จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 พบศพสาวประเภทสองลอยคว่ำหน้าในคลองส่งน้ำ พื้นที่รอยต่อบางแตนบางเตย หมู่ที่ 11 ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี มีร่องรอยแผลบริเวณลำคอ คล้ายถูกของมีคมบาดยาวลึกถึงหลอดลม เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอภินัทธ์ ปลูกปลื้ม หรือ เอ อายุ 24 ปี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติตตามตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อนายวรวัฒน์ จันเทียม หรือ ก็อต อายุ 26 ปี มาสอบปากคำ จึงทราบว่าทั้งคู่เป็นคู่ขากันเชิงชู้สาวกัน ขณะที่ตัวเองมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว ผู้ก่อเหตุอ้างว่าทำไปเพราะภรรยาจับได้ว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ตาย จึงสั่งให้เลิก แต่ผู้ตายไม่ยอมแถมมาระรานภรรยา จึงตัดสินใจลงมือฆ่าปาดคอแล้วโยนทิ้งคลอง
ล่าสุด เช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ทีมข่าวเดินทางมายัง สภ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการนำตัว “นายก็อต” ผู้ก่อเหตุไปชี้จุดทิ้งโทรศัพท์ของผู้ตาย หลังลงมือฆ่าปาดคอ และโยนลงคลองเสร็จ สังเกตว่าเช้านี้นายก็อตมีสีหน้าที่ผ่อนคลายขึ้น กินนมได้ พูดคุยได้เยอะกว่าเมื่อวาน แววตายังคงมีความเครียดและกังวล
นายก็อต ยืนยันกับทีมข่าวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จริง ๆ แล้วภรรยาเป็นแค่แฟนสาวชาวลาวที่คุยกันมา 1 ปีกว่า ไม่เคยเจอกัน ไม่เคยวิดีโอคอลคุยกัน ส่วนใหญ่จะแชตกับโทรมากกว่า มีการขอเป็นแฟนไปแล้วเมื่อช่วงกลางปี 2563 ส่วนลูกที่ถูกพูดถึงเมื่อวานนั้น ก็เป็นลูกติดของฝ่ายหญิง เป็นลูกชายอายุ 4 ขวบ ไม่ใช่ลูกของตน
ส่วนความสัมพันธ์กับผู้ตายนั้น ตนเพิ่งจะเจอกันทางเฟซบุ๊กได้ประมาณปลายปี 2563 ตอนแรกตนเห็นในเฟซบุ๊กเลยทักไปลองคุยก่อน และรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นสาวประเภทสอง ยอมรับว่าที่อยากคุย ไม่ได้ตกหลุมรัก แต่พอคุยแล้วถูกคอ เพราะเขาคุยดี ไม่เคยบอกรักกัน จึงมีการนัดเจอและมีเพศสัมพันธ์กันอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งต้นปี 2564 แฟนสาวจับได้ว่าตนนอกใจ เพราะเวลาโทรมาจะขึ้นสายซ้อนหลายรอบ จนตนสารภาพไปว่าแอบคุยอยู่กับผู้ตายซึ่งเป็นสาวประเภทสอง หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็มีการโพสต์แขวะกันไปมา
นายก็อต ยืนยันว่าแฟนสาวที่ลาวบอกกับตนแค่ว่าให้เลิกยุ่งกับผู้ตาย แต่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการตัดสินใจฆ่าปาดคอ และตนก็ไม่ได้บอกแฟนสาวด้วยว่าจะก่อเหตุเช่นนี้ ก่อนก่อเหตุประมาณ 2-3 วัน ตนพยายามคุยกับผู้ตายแล้วว่าให้เลิกยุ่งกับตน แต่ผู้ตายไม่ยอมเลิก กลับโพสต์ถึงแฟนสาวตนกับตนอยู่เรื่อย ๆ ทำให้วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน ตนจึงนัดผู้ตายออกมาเจอตรงที่เกิดเหตุ มีดที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นมีดในครัวที่บ้าน พกไปเพื่อจะเอาไว้ขู่ จากนั้นเมื่อมาเจอกันก็พยายามเคลียร์ให้เลิกยุ่งกับตนและแฟนสาวอีกรอบ แต่ผู้ตายก็เงียบ จึงมีปากเสียงทะเลาะกันสักพัก ตนก็โมโหบันดาลโทสะ ผู้ตายหันหลังให้ตนหยิบมีดมาจากใต้เบาะรถ แล้วเข้าปากคอผู้ตายจากด้านหลังทันที เมื่อเห็นว่าเขาตายจึงโยนศพทิ้งคลองแล้วก็นำหลักฐานของกลางไปทิ้งตามจุดต่าง ๆ
ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกผิด จึงอยากขอให้ผู้ตายอโหสิกรรมให้ตน และอยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้ตั้งใจ หากมีโอกาสพ้นโทษก็จะกลับมาขอขมา ส่วนกับแฟนสาวที่ลาวหลังเกิดเหตุตนก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่ก็ทำใจไว้บ้างแล้วว่าเขาจะรับไม่ได้และหายไป รวมถึงทำใจไว้แล้วว่าตัวเองอาจจะต้องติดคุก
เวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจก็ได้คุมตัว นายก็อต ผู้ก่อเหตุ พร้อมให้ใส่หมวกกันน็อกเพื่อป้องกันเหตุรุมประชาทัณฑ์ มายังบริเวณริมแม่น้ำใต้สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ลึกประมาณ 3-5 เมตร พื้นที่หมู่ 11 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ 1 ที่เขวี้ยงมีดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นมีดปอกผลไม้ยาว 4 นิ้ว ห่างจากจุดฆ่าปาดคอและจุดทิ้งศพประมาณ 12 กม.
นายก็อตบอกว่าหลังจากตนนัดกับผู้ตายทางแชตเฟซบุ๊ก แล้วขับมอเตอร์ไซค์ไปรับที่บ้านผู้ตาย หมู่ 12 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี มาเคลียร์และฆ่าก่อนโยนศพทิ้งที่คลองส่งน้ำ หมู่ 11 ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ทั้ง 2 จุดนี้ห่างกันประมาณ 14 กม. จากนั้นตัวเองก็ขับรถมอเตอร์ไซค์มายังแม่น้ำแห่งนี้ เดินไปตรงขอบแม่น้ำก่อนจะเขวี้ยงมีดลงไปอย่างแรง คาดว่าจุดที่มีดตกลงไปจะอยู่บริเวณแม่น้ำเลยกอผักตบชวาไป 50 ซม. หลังจากนั้นก็ขับรถไปอีกจุด เพื่อเอาโทรศัพท์ผู้ตายโยนทิ้งลงคลอง
เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการฉุกเฉินตอบโต้ภัยพิบัติ สมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทราประมาณ 10 นาย พร้อมชุดถังออกซิเจน อุปกรณ์ช่วยหายใจและอุปกรณ์ดำน้ำ วางแผนด้วยการงมหาทวนกระแสน้ำ เพื่อไม่ให้ตัวของเจ้าหน้าที่ไหลไปตามน้ำ กระจายกำลังเป็นวงกว้างรัศมีประมาณ 100 เมตร ใช้เชือกเป็นตัวเชื่อมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดไว้ เคลื่อนตัวเข้าหากันทุก 1 เมตร แต่จะเลี่ยงไม่ให้ตัวสัมผัสกับพื้นดิน และใช้มือกวาดหาแทน เพื่อป้องกันมีดอาจตกอยู่พื้นดินเคลื่อนที่ บวกกับมีการใช้ความเชื่อด้วยการใช้เหล้าขาวกับธูป 1 ดอก ทำพิธีขอเจ้าที่เจ้าทาง
ในขณะที่มีการชี้จุดก็มีครอบครัวของผู้ก่อเหตุทั้งพ่อแม่ พี่สาว และเพื่อนบ้านมาร่วมดู รวมถึงทางฝั่งผู้ตายก็จะมีบรรดาเพื่อนสาวสองและเพื่อนบ้านประมาณ 4-5 คนคอยสังเกตการณ์ด้วย ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีการรุมประชาทัณฑ์หรือตะโกนด่า จากนั้นเวลาประมาณ 12.18 น. เจอมีดบริเวณแม่น้ำห่างจากตลิ่งประมาณ 5 เมตร รวมจุดนี้ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 18 นาที
ต่อมาในเวลา 12.57 น. นำตัวผู้ก่อเหตุมายังจุดที่ 2 เป็นสะพานปูนข้ามคลองส่งน้ำบางขนาก ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ปราจีนบุรี เป็นจุดโยนโทรศัพท์ของผู้ตาย ยี่ห้อง vivo y71 สีดำ ห่างจากจุดแรกที่มีการเขวี้ยงมีดประมาณ 5.2 กม.
นายก็อตบอกว่าเมื่อขับรถมาถึงจุดนี้ ก็จอดรถบนสะพานแล้วก็ลงจากรถ จากนั้นก็เอาโทรศัพท์มายืนหักที่ขอบสะพานเพื่อทำลายหลักฐาน แต่โทรศัพท์ไม่หัก ทำได้แค่งอ จึงตัดสินใจโยนทิ้งลงไปในคลอง หลังจากนั้นก็ขับรถกลับบ้านทันที เนื่องจากกลัวคนจะมาเห็น วันนี้เจ้าหน้าที่ชุดเดิมจำนวน 3 นายจึงต้องลงไปงมพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ ก่อนที่เวลา 13.15 น. เจอโทรศัพท์ในสภาพหักงอ ใช้เวลาไป 18 นาที
นางอ้อย แม่ผู้ตาย อายุ 53 ปี บอกว่า ตนรู้ว่าลูกชายคุยอยู่กับแฟนสาวที่อยู่ฝั่งลาวมาได้สักพัก เห็นหน้าแค่ในรูป ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาตัวจริง ไม่เคยได้คุยด้วย เพราะลูกชายไม่เคยมาปรึกษา ส่วนกับความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายกับผู้ตายนั้น ตนไม่รู้เลยว่าทั้งคู่รู้จักกันตอนไหน และไม่มีวี่แววเลยว่าลูกชายจะมีรสนิยมชอบสาวประเภทสองด้วย
ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุก็ช็อกเหมือนกัน ที่เดินทางมาวันนี้ก็ตั้งใจไว้ว่าจะมาให้กำลังใจลูก แต่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน เพราะตัวเองก็พูดไม่ออกเหมือนกัน เครียด คิดไม่ถึงว่าลูกจะทำได้ขนาดนี้ ไม่เห็นตอนที่ลูกชายออกจากบ้านมาก่อเหตุด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุก็ยังเป็นลูก ตนพร้อมให้อภัยเสมอ แต่คงไม่ได้ยื่นประกันตัว เพราะลำพังตนและครอบครัวก็ขายส้มตำหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินมากพอที่จะมาประกัน คงต้องปล่อยให้ลูกรับกรรมตามกฎหมายไป ทั้งนี้ ตนอยากขอโทษคนตายและครอบครัวแทนลูกชายอีกครั้ง
จากการให้การของผู้ต้องหาเรื่องการโพสต์แขวะของผู้ตายกับแฟนสาวนั้น ล่าสุด 8-9 พฤศจิกายน 2564 ฝ่ายหญิงโพสต์เฟซบุ๊กรัว ๆ ว่า "เอ้ากะเทยบ้านี่สงสัยโรคบ้ากำเริบ โพสต์อะไรก็หนักหัวมันไปหมด, หน้าเหมือนผีแน่อยากเป็นผู้หญิง สภาพ! ไม่มีใครบอกเหรอ ขำวะ โรคจิต ประสาทแดกหรือไง แต่งไม่ดูสภาพ, หมาบางตัวก็ไม่เคยหยุดโรคอยากได้ของคนอื่น สันดาน สงสัยปมเยอะ น่าสงสารเนอะ ขาดความอบอุ่นแน่เลย, ตบตีไม่เท่าไหร่หรอก เดี๋ยวถอดซิลิโคนให้ ไม่ต้องถึงมือหมอ ไม่พอใจเข้าแชท ร้อนตัวเนอะ,
ซึ่งจากโพสต์นั้น ผู้ตายก็ได้แคปมาโพสต์ลงหน้าเฟซบุ๊กตัวเองในวันที่ 9 พฤศจิกายน พร้อมเขียนข้อความว่า "พบหญิงมีอาการบ้าคลั่ง บูลลี่กะเทยเฉย 5555 สภาพ -ีเน่าเลยต้องมาไล่เห่าชาวบ้านเขา เป็นไรก่อน กูไปทำไรให้มึง ห้ะอีลาว" โดยใต้โพสต์นั้น ฝ่ายหญิงก็เข้ามากดหัวเราะ ผู้ตายจึงคอมเมนต์แท็กชื่อแล้วถามว่า "ขำหาพ่-มึงเหรอ" ทำให้ฝ่ายหญิงมาตอบกลับณว่า "กดเผื่อพ่-มึงด้วย พูดแบบนี้สื่อถึงอะไร"
