำลังเคลื่อนไปด้านหน้าอย่างช้า ๆ เป็นระยะประมาณ 100 เมตร ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะจอดตรงริมทางข้างป่ายูคาลิปตัส และคนขับซึ่งเป็นผู้หญิงเสื้อน้ำเงินเปิดประตูลงมามีปากเสียงกัน วิ่งไล่รอบรถกันอยู่พักหนึ่ง โดยฝ่ายชายพยายามจะมาเปิดประตูรถฝั่งคนขับแต่ไม่เป็นผล จากนั้นฝ่ายหญิงถอดรองเท้าวิ่งไล่เพื่อจะฟาดใส่ฝ่ายชาย แต่ฝ่ายชายหลบได้ทัน ฝ่ายหญิงจึงกลับขึ้นรถไป

ฝ่ายชายกระโดดขึ้นไปเกาะบนฝากระโปรงหน้ารถอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงขับรถออกไปอยู่นานหลายนาที จนฝ่ายหญิงยอมเปิดประตูออกมาเจรจาด้วย แต่ไม่นานก็ปิดเข้าไปอีกรอบ แม้ว่าระหว่างนั้นจะมีรถไรเดอร์ขับผ่านมา และพยายามเข้ามาห้ามปรามแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ฝ่ายหญิงยังปาขวดน้ำใส่ฝ่ายชาย พร้อมกับถอดรองเท้า 1 ข้างแล้วปาใส่ โต้เถียงกันอีกรอบ ก่อนที่จะถอดรอกเท้าอีกข้างแล้วก็ทำท่าจะปาใส่ คนที่เห็นเหตุการณ์และเข้าไปห้ามปราม

วันที่ 23 พ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ หมู่ 7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เป็นถนนหน้าร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างและป่ายูคาลิปตัส

นางสาวอุ๊ แฟนผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า สถานะระหว่างตนกับนายกี้ คือแฟนที่คบหาดูใจกันมาประมาณ 7 ปี ครอบครัวรับรู้ ยังไม่แต่งงาน แต่ด้วยความที่นายกี้มักจะเจ้าชู้ และไป ๆ มา ๆ ระหว่างไทยกับโปรตุเกส ก็เลยทำให้มีปัญหาทะเลาะกับตนบ่อย จนตนรู้สึกอยากเลิก จนกระทั่งทำให้เกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ขึ้น เมื่อวานนี้หลังจากทะเลาะกัน ตนก็บอกกับนายกี้ว่า "ห่างกันสักพักนะ" แล้วก็ทำให้ทะเลาะกันใหญ่โต จนนายกี้โทรไปหาครอบครัวที่โปรตุเกส ส่วนตนก็เห็นว่าน้ำหวาน เพื่อนตน คนขับรถในคลิปจะไปตลาด ตนจึงขอติดรถไปด้วย แต่ไม่ได้บอกนายกี้”จึงเป็นเหตุให้เขาคิดว่าตนจะหนี ก็เลยขับรถตามมาแล้วก่อเหตุตามในคลิป

ซึ่งเมื่อวานนี้ตนซึ่งนั่งอยู่ในรถก็พยายามบอกแล้วว่าให้ลงจากรถ ค่อยกลับไปคุยกันที่บ้าน แต่เขาไม่ยอม บวกกับปกติเวลาทะเลาะกัน นายกี้จะเป็นคนเสียงดัง เป็นคนไม่ยอม มีปัญหาอะไรจะต้องเคลียร์ให้จบตรงนั้น ส่วนตนเป็นคนที่ไม่ชอบปะทะไม่ชอบเสียงดัง เพราะรู้ตัวดีว่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ จึงเลือกที่จะเดินหนีตลอด หลังจากเกิดเหตุจนก็มีโอกาสได้โทรบอกเลิกนายกี้ไปแล้ว บวกกับส่งคลิปในโซเชียลฯ ให้ครอบครัวของนายกี้ที่โปรตุเกสดู ครอบครัวเขาก็ไม่โอเค จึงตกลงกันว่าจะเลิก ต่างคนต่างอยู่ เพราะใจตัวเองก็อยากเลิก ส่วนนายกี้เองก็ยอมเลิก และตั้งใจว่าอีกไม่กี่วันคงกลับประเทศไป แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยคุยกันว่าสิ้นปีนี้นายกี้จะพาตนไปพบผู้ใหญ่ที่โปรตุเกส เพื่อตกลงเรื่องสู่ขอกันก็ตาม

