ใครฆ่า "วสันต์" ! คดีวุ่นหนุ่มถูกยิงตาย แม่ชี้พิรุธปืนฝังดิน - สะใภ้ปัดฆ่า ฉะโยนบาปหวังเงิน (คลิป)

จากกรณีพ่อและแม่ของนายวสันต์ โตวะจักร หรือ บ่าว อายุ 28 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกยิงเข้าหน้าอกตรงกับหัวใจ บริเวณข้างบ้านภรรยาของตัวเอง โดยพ่อกับแม่ของผู้ตายเชื่อว่าลูกชายไม่ได้ฆ่าตัวตาย เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุไม่พบปืน แต่มาพบปืนในอีก 3 วันต่อมา โดยถูกนำไปฝังอยู่ในกองทรายไม่ห่างจากจุดที่เสียชีวิต อีกทั้งผู้ตายถนัดมือซ้าย ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีการยิงด้วย ครอบครัวจึงเก็บศพไว้จนกว่าจะได้ผลสรุปทางคดี โดยนำโลงศพไปโบกปูนเก็บไว้ที่วัดท่ามะปริง จ.เพชรบุรี

วันที่ 29 พ.ย. 61 ที่บ้านในพื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของนายวสันต์ โตวะจักร หรือ บ่าว ผู้เสียชีวิต นางวันเพ็ญ โตวะจักร แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า ลูกชายตนเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. โดยวันเกิดเหตุ ช่วงประมาณเที่ยง ตนได้รับโทรศัพท์จากแม่ของลูกสะใภ้ให้มาดูลูกชาย เมื่อตนไปถึงก็เห็นลูกสะใภ้ตาแดงก่ำคล้ายคนร้องไห้ ตนจึงถามว่าเป็นอะไร แต่แม่ของลูกสะใภ้กลับตอบมาว่า ลูกชายตนเข้าใจผิดคิดว่าภรรยามีกิ๊ก ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนรู้สึกผิดสังเกตที่ลูกชายดูเศร้า และเครียดกว่าปกติ

จากนั้น ตนก็ขอตัวกลับบ้าน และขอรถจักรยานยนต์ลูกชายกลับมาบ้านด้วย กระทั่งช่วง 16.00 น. ลูกชายขับรถยนต์ป้ายแดงมาหาตนที่บ้าน พร้อมเปิดเพลงเสียงดัง ขณะนั้นตนเองคิดว่าลูกอาจไม่สบายใจเรื่องที่ทะเลาะกับภรรยา จึงปล่อยให้ลูกชายนั่งเงียบ ๆ เพียงลำพัง ไม่นานนักลูกชายจึงขอเงินตน 100 บาทไปเที่ยว พร้อมยืมกางเกงยีนส์ตนไปใส่ ตนจึงเตือนไปว่าอย่าไปไหนนานนะ เพราะรถเพิ่งซื้อมาใหม่ ซึ่งตนเองคิดว่าคงไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาจะต้องมาฆ่าตัวตาย ช่วงประมาณ 19.00 น. วันเดียวกันนั้น แม่ของลูกสะใภ้โทรศัพท์มาหาตน บอกให้รีบไปดูลูกชาย แต่เมื่อตนไปถึงกลับไม่พบทั้งลูกกระสุนและรถกระบะของลูกชาย ไม่รู้กระทั่งว่าลูกจะบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตนจึงตามไปที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาลจึงทราบว่าลูกชายยิงตัวเอง แต่ขณะนั้นตนยืนกรานไม่เชื่อว่าเขายิงตัวเอง ทั้งนี้ ตนทราบว่าลูกชายถูกยิงในรถยนต์ ทำให้รู้สึกสงสัยว่าเหตุใดจึงนำรถยนต์คันที่เกิดเหตุไปโรงพยาบาลด้วย ทำไมจึงไม่ทิ้งไว้ที่เกิดเหตุให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ส่วนข้อมูลที่ภรรยาผู้เสียชีวิตอ้างว่า ผู้เสียชีวิตได้ปืนมาจากพ่อนั้น นางวันเพ็ญยืนยันว่า พ่อของผู้ตายไม่เคยมีอาวุธปืน แต่ลูกชายไปอยู่บ้านภรรยาถึง 5 ปี หากจะซื้ออาวุธปืนตอนไหนตนก็ไม่ทราบ  ส่วนเรื่องที่ลูกชายตนเคยมีเรื่องกับคู่อริ ก็เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว ตนไม่ทราบรายละเอียด

นางวันเพ็ญ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน เจ้าหน้าที่ก็พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตกอยู่ในกองทรายใกล้กับจุดที่ลูกชายถูกยิง โดยปืนกระบอกนั้นซุกอยู่ในกองทรายที่ค่อนข้างลึก ทำให้ตนสงสัยว่าเหตุตำรวจจึงไม่เจอปืนตั้งแต่วันแรก และเพราะหากเขายิงตัวเองตาย ปืนก็ควรต้องกระเด็นตกอยู่ใกล้เคียงกับที่เขาเสียชีวิต อีกทั้งลูกชายตนเป็นคนถนัดมือซ้าย ทำให้ตนสงสัยว่าจะยิงอย่างไรให้ตัดเข้าขั้วหัวใจได้ ตนมั่นใจว่าลูกชายถูกยิงจากคนใกล้ตัว เพราะหากเป็นคนนอก จะต้องดักซุ่มยิงข้างนอกหรือกลางทาง ไม่มายิงข้างบ้านตัวเองแบบนี้ ส่วนกรณีที่ลูกชายมีความเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเงินเพียง 500 บาท ลูกชายยังให้แม่ไม่ได้เลย ตนยอมรับว่าเคยขอยืมเงินลูกจริง แต่ตนก็จะรีบหาเงินแล้วเอาไปคืนตอนเย็นในวันเดียวกัน สำหรับการกู้เงินจากธนาคาร ตนยืนยันว่า ครอบครัวไม่เคยไปเอาเงินของลูกชายมาปลดหนี้เลยสักบาท ซึ่งหนี้ธนาคารเป็นส่วนของน้องชาย และพ่อก็เป็นคนชำระเอง แต่ยอมรับว่าน้องชายของผู้ตาย เคยยืมเงินผู้ตาย แต่ก็ได้คืนเงินกันหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่า ไม่เคยคิดต้องการเอาเงินของลูก ลูกตนซื้อรถใหม่ ตนก็เคยเอ่ยปากว่าจะช่วยผ่อน ไม่เคยออกตัวว่าอยากได้รถยนต์จากลูก และเชื่อว่าสาเหตุการตายมาจากที่ลูกหึงหวงภรรยา ส่วนรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ตนไม่ทราบ แต่ตนไม่เคยไปรบกวนเงินของลูกชาย ขอสาบานว่า ตนรักลูกสะใภ้คนนี้มาก การที่ลูกสะใภ้มาหาว่าตนไปติดหนี้ลูกชายที่ตายไปแล้ว ตนก็รู้สึกเสียใจที่ถูกใส่ความ ตอนนี้ตนขอภาวนาให้ตำรวจช่วยคลี่คลายคดีโดยเร็ว และจะไม่ยอมเผาศพลูก เพราะตนยังรู้สึกทำใจไม่ได้กับการสูญเสียครั้งนี้

ด้าน นายวิชิต โตวะจักร พ่อผู้ตาย กล่าวว่า ขณะตนไปที่โรงพยาบาลและเห็นสภาพศพของลูกชาย ตนสังเกตร่องรอยกระสุนถูกยิงเข้าที่กลางอกบริเวณหัวใจ ลักษณะเป็นรู ส่วนร่างกายจุดอื่นไม่พบรอยช้ำ ตนได้สัมผัสที่บริเวณนิ้วมือของลูกชาย ไม่พบรอยช้ำ เพราะหากลูกยิงตัวเองก็ควรจะต้องมีรอยการช้ำจากอาวุธปืนบ้าง โดยในวันนั้นยังไม่ไดัมีการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งตนไม่เชื่อว่าลูกชายจะยิงตัวตาย เพราะลูกชายถนัดมือซ้าย แต่วิธีการยิงค่อนข้างแม่นยำตรงกับที่หัวใจ ทั้งนี้ ตนสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ความว่า ปืนที่ลูกชายใช้นั้นเป็นลูกซอง ขนาดยาวเท่าข้อมือ ทำให้ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ลูกจะยิงตัวเอง เพราะปืนมีขนาดค่อนข้างยาว และลักษณะการยิงก็ไม่น่าจะใช้ปืนยิงตัวเองได้ นายวิชิต ยืนยันว่า ปืนกระบอกนี้ ไม่ใช่ปืนของตน และตนไม่เคยมีปืนมาก่อน อีกทั้งตนไม่เคยซื้อปืนให้ลูกหรือภรรยา ที่ผ่านมาตนก็ไม่ทราบว่าลูกมีปืนหรือไม่ เนื่องจากลูกชายเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ ตนไม่ทราบว่ามีแรงจูงใจจากเรื่องใด อย่างไรก็ตาม ตนเองต้องการให้คดีคลี่คลายโดยเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำตนไปหมดแล้ว และตนก็ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องเงินของลูก และไม่เคยไปหยิบยืมเงินของลูก จากนี้ ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับคนร้ายและทำให้คดีกระจ่าง ว่าลูกชายตนฆ่าตัวตายหรือถูกยิงตาย

ขณะที่ นางสาวภาวิณี พรมเล็ก หรือ มิ้ง ภรรยาของผู้ตาย เปิดใจว่า ในวันเกิดเหตุช่วงกลางวัน สามีพูดกับตนว่า ฝันว่าพลัดตกจากที่สูง รู้สึกใจหาย ตนจึงปลอบใจ จากนั้นสามีตนก็ไปเล่นกับลูกตามปกติ แล้วเขาก็ร้องไห้ขึ้นมา แม่ตนจึงโทรศัพท์ไปหาแม่ของสามีให้มาหา หลังแม่สามีมาหาแล้วกลับบ้านไป สามีตนก็ร้องไห้อีกครั้ง พร้อมกับตัดพ้อว่าตัวเองไม่เหลืออะไรแล้ว “กูเหนื่อย บ้านที่กูทำมาก็หมด รถที่กูมีก็มาเอาของกู กูไม่เหลืออะไรแล้ว กูเหนื่อยแล้ว” จากนั้นสามีตนก็บอกว่าเดี๋ยวจะเอาพระไปคืนพ่อที่บ้าน หลังจากนั้น ช่วงค่ำตนเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด โดยตนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ทำให้ไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ของสามีขณะขับออกไป แต่ลูกสาวตนอยู่บ้านหลังที่ติดกับจุดที่ผู้ตายถูกยิง ได้ยินเสียงรถพ่อกลับมาก็วิ่งมาบอกคนในบ้าน ทั้งนี้ ตนเองยืนยันว่าสามีตนไม่ได้ยิงตัวตายในรถ แต่เสียชีวิตที่ข้างรถฝั่งคนขับ ซึ่งตอนเกิดเหตุ ตนไม่ทันได้สังเกตอาวุธปืน คิดเพียงแค่ว่าต้องรีบพาสามีไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

นางสาวมิ้ง กล่าวต่อว่า ตนเองเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ สามีเป็นคนยิงตัวตาย โดยแรงจูงใจมาจากที่ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวเยอะ ทั้งหนี้ธนาคาร ภาระค่าผ่อนรถให้น้องชาย เพราะน้องชายไม่ทำงาน สามีต้องถอดแหวนตนไปให้น้องชายจำนำ แล้วพ่อของสามีขอเงินดาวน์รถยนต์จากสามีตนอีก ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายพยายามกล่าวหาว่าตนมีกิ๊ก ตนก็อยากให้เขาช่วยดูสภาพหนังหน้าตนด้วย หากใครกล่าวหาว่าตนมีกิ๊กจริง ก็ช่วยไปเอากิ๊กของตนมายืนยันด้วยว่าเป็นสามีใหม่ตนหรือเปล่า ดูดีกว่าสามีตนหรือไม่ ตนอยู่กับสามีมา 8 ปี ไม่เคยมีเรื่องพวกนี้ การที่แม่สามีกล่าวหาตนแบบนี้ จึงไม่ใช่ความจริง ซึ่งตนไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องนี้มาก่อน ส่วนตัวจึงมองว่าเป็นไปได้ที่สามีจะฆ่าตัวตาย เพราะมีคนเป่าหูเขาเรื่องตนมีกิ๊ก และเรื่องเงินภาระค่าใช้จ่าย วันเกิดเหตุที่แม่ตนโทรศัพท์ไปบอกอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีการบอกแม่สามีว่า สามีตนร้องไห้เพราะตนมีกิ๊ก แล้วการที่อีกฝ่ายมาเรียกร้องว่าสามีตนไม่ได้ฆ่าตัวตายนั้น ตนคิดว่าเป็นเพราะเขาอยากได้เงินมากกว่า เนื่องจากสามีตนเป็นคนหาเงินหาทองให้ พอเขาตายไปแล้ว ครอบครัวฝ่ายชายคงไม่รู้ว่าจะเอาเงินจากใคร นอกจากนี้ ยังมีจดหมายที่ก่อนตาย สามีตนเขียนทิ้งไว้ ในลักษณะตัดพ้อว่าขอให้ตนดูแลลูกให้ดี คนใหม่ของตนสามารถเลี้ยงลูกตนได้ เจ้าตัวคงทำบุญมาแค่นี้ ถึงพาลูกไปถึงฝั่งฝันไม่ได้ ทั้งยังขอโทษพ่อแม่ตนให้อโหสิกรรมให้ ตนจึงคิดว่าเขาคงเข้าใจผิดที่ตนมีกิ๊ก และจดหมายฉบับนี้ก็พบในรถ ซึ่งเขาเขียนทิ้งไว้ในวันเกิดเหตุ

ส่วนการยิงตัวตาย ตนขอยืนยันว่า ตนเคยเห็นสามีใช้อาวุธปืนยิงจากมือขวา ทั้งยังเคยบอกตนว่า ปืนกระบอกนี้พ่อเขาเป็นคนซื้อมาให้เขาไว้ป้องกันตัวหลังจากมีเรื่องกับคู่อริ แล้วหากอีกฝ่ายบอกไม่รู้จักปืนกระบอกนี้ ตนก็ขอท้าให้ไปสาบานกับกรมหลวงชุมพร ถ้าเขาโกหก ไม่พูดความจริง ก็ขอให้ตายโหง เพราะวิญญาณพี่บ่าวมีจริง อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่ติดใจสาเหตุการตายแล้ว และเชื่อว่าครอบครัวสามีคงอยากได้เงิน เพราะบ้านเขาชอบกิจกรรมบางอย่าง ส่วนตัวตนเองก็อยากให้ตำรวจเร่งสรุปผลของคดี และดำเนินการเผาศพสามีตน เพราะคนตายไปแล้วก็ควรที่จะให้ไปสบาย