เวลา 14.34 น. ป้าผู้ตาย พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน ได้นำศพของนายอภินัทธ์ ปลูกปลื้ม มาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดบางกระดาน ต.บางกระเจ็ด อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่บ้านเกิดของผู้ตาย นางสมหมาย ปลูกปลื้ม อายุ 54 ปี ป้าของผู้ตาย บอกว่า ตอนนี้แม่ของผู้ตายยังไม่มีเรี่ยวแรงที่จะมางานศพลูก เพราะเมื่อวานหลังทราบข่าวก็เป็นลมไปหลายรอบ ตอนนี้ก็เอาแต่โทษตัวเองว่าดูแลลูกไม่ดี เพราะแม่จะนอนคนละบ้านกับผู้ตาย ส่วนใหญ่จะเจอกันวันอาทิตย์ที่ผู้ตายหยุดงาน ส่วนน้องสาวของผู้ตายต้องอยู่ดูแลแม่ที่บ้าน ตนจึงต้องเป็นธุระไปรับศพ และมาจัดแจงงานศพให้หลานแทน
นอกจากนี้ ผู้ตายเป็นเสาหลักของบ้าน ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยบอกไว้ว่าปีหน้าจะบวชพระให้ พร้อมกับบอกครอบครัวไว้หมดว่าอยากให้งานบวชเป็นอย่างไร ให้แม่ให้น้องใส่ชุดแบบไหน อยากชวนเพื่อนมางานเยอะ ๆ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับผู้ก่อเหตุ ตนยอมรับเลยว่าครอบครัวและญาติญาติไม่มีใครรู้ ยกเว้นน้องสาวที่พอจะรู้บ้างว่าทั้งคู่ไปรับไปส่งกัน พักหลังมาผู้ตายบอกกับน้องสาวว่าจะเลิกยุ่งกับนายก็อต เพราะรู้มาว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว และวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผู้ก่อเหตุมารับผู้ตายไปก็ไม่มีใครเห็นเพราะมันดึก ทุกคนนอนหลับหมด เท่าที่ตนรู้ผู้ตายไม่ได้เป็นคนโฟกัสเรื่องความรักหรือคลั่งผู้ชาย เพราะเวลามีแฟนแล้วมีปัญหาขอเลิกกัน ผู้ตายก็จะเลิก ไม่ยื้อให้มีปัญหา
หลังเกิดเหตุ ยอมรับว่ายังไม่มีโอกาสได้เจอกับครอบครัวผู้ก่อเหตุ ส่วนตัวก็อยากเจอมาก ๆ อยากเห็นหน้า อยากถามผู้ก่อเหตุว่าจิตใจทำด้วยอะไร หากมีปัญหากันแค่ทุบตีก็น่าจะพอ ไม่จำเป็นต้องฆ่ากัน จึงอยากฝากบอกผ่านสื่อฯว่าให้เข้ามาแสดงความรับผิดชอบ เข้ามาเยียวยาบ้าง และหากเป็นไปได้ก็อยากให้ผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพและครอบครัว อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เป็นบ่วงแก่หลาน ตนก็จะขออโหสิกรรมให้ คิดเสียว่าเขาทำเวรกรรมมาด้วยกัน แต่ในใจลึก ๆ ก็ยอมรับว่ายังแค้น ตนยังติดใจอีกเรื่อง คือแฟนสาวฝั่งลาวของผู้ก่อเหตุ เพราะตนปักใจเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการสั่งให้นายก็อตลงมือฆ่าหลานตน สุดท้าย อยากจะบอกกับหลานว่าให้ไปสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงครอบครัว ป้า ๆ น้า ๆ จะช่วยดูแลเอง