กรณีเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสิงห์บุรี และเจ้าหน้าที่ด้านจิตเวชเด็กได้พา นางสาวสมใจ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วีระพันธ์ วงค์อิน พนักงานสอบสวน สภ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ว่าหลานสาวของตน คือ ด.ญ.บี (นามสมมติ) ได้ถูกนายกาเหว่า อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ข่มขืนมานาน จนหลานสาวมีอาการซึมเศร้านั้น
ล่าสุด วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่มายังหมู่ 2 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง สิงห์บุรี เพื่อตามหาบ้านของนายกาเหว่า นางซับ อายุ 56 ปี แม่ของนายกาเหว่า ย่าของเด็ก เล่าว่า ตนทุกข์ใจ ที่ลูกชายไม่ทำมาหากิน ค่าไฟ 2 เดือน 900 กว่าบาท ก็ไม่เคยจ่าย ตนต้องมารับผิดชอบแทน บางทีเวลาตนซื้อกับข้าวมาจะเก็บไว้กิน ลูกชายและสะใภ้ชอบมาขโมยไป ลูกชายยังชอบด่าทอตน เวลาที่ตนไม่มีเงิน เวลาที่ตนด่าว่าทำไมไม่หางานทำ ชอบว่าตนว่า "อีแก่ อีกแก่ เหี้- อีนรก จะฟันคอมึงให้ขาด" และบางครั้งเอาไม้กวาดมาตีที่ไหล่ด้านซ้ายของตน
แต่ก่อนตนและลูกชายทำงานรับเหมาก่อสร้าง แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงตกงาน หาปลามาขาย ทำมาหากินคนเดียว ส่วนลูกชายนั้นว่างงานมาได้ 2 ปี อยู่แต่บ้านไปวัน ๆ ภรรยาของลูกชายก็ด้วย เอาแต่นอนเฉย ๆ ปกติลูกชายยของตนไม่ดื่มเหล้า แต่เสพยามานานแล้ว และลูกสะใภ้ก็ร่วมเสพด้วย
ส่วนเรื่องที่ลูกชายของตนข่มขืนหลานสาวนั้นตนได้ยินมา 5 ปีแล้ว เพราะเคยได้ยินเวลาที่ลูกของตนกับลูกสะใภ้ทะเลาะกัน แล้วลูกสะใภ้พูดว่า "ถึงกูจะเหี้- กูก็ไม่ข่มขืนลูกแบบมึงหรอก" ตอนนั้นตนไม่ได้สนใจ เพราะเห็นว่า ด.ญ.บี อายุ 14 ยังอายุน้อยอยู่ จนตนใช้ให้ ด.ช.ซี หลานชายของตนหยิบของกินข้างในบ้านให้ ด.ช.ซี เดินมาบอกกับตนว่าพ่อทะเลาะกับแม่ บอกว่า "ย่าหนูเห็นนะ พ่อข่มขืม ด.ญ.บี 4-5 ครั้งแล้ว" ซึ่งตนเครียดมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงดื่มสุรา หลานทั้ง 3 คนไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะว่าลูกชายกับลูกสะใภ้ไม่ให้หลานออกจากบ้าน
สำหรับเหตุผลที่ลูกสะใภ้ไม่ยอมบอกตั้งแต่แรกเพราะว่าลูกชายตนจะทำร้ายร่างกาย และกลัวลูกจะได้รับอันตราย อ้างว่าเครียดและเสียใจ จนอยากผูกคอตายทุกวัน