ทั้งนี้ ที่สำคัญตนไม่ได้ตั้งใจว่ามันจะเกิดเป็นกระแสโซเชียลจ นหลายคนเอาไปเปรียบเทียบว่าคล้ายกับเหตุการณ์ของเสี่ยชัช สายเปย์ ซึ่งตรงนี้ตนยืนยันเลยว่าไม่เหมือนแน่นอน เพราะนายกี้ไม่ได้เปย์หรือเสนอเงินจำนวนมากให้ และตนก็ไม่ยินดีที่จะรับงานในวงการบันเทิงเหมือนคู่นั้นด้วย

สาวประเภทสองในคลิปที่ใช้รองเท้าปาชายเสื้อขาวด้วยชื่อน้ำหวาน (นามสมมติ) อายุ 37 ปี บอกว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2-3 วัน นางสาวอุ๊ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนตน กับชายเสื้อขาวชื่อนายกี้ อายุ 34 ปี อดีตครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งคู่คบกันมาประมาณ 7 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน แต่ช่วงพักหลังมาเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นายกี้ตกงาน ไม่มีรายได้ ส่วนนางสาวอุ๊ก็ไม่ได้ทำอะไร ทั้งคู่ก็เลยต้องพากันมาขออยู่กับตนที่บ้านพักด้วย

แต่ด้วยความที่นายกี้มีนิสัยเจ้าชู้ ชอบคุยกับผู้หญิงอื่น ชอบเที่ยว ทำให้นางสาวอุ๊ไม่พอใจ จึงพยายามขอตีตัวออกห่าง ขอเลิกหลายรอบ ซึ่งแน่นอนว่านายกี้ก็ไม่ยอม จึงทำให้ทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ขณะที่ทั้งคู่พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักของตนก็มีปัญหาทะเลาะเรื่องเดิม บวกกับตนตั้งใจจะขับรถฟอร์จูนเนอร์ที่เกิดเหตุไปตลาดนัดอยู่แล้ว จึงทำท่าจะขับออกไป ซึ่งนางสาวอุ๊ขอติดรถไปด้วย เพื่อจะไปที่หอพักของเพื่อนอีกคน จากนั้นพอทั้งคู่ออกรถไป ทำให้นายกี้ขับรถมอเตอร์ไซค์ตามไปทันที แล้วพอมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุ ก็เป็นไปตามคลิปวิดีโอ

ส่วนประโยคที่มีการคุยกันนั้น ส่วนใหญ่ตนจะบอกให้นายกี้ลงจากรถ แล้วค่อยกลับไปคุยกันที่บ้านพัก และพยายามบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจ แต่นายกี้ไม่ฟัง ไม่เชื่อ ตนก็เลยโทรแจ้งตำรวจจในช่วงที่เข้าไปในรถ แล้วหลังจากนั้นนอกเหนือจากคลิปคือนายกี้กลับไปเอารถมอเตอร์ไซค์ แล้วตนก็ขับไปอีก 50 เมตร ตำรวจก็มาพอดี จึงได้ไกล่เกลี่ยและแยกย้ายกันตั้งแต่เมื่อวาน ไม่ได้มีการแจ้งความ

ส่วนสาเหตุที่ชายเสื้อขาวกระโดดเกาะรถนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการเลียนแบบเสี่ยชัช สายเปย์ เพราะเขาเป็นชาวต่างชาติ คงไม่รู้จัก น่าจะเพราะต้องการให้ผู้หญิงลงมาคุยมากกว่า เพราะเขากลัวว่าตนจะพานางสาวอุ๊หนีไป