เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ใช้อาวุธทำร้ายกันได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายนายคฑาวุธ กลมเกลียว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่ขมับ ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อ นายภาคภูมิ มะเกิ๋น ถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดที่หน้าอก สำหรับจุดเกิดเหตุอยู่กลางหุบเขาที่เป็นผืนป่าดงดิบ โดยยังไม่ระบุสาเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่แน่ชัด
หลังเกิดเหตุ นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ เข้าไปให้ความช่วยเหลือนำร่างผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บออกมาจากป่า โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ รวมทั้งทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลทองผาภูมิ ร่วมเดินทางไปด้วย แต่ไม่สามารถลงไปด้านล่างได้ เนื่องจากอุปสรรคสำคัญคือบริเวณจุดเกิดเหตุ เป็นป่าดงดิบกลางหุบเขา ทางเดียวที่จะลงไปได้คือการโรยตัวเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงส่งเสบียง พร้อมอุปกรณ์กู้ภัย รวมทั้งอุปกรณ์ตัดไม้ลงไปด้านล่าง
พร้อมเเบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 2 ชุด โดยชุดเเรกทำหน้าที่ตัดไม้เคลียร์พื้นที่ ทำลานจอด เฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ส่วนชุดที่ 2 ได้เดินเท้ามุ่งหน้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยอุทยานเเห่งชาติ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
ล่าสุด วันที่ 26 พ.ย. 64 บรรยากาศที่อุทยานเเห่งชาติเขาเเหลม ป้อมปี่ ตำบลปรังผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งถูกใช้เป็นกองอำนวยการภารกิจ เจ้าหน้าที่ได้ประชุมวางเเผนงานเพื่อหาทางช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หาวิธีนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากป่า
พลตำรวจตรีไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า อุปสรรคในตอนนี้คือเรื่องของพื้นที่ที่ยังไม่สามารถจะนำเฮลิคอปเตอร์ลงได้ เนื่องจากมีอุปสรรคคือพื้นที่ตรงจุดที่ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอยู่ มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ทึบเป็นลักษณะของป่าดงดิบ ตัดให้ชุดเดินเท้าที่เดินเท้าเข้าไปตั้งแต่เที่ยงตัดถางพื้นที่ ให้ ฮ. ลงจอดได้
สำหรับเย็นวันนี้จะต้องส่งพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรทองผาภูมิ 1 นาย และกู้ภัยอีก 2 นาย โรยตัวลงไปในพื้นที่ พร้อมกับเสบียงอาหาร ลงไปช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้รับบาดเจ็บ เบื้องต้น อาจจะต้องประเมินนำคนเจ็บออกมาจากพื้นที่ก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตทางกู้ภัยจะต้องตรวจสอบพร้อมกับพนักงานสอบสวน และจัดส่งทีมแพทย์เข้าพื้นที่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และนำผู้เสียชีวิตออกมา ส่วนสาเหตุ หรือเหตุการณ์ขณะนี้ยังไม่ทราบ เนื่องจากจะต้องรอสอบปากคำพยานในจุดเกิดเหตุก่อน
ล่าสุดเวลา 18.30 น. เฮลิคอปเตอร์ที่เข้าไปในพื้นที่ ได้รับผู้บาดเจ็บออกมาจากพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่ได้สำเร็จ โดยใช้สกีของเฮลีคอปเตอร์ แตะกับขอนไม้ด้านล่าง นำผู้บาดเจ็บออกมา ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลทองผาภูมิ ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้บาดเจ็บมีบาดเเผลถูกเเทงด้วยมีด บริเวณกลางหน้าอก 1 เเผล เเต่คมมีดไม่โดนอวัยวะสำคัญ ขณะนี้ปลอดภัยเเล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตต้องรอทีมแพทย์เข้าพื้นที่พรุ่งนี้เช้า
นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ยืนยันว่า ล่าสุดสามารถช่วยเหลือนายภาคภูมิ หรือ เก่ง ได้แล้ว และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลทองผาภูมิทันที เบื้องต้นจากการวัดชีพจรและความดัน รวมถึงออกซิเจนพบว่าปกติ แต่ส่วนบาดแผลตามร่างกายพบว่ามี 2 จุด คือบริเวณหัวเข่าและอก ซึ่งคาดว่าเป็นบาดแผลจากการถูกมีดหรือของมีคมแทงเข้าไป
