กรณีเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนร้ายบุกทุบทำลายเจดีย์ใส่อัฐิ ภายในวัดบ้านติมรัตนาราม หมู่ที่ 15 ต.สะเดาใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภายในวัดดังกล่าว พบพระเสถียร อายุวัฑฒโก อายุ 49 ปี พระลูกวัดบ้านติมรัตนาราม กำลังเดินตรวจสอบความเสียหายบริเวณเจดีย์ธาตุบรรจุกระดูกของผู้เสียชีวิต ที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมกำแพงวัด จากการตรวจสอบพบเจดีย์ดังกล่าวถูกทุบเป็นรูโหว่ จำนวน 24 เจดีย์ โดยคนร้ายได้นำโกศที่บรรจุกระดูกออกมาเทรวมกันเป็นกอง โดยมีผ้าขาวห่อกระดูก และเงินเหรียญปากผีหายไปทุกเจดีย์ สร้างความแตกตื่นแก่ญาติพี่น้อง และชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ค่ำวันที่ 26 พ.ย. 2564 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังวัดบ้านติมรัตนาราม หมู่ที่ 15 ต.สะเดาใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พบกับพระเสถียร อายุวัฑฒโก พระลูกวัด ได้พาทีมข่าวเดินไปดูจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งมีเจดีย์เก็บกระดูกตั้งเรียงกันกว่า 40 อัน และได้รับความเสียหายจากการถูกคนร้ายทุบทำลายปากปล่องเจดย์ เพื่อเอาผ้าห่อกระดูก และเงินปากผีกว่า 24 เจดีย์ โดยขณะทีมข่าวลงพื้นที่ พื้นที่ทางพระสงฆ์ได้เก็บเอาโกศ และกระดูกที่ผู้ก่อเหตุวางทิ้งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
พระเสถียร อายุวัฑฒโก พระลูกวัด เล่าว่า เมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ หลังจากที่ตัวเองกลับจากบิณฑบาตมาที่วัด ได้มีโยมมาบอกตัวเองว่า พบโกศใส่กระดูกวางเรียงรายอยู่หน้าเจดีย์ พอตัวเองเดินเข้าไปดู ปรากฏว่าเจย์ดีถูกคนร้ายทุบเป็นรูเกือบทั้งหมด แล้วเอาเถ้ากระดูกออกมาเทกองรวมกันจนไม่รู้ว่ากระดูกใครเป็นของใคร และไม่พบผ้าห่อกระดูก รวมทั้งเหรียญที่เก็บไว้ในโกฐิ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะมีจุดประสงค์เพื่อเอาผ้าห่อกระดูก และเอาเหรียญไปทำพิธีกรรมทางไสยศาตร์
ตัวเองรู้สึกน้อยใจ ที่ผู้ก่อเหตุเขามาก่อเหตุแบบนี้ เพราะสิ่งของดังกล่าว เป็นทรัพย์สินของชาวบ้าน เขาไม่น่ามาทำแบบนี้ เหตุครั้งนี้ก็ทำให้ชาวบ้านต่างไม่พอใจ เพราะถือว่าเป็นการมาลบหลู่ กระดูกบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นของรักของหวงของชาวบ้าน ส่วนเบาะแสคนร้ายนั้น ไม่มีใครเห็นตอนที่ผู้ก่อเหตุมาทำการก่อเหตุ แต่ก็มีชาวบ้านบางคนเห็นรถมอเตอร์ไซค์ต้องสงสัยมาจอดที่ถนนข้างป่ากล้วย ด้านหลังวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้จุดตั้งเจดีย์ ขับมาจอดเมื่อกลางคืนของวันจันทร์ ที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา
ด้านนางสมัย พงษ์วัน อายุ 44 ปี ชาวบ้านที่ถูกคนร้ายทุบเจดีย์ใส่กระดูกบรรพบุรุษ กล่าวว่า ตัวเองเป็นอีก 1 ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายทุบเจดีย์ญาติเอาผ้าห่อกระดูก และเอาเงินเหรียญในโกศของบรรพบุรุษตัวเองไป ซึ่งในเจดีย์ดังกล่าวนั้นมีกระดูกของคุณตา คุณยาย น้องชาย และของลูกสาวตัวเอง ซึ่งตัวเองรับไม่ได้เป็นอย่างมากที่คนร้ายเขามาทำแบบนี้
ตัวเองรู้สึกเสียใจมากที่คนร้ายทำแบบนี้ โควิด-19 ตัวเองยังไม่กลัวเท่ากับพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ แล้วตัวเองรู้สึกกังวลว่าคนร้ายจะเอาผ้าห่อกระดูกของบรรพบุรุษตัวเองไปทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ หรือทำในเรื่องที่ไม่ดี แล้วทำให้เกิดอาถรรพ์ต่าง ๆ ที่ไม่ดีตามมา ส่วนกระดูกของบรรพบุรุษที่คนร้ายนำมาเทกองรวมกันนั้น ตัวเองก็คิดว่าคงนำมาแยกเข้าโกศคืนไม่ได้แล้วว่ากระดูกของใครเป็นของใคร คงให้ทางพระสงฆ์ที่วัดนำกระดูกดังกล่าวไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับต่อไป ตัวเองอยากสาปแช่งคนร้าย ให้ครอบครัวเขาอยู่ไม่เป็นสุขและทรมาน และขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว