ไฟไหม้โรงงานบีบอัดกระดาษ จ.ชลบุรี เผาวอดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังควบคุมเพลิง หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เครื่องจักรไฟช็อต หวิดไฟไหม้มาแล้ว
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.ต.นคร ราชนนสีลาด สว.สอบสวน สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ภายในบริษัทฟอริสท์รีนิวเอเบิลรีซอร์สเซส (ไทยแลนด์) จำกัด อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เทศบาลนครแหลมฉบังเทศบาลเมืองศรีราชา เทศบาลตำบลบางพระ นำรถดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมี น.ส.นริศรา ทิพยางกูร ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.ศรีราชา และนายธนะพัฒน์ พันเฉลิมชัยโชค นายกเทศมนตรีนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่โรงงานขนาดใหญ่มีลักษณะปลูกติดกัน 3 โกดังที่บริเวณโกดังที่ 2 อยู่ระหว่างกลางซึ่งเป็นโรงงานบีบอัดกระดาษพบกลุ่มควันลอยพุ่งออกมาก่อนที่จะลุกลามไปติดก้อนกระดาษที่วางทับถมกันเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวที่บริเวณหลังคาซึ่งเป็นแผ่นฉนวนกันความร้อนถูกเพลิงลุกไหม้ด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังรถดับเพลิงกว่า 10 คันฉีดน้ำเพลิงสกัดเพลิงตามจุดต่างๆ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ รถดับเพลิงต้องสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาดับเพลิงจากการตรวจสอบไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
สอบถามคนงานในบริษัทกล่าวว่าก่อนเกิดเหตุเครื่องจักรบีบอัดกระดาษได้เกิดไฟช็อตและเกิดประกายไฟขึ้น ก่อนที่จะเผากระดาษที่เข้าไปบีบอัด ในขณะเดียวกันเศษที่ติดไฟก็ได้ลอยขึ้นไปติดหลังคาซึ่งเป็นแผ่นฉนวนกันความร้อนส่งผลให้เกิดเพลิงลุกไหม้อีก
จากการตรวจสอบประวัติโรงงานแห่งนี้พบว่าเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้เครื่องจักรบีบอัดกระดาษมาแล้ว 1 ครั้ง โดยขณะนั้นสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ประสานรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้าช่วยในการดับไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถดับเพลิงได้จึงได้ให้เจ้าของทำการจ้างรถแบ๊กโฮให้เข้ามาในพื้นที่เพลิงไหม้เพื่อทำการตักกระดาษแยกกระดาษส่วนดีออก พร้อมกับทำการเคลียร์กองกระดาษที่ถูกไฟไหม้เพื่อให้รถดับเพลิงทำการน้ำฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ไฟขยายวงกว้าง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป