ความคืบหน้าคดีที่มีหญิงสาวแจ้งความอดีตพระบุญช่วย อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำประกายเพชร บ้านโพนสว่าง ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ข่มขืน เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการตรวจดีเอ็นเอ ปรากฏว่า ดีเอ็นเอตรงกับอดีตพระบุญช่วย ซึ่งตอนนั้นอดีตพระบุญช่วย ได้ปฏิเสธ และไม่ทราบว่าอสุจิเข้าไปอยู่ในช่องคลอดของสีกาได้อย่างไร ระหว่างนั้น มีผู้เสียหายทยอยเข้าร้องเรียน โดยบอกว่า ถูกลวนลาม ขณะเข้าไปเที่ยววัด โดยอดีตพระบุญช่วย จะทักว่ามีสิ่งไม่ดีอยู่ในตัวต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์ หลังจากนั้น ผอ.สำนักพุทธศาสนา จ.เลย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปยังพบอดีตพระบุญช่วย ก่อนที่ จะยอมสึก โดยได้กล่าววาจาจะขอสึกเพื่อไปต่อสู้คดี เมื่อ วันที่ 21 กันยายน
โดยวันที่ 29 พ.ย. 61 ที่ศาลจังหวัดเลย มีการอ่านคำพิพากษาคดีนี้ โดยอดีตพระบุญช่วยรับสารภาพว่า ข่มขืนผู้เสียหายจริง และไม่ขอต่อสู้คดี ศาลจึงพิพากษาให้จำคุก 8 ปี แต่รับสารภาพ ลดเหลือ 4 ปี
วันที่ 30 พ.ย. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ 1 ในผู้เสียหาย ที่เคยถูกลวนลาม กล่าวว่า หลังรู้ข่าวว่าศาลตัดสินแบบนี้ ก็เห็นว่าสมควรแล้ว เพราะเป็นพระ ไม่ควรประพฤติตัวแบบนี้ ซึ่งตนเองก็ถูกลวนลาม หลังจากโดนทักว่ามีเคราะห์ และให้เข้าไปทำพิธีในกุฏิพระ ซึ่งตอนนั้นตนได้ให้ยายเข้าไปด้วย แต่ยังโดนลวนลามจับหน้าอก เพราะอดีตเจ้าอาวาสใช้อุบายว่า ให้ยายหลับตานั่งสมาธิ โดยปกติตนชอบไปวัด เลื่อมใสในตัวเจ้าอาวาส เพราะคิดว่าเป็นคนดี และก็เห็นว่าชาวบ้านชอบไปหา แต่พอเข้าไปเจอแบบนี้ ก็ไม่อยากเข้าวัดนี้อีกเลย ทั้งนี้ การบวชเป็นพระแล้ว การทำแบบนี้ไม่ควร เพราะตัดสินใจบวชแล้ว ละทางโลกแล้ว น่าจะปฏิบัตตัวให้ดี ให้น่านับถือ ไม่ควรมาทำตัวแบบนี้