เบื้องต้น ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่เข้าป่าด้วยกัน ล้วนได้รับการฝึกฝนในด้านการช่วยเหลือปฐมพยาบาลอยู่เเล้ว รวมถึงตัวผู้บาดเจ็บด้วย เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น จึงสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ส่วนผู้บาดเจ็บพูดถามถึงแฟนสาวอย่างเดียว และยังไม่ได้ให้ข้อมูลใด ๆ โดยในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ได้วางแผนใช้เครื่องบินอีกลำของกองทัพบก เพื่อมาช่วยลำเลียงตำรวจ และกองพิสูจน์หลักฐานเข้าพื้นที่ ก่อนจะลำเลียงเจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตออกมา นอกจากนี้ สาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ขอให้ตำรวจเป็นคนให้ข้อมูล ยืนยันว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนในชุดลาดตระเวนเดียวกัน และเป็นคนเรียบร้อย สำหรับจุดเกิดเหตุ อยู่ห่างจากกองอำนวยการ 12-14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้า 2 วัน
น.ส.ศศินภา สุติ ภรรยาของผู้เสียชีวิต อายุ 31 ปี เดินทางมาติดตามปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ที่กองอำนวยการ อุทยานเเห่งชาติเขาเเหลม ป้อมปี่ ตำบลปรังผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สามีเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานมากว่า 14 ปีเเล้ว เป็นคนอัธยาศัยดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ส่วนผู้บาดเจ็บก็เป็นเพื่อนกับสามี ที่ผ่านมาทั้งคู่รักกันมาก เข้าป่าด้วยกันหลายครั้ง ไม่เคยมีปัญหาใด ๆ กันเลย เเละมักจะไปดื่มด้วยกันหลังเลิกงานอยู่เป็นประจำ
โดยก่อนเกิดเหตุสามีเข้าป่าเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ระหว่างนั้นหากจุดไหนมีสัญญาณโทรศัพท์ก็มีการติดต่อกันเป็นระยะ โดยครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกัน คือวันที่ 24 พฤศจิกายน เวลาประมาณเที่ยง สามียังบอกว่าจะโทรหาเรื่อย ๆ ถ้ามีสัญญาณ เเต่ก็ขาดการติดต่อกันไปเลย ซึ่งย้อนกลับไปก่อนที่สามีจะเข้าป่า บอกรายชื่อว่ามีใครไปบ้าง รวมถึงมีรายชื่อของผู้บาดเจ็บด้วย ตนเองก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเป็นทีมงานที่เข้าป่าด้วยกันเป็นประจำ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจ เเต่ทุกอย่างจะขอรอความชัดเจนในวันพรุ่งนี้
ส่วนร่างของสามี หากนำออกจากป่าได้สำเร็จก็จะนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด บ้านหนองจิกตีนเนิน หมู่ 3 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย
นางสมใจ พรมบุญชู 51 ปี อาของผู้ตาย ยังอยู่ในอาการเสียใจ กล่าวด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าว่า หลานชายเป็นคนนิสัยดี ส่วนผู้บาดเจ็บ ตนเองก็รู้จักเป็นคนดีเหมือนกัน เเละทั้งคู่ก็รักกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ เเละวันที่ 20 พฤศจิกายน ก่อนจะเข้าป่ายังมาทานข้าวที่ร้านของตน ทั้งคู่ก็ยังดูปกติ กระทั่งมาทราบข่าวก็ยังรู้สึกช็อก ไม่ทราบว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรกันเเน่ เมื่อคืนก็นอนไม่หลับทั้งคืน ร้องให้คร่ำคราญถึงดวงวิญญาณหลาน ขอให้มาบอกบ้างว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้สิ่งที่กังวลคือเรื่องศพ อยากให้นำออกมาโดยเร็วที่สุด เพราะกลัวจะเน่าในป่า
น.ส.ผึ้ง พี่สาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ล่าสุดที่ได้คุยกันกับน้อง คือวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยน้องโทร.มาบอกกับตนว่าเขาจะกลับบ้านที่ จ.สุโขทัย และได้ชวนตนเองกลับบ้านไปด้วยกัน แต่ตอบตอบกลับไปว่ากลับไม่ได้ เพราะติดงานอยู่ และลางานไม่ได้ จากนั้นน้องก็บอกว่าจะขอเอาหลานกลับไปด้วย ตนเองก็บอกไปว่าให้มารับหลานได้เลย และให้หลานเตรียมตัวเอาไว้วันที่ 25 พ.ย. จะไปรับกลับ การที่น้องมาทำร้ายตัวเองนั้นตนเชื่อว่ามันเป็นไปไม่